xs
xsm
sm
md
lg

สรส.บุกทำเนียบ ยื่นคัดค้านแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หวั่นประเทศเสียหาย-ประชาชนเดือดร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สรส. บุกทำเนียบยื่นคัดค้านแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หวั่นประเทศเสียหาย-ประชาชนเดือดร้อน พร้อมควบคุมราคาน้ำมันแพง ก๊าซ ค่าไฟฟ้าไม่ให้มีราคาแพงจนเกินความจำเป็น


วันนี้ (26 พ.ย. 67) ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาด้านการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ สปน. และนายตรี อัญชลีสังกาศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำด้านสังคม สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลที่เข้ารับหนังสือกลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ซึ่ง สรส. มีแถลงการณ์ ว่า สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เห็นว่ารัฐบาลควรยุติการแปรรูปวิสาหกิจเพราะประเทศชาติเสียหายเพื่อประชาชนเดือดร้อนในการดำรงชีวิต ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลยกเลิกการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบและยุติการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ดังต่อไปนี้

1. ขอให้รัฐบาลยกเลิกการแปรรูปวิสาหกิจทุกรูปแบบและทบทวนภารกิจแห่งรัฐด้านการจัดบริการสาธารณะที่เอื้อประโยชน์เอกชน เพื่อให้รัฐวิสาหกิจได้ทำหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะของประเทศเพื่อความมั่นคงของชาติและประชาชน

2. ขอให้รัฐบาลหยุดร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. ….. ที่มุ่งทำลายกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย และรัฐวิสาหกิจด้านการขนส่งทางรางแทนการพัฒนาการกำกับดูแลการขนส่งทางรางทั้งระบบ รวมถึงให้กระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนเอกสาร สิทธิที่ออกโดยไม่ชอบทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีกลุ่มนายทุนนักการเมืองครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และชำระหนี้สินคงค้างจำนวน 288,000 ล้านบาท คืนให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย

3.ขอให้รัฐบาลบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมแก่ความจำเป็นในการใช้งานเพื่อไม่เป็นภาระแก่ประชาชน ให้การไฟฟ้าฝ้ายผลิตแห่งประเทศไทย รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงพลังงานได้เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าหลักของประเทศ รวมถึงดำเนินการศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้าและสายส่งของรัฐ และรัฐต้องผลิตไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 70 ของปริมาณแผนการใช้ไฟฟ้าของประเทศ การสร้างโรงไฟฟ้า จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อทดแทนพร้อมทั้งการทบทวน หรือยกเลิกสัญญารับซื้อไฟฟ้าของเอกชนที่ไม่เป็นธรรม และการรับผิดชอบหนี้เงินกู้ที่มาจากค่าพร้อมจ่ายเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน

4. ขอให้รัฐบาลยกเลิกมติ ครม. เมื่อ 27 ก.ย. 59 เพื่อเป็นการยกเลิกการยึดสัมปทานเส้นทางเดินรถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยกรมการขนส่งทางบกเพื่อให้เอกชนมาเดินรถแทน จนประชาชนต้องแบกรับค่าโดยสารที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชน และให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ดำเนินการบริหารจัดการเส้นทางเดินรถเพื่อบริการประชาชน กทม. และปริมณฑล

5. ขอให้รัฐบาลได้พัฒนากิจการด้านการจัดบริการสาธารณะด้านสุราสามทับ (แอลกอฮอลบริสุทธิ์) เพื่อให้องค์การสุรา กรมสรรพสามิต ได้ผลิต และจำหน่ายสุราสามทับภายในประเทศตามภารกิจแห่งรัฐตามกฎหมาย และให้มีการตรวจสอบมาตรฐานเอกชนที่ผลิตสุราสามทับในรูปแบบวัตถุเจือปนอาหารมาจำหน่ายแทนองค์การสุรา และได้สิทธิเสียภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 0 เพื่อให้รักษาผลประโยชน์นำรายได้ส่งรัฐในการบริหารจัดการด้านสุราสามทับของประเทศ รวมถึงร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการภารกิจสาธารณะด้านสุราสามทับของรัฐเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

6. ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดการภารกิจสาธารณะด้านการส่งเสริมกิจการโคนมขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย คำนึงถึงความมั่นคง และประโยชน์สูงสุดของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเชื่อมโยงสู่สถาบันเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม รวมถึงการบริหารจัดการภายในที่โปร่งใสยึดหลักธรรมาบาล และต้องไม่นำสัญลักษณ์แบรนด์โคนมไทย-เดนมาร์ก ไปให้เอกชนต่างชาติหาประโยชน์ เพื่อรัฐบาลจะได้สานต่อพระราชปณิธานของ ร.9

7. ขอให้รัฐบาลหยุดขยายสัมปทานทางด่วนกับเอกชน และให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจเป็นกลไกของรัฐดำเนินการ รวมถึงการทบทวนการแก้ไขสัญญาเพื่อการขยายสัมปทานโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช)

8. ขอให้รัฐบาลหยุดนโยบายการให้เอกชนสัมปทานหรือร่วมทุนเอกชน (PPP) ในโครงการ
รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ส่วนต่อขยาย และให้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ (บริษัทลูกของ รฟท.) เป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินการเอง เพื่อประสิทธิภาพการจัดบริการสาธารณะด้านขนส่งทางรางระบบไฟฟ้าของประเทศ

9.ขอให้รัฐบาลทบทวนการสร้าง Entertainment Complex ครบวงจรที่อาจส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการสาธารณะด้านการขนถ่ายสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ถือเป็นการดำเนินการ ของรัฐบาลที่ขัดกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

10. ขอให้รัฐบาลตรวจสอบ และปรับปรุงการบริหารจัดการองค์การคลังสินค้า ให้มีความโปร่งใส ป้องกันการทุจริตจนส่งผลกระทบต่อภารกิจในการจัดบริการสาธารณะด้านการคลังสินค้าของประเทศ

11. ขอให้รัฐบาลทบทวนการกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบให้กับการยาสูบแห่งประเทศไทย รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการนำรายได้ส่งรัฐ รวมถึงการพัฒนากิจการบริการสาธารณะด้านยาสูบของรัฐ และการส่งเสริมอาชีพที่มั่นคงให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบของไทย

12. ขอให้รัฐบาลยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 41 ที่กำหนดให้รับพนักงานรัฐวิสาหกิจได้ในอัตราร้อยละ 5 ของจำนวนผู้เกษียณอายุ เพื่อเพิ่มจำนวนพนักงานรัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับภารกิจการจัดบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างทั่วถึง รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณในภาพรวมของรัฐวิสาหกิจ

13. ขอให้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้ยกเลิกการเสนอผู้บริหารแผนจากภาครัฐ เข้ามาเพิ่มในคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการแผนฟื้นฟูกิจการ

14. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดหารถโดยสารใหม่ให้กับ บริษัท ขนส่ง จำกัด เพื่อทดแทนรถเก่าและเพื่อให้การจัดบริการสาธารณะด้านการขนส่งประชาชนของรัฐมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
15. ขอให้รัฐบาลคงสถานะรัฐวิสาหกิจขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เอาไว้ เพื่อประโยชน์ในการจัดบริการสาธารณะของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ด้านการศึกษาของประเทศเพื่อชาติและประชาชน

16. ขอให้รัฐบาลควบคุมราคาน้ำมันแพง ก๊าซ ค่าไฟฟ้าไม่ให้มีราคาแพงจนเกินความจำเป็น จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ รวมถึงการนำเอา ปตท. กลับมาเป็นกิจการของรัฐอย่างแท้จริง เพื่อให้บริการจัดการสาธารณะด้านการน้ำมัน และก๊าซของประเทศเพื่อความมั่นคงของชาติ และประชาชน และสนับสนุน การปรับปรุงกฎหมายการสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่เป็นธรรมทั้งระบบ


กำลังโหลดความคิดเห็น