“ภูมิธรรม” ไม่ทราบตั้ง JTC เจรจากัมพูชาตาม MOU44 ทันเข้า ครม.29 พ.ย.นี้หรือไม่ ต้องถาม กต. ย้ำ ไม่น่ากังวล กว่าจะผ่านต้องให้ประชาชน 2 ฝ่าย และสภาเห็นสภา ทั้งต้องอยู่ภายใต้กฎหมายทางทะเลสากล ไม่ห่วง “สนธิ” ยื่นหนังสือที่ทำเนียบ อ้างเป็นเรื่องเดิมๆ ตอบโต้กันไปมา จะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้อีกแล้ว
วันนี้ (26 พ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าคณะกรรมการเทคนิคฝ่ายไทย (JTC) เพื่อเจรจากับกัมพูชา ตาม MOU2544 จะมีการนำเสนอชื่อเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในวันที่ 29 พฤศจิกายน นี้ หรือไม่ ว่า ต้องดูในเรื่องของกระทรวงต่างประเทศมีความพร้อมหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ มีหัวใจหลักคือคนที่มีความรู้ทางเทคนิค กฎหมายทะเล และการทำแผนที่ทางทะเล ซึ่งก็จะมีกรมอุทกศาสตร์ที่มีเจ้าหน้าที่เข้าใจเรื่องทางทะเลและกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่มีนักกฎหมายจำนวนมาก โดยต้องยืน 2 หน่วยงานนี้และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยพยายามให้มีคนที่มีแนวทางเข้าใจให้กว้างมากที่สุดเพื่อจะทำให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด
ส่วนรายชื่อคณะกรรมการจะออกมาอย่างไร ส่วนตัวยังไม่รู้ แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวลใจ เพราะรัฐบาลพยายามที่จะทำมีความชัดเจนมากที่สุด แต่เรื่องนี้ถือว่าถูกควบคุมไว้อย่างดีแล้ว เนื่องจากในเอ็มโอยู 44 การสรุปผลใดๆ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยต้องได้รับความเห็นชอบจาก 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ประชาชนทั้งสองฝ่ายและต้องเข้าสู่สภาพิจารณา รวมถึงต้องยืนตามกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศ ดังนั้น ไม่ว่าผลสรุปจะมาอย่างไรก็ต้องผ่าน 3 เงื่อนไขนี้หากไม่ผ่านก็ไปต่อไม่ได้
ดังนั้น จึงไม่อยากให้ใครกังวลใจและพยายามจะเลือกกรรมการที่ดีกว้างขวาง มีความรู้เชิงเทคนิคมากที่สุด ทั้งนี้ ส่วนตัวจึงไม่ค่อยอยากจะออกมาพูดเรื่อง นี้เพราะเป็นเรื่องมีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน ซึ่งตอนนั้นได้พูดเรื่องถึงเกาะกูด ก็พยายามบอกว่าเกาะกูดเป็นของไทยตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส ก็ถูกกล่าวหาว่าเอาเกาะกูดไปเปลี่ยนประเด็น จึงไม่ค่อยอยากจะให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ และคิดว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องเอ็มโอยูอีกแล้ว จนกว่าจะมีคณะกรรมการและมีความคืบหน้าที่มากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเอาเรื่องมาทะเลาะเบาะแว้ง หรือโยนประเด็นไปมาไม่เกิดประโยชน์ จึงอยากให้ใจเย็นๆ แล้วรอกระบวนการทั้งหมดจบสิ้น เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาก็จะมีการนำเสนอความเห็นต่างๆ และนำไปร่วมพิจารณา หลังพิจารณาเสร็จแล้ว จะเป็นอย่างไรก็จะเข้าสู่เวทีสภา ที่ต้องหารือ รวมถึงประชาชนก็ต้องทำความเข้าใจกัน เพราะมีกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศที่ควบคุมอยู่แล้ว
ดังนั้น อยากจะให้สัมภาษณ์เพียงแค่นี้ ไม่อยากให้เถียงกันไปเถียงกันมา และไม่อยากเถียงอะไรกับใครอีกต่อไป ส่วนตัวอยากทำงานทั้งนี้ตนเองตอบไม่ได้ว่าจะทันเข้าสู่การประชุมครมสัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ เพราะนายกฯเคยพูดว่าจะให้เร็วที่สุด อีกทั้งส่วนตัวก็ยังตอบไม่ได้เพราะคณะกรรมการเดิมให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกรมความมั่นคง เป็นประธานแต่ตอนนี้ตนเองก็ไม่ทราบ
ส่วนที่ นายสนธิ ลิ่มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โจมตีรัฐบาลในประเด็นนี้ นายภูมิธรรม กล่าววว่า เรื่องนี้ตนเองมองว่าไม่เป็นไร การที่จะมายื่นหนังสือที่ทำเนียบก็ถือว่าเป็นสิทธิ เป็นประเด็นเดิมๆ ถ้าตราบใดที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมายก็ทำได้ ส่วนตัวเองจะรับหรือไม่นั้น ตนเองไม่เกี่ยวข้อง และยังไม่ได้รับแต่งตั้ง และตนเองก็ไม่ได้ฟังรายละเอียดที่นายสนธิพูด