xs
xsm
sm
md
lg

จากปาก "สายหยุด-อาคม" ทนายตั้ม ขอให้พลิก "ดำเป็นขาว" ไม่สนประกันภรรยา ไม่วางบ้านหรู ไม่คืนเงิน ** คนเมืองคอนฯช่วยกันล้มช้าง ให้บทเรียน “บ้านใหญ่เดชเดโช”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สายหยุด เพ็งบุญชู --อาคม คงสวัสดิ์ - วาริน ชิณวงศ์ – ชัยชนะ เดชเดโช
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ จากปาก "สายหยุด-อาคม" ทนายตั้ม ขอให้พลิก "ดำเป็นขาว" ไม่สนประกันภรรยา ไม่วางบ้านหรู ไม่คืนเงิน

ตามความคาดหมายก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวแพลมออกมา "ทนายปาเกียว" สายหยุด เพ็งบุญชู ขอยุติบทบาทเป็นทนายความว่าความให้กับ "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด

เท่ากับว่า “ทนายตั้ม” ไม่มีทนายในสำนักงานตัวเอง ให้พึ่งพาแล้ว

ฟังจากปากทนายปาเกียวที่ไปออกรายการโหนกระแสของ “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย แล้วก็ตกใจ เหตุผลที่สายหยุด ไม่ไปต่อ เพราะ “ษิทรา” จะขอให้พลิกจาก "ดำเป็นขาว"

ครั้นเสนอให้รับสารภาพ เพราะหลักฐานและประจักษ์พยานใน "กรรม" ต่างๆ ที่รวมเป็นข้อกล่าวหาทนายตั้ม "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" หรือ "โกงเป็นสันดาน" ตวัดมัดตัว แต่ “ทนายตั้ม” กลับบอกว่าจะขอสู้หมด

“ทนายตั้ม” จะสู้อย่างไรไม่มีใครรู้ แต่ทนายสายหยุดรู้ว่า ทำไม่ได้ แล้วยิ่งมีเรื่องเอกสารหลักฐานอะไรที่จะต้องเอาไปเบิกความ ถ้าตัวเองไม่แน่ใจว่าเป็นของจริง หรือปลอม ไม่กล้าเอาตัวเองไปเสี่ยงแน่นอน

แล้วก็รู้ว่าหากฝืนทำตาม “ทนายตั้ม” สั่ง ก็ไม่เอาอีกแล้ว เพราะเห็นแล้วว่าจะเดินไปสู่อะไร?

เรียกว่า ประสบการณ์การเป็นทนายของ "ทนายปาเกียว" ดูออก ตัวเองหยุดเสียแต่ตอนนี้ยังไม่สาย!

ขณะที่ “ทนายตั้ม” ไม่หยุด แม้แต่ข้อเสนอของทนายสายหยุดที่ว่า ให้สละบ้านหรูที่ซื้อมา 41 ล้าน ตกแต่งไปประมาณ 20 ล้าน แล้วยังมีเงินที่ถูกอายัดไว้อีก 28 ล้าน ทรัพย์สินรวมๆ ก็เกือบร้อยล้าน ถือว่าแทบจะล้นจำนวนหนี้แล้ว เอาไปวางค้ำที่ศาล จะได้พิสูจน์กันไปเลย ถ้าผิดก็คืน “พี่อ้อย”เขาไปทั้งหมด ก็แค่นั้น แต่ “ทนายตั้ม”ไม่ยอม!

ขณะที่ "ทนายโจ้" อาคม คงสวัสดิ์ พี่ที่ “ษิทรา”เคารพรัก ทนายความของ"เดือน" ภรรยาของตั้ม ขอเอาโฉนดบ้านหรูหลังดังกล่าว มาเป็นหลักทรัพย์ ยื่นประกันตัวเดือน คำตอบที่ทนายตั้มตอบกลับ “ทนายอาคม”ถึงกับอึ้ง... “เอาโฉนดมาวาง แล้วผมจะเอาโฉนดที่ไหนประกันตัว”

เมื่อ “ทนายตั้ม” ไม่ยอม ประเด็นนี้ ทนายอาคมจึงมองว่า ประตูมีอยู่บานเดียว ออกได้คนเดียว แต่สิ่งที่ ตั้มตัดสินใจวันนี้ คือการจะเบียดกันออก มันไม่มีทางทำได้ กลายเป็นว่ามันจะออกไม่ได้กันทั้งคู่

“ทนายอาคม” ยังเล่าอีกว่า ไปเยี่ยมทนายตั้มมาเมื่อวันศุกร์ เขาถามคำแรกว่า...ผมจะรอดไหมพี่ !?

ตอนนั้น “ทนายอาคม” ว่าเคยบอกกับทนายตั้มตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าคุกไปแล้วว่า ให้คืนเงิน “พี่อ้อย” ไปเถอะ เพราะเขายืนยันหนักแน่นว่า เงินนี้เขาไม่ได้ให้ คำตอบของตั้มคือ “คืนก็หมดตูดดิพี่”  

นี่เป็นคำบอกเล่าจาก “ทนายสายหยุดและทนายอาคม” คนสองคนที่ใกล้ชิดทนายตั้มที่บ่งบอกว่า ณ วันนี้ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เกินเยียวยา ไม่ถอย ไม่หยุด ไม่ยอม ไม่ฟัง ไม่เชื่อ!

วาริน ชิณวงศ์ – ชัยชนะ เดชเดโช
++ คนเมืองคอนฯช่วยกันล้มช้าง ให้บทเรียน “บ้านใหญ่เดชเดโช”

เมื่อวันอาทิตย์ที่
24พ.ย.ที่ผ่านมา
มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ถึง
3จังหวัด
คือที่ อุดรธานี เพชรบุรี
และ นครศรีธรรมราช
ไฮไลต์
อยู่ที่ จ.อุดรธานี
เพราะคู่ชิงดำ เป็นคนจากสองขั้วการเมือง
คือ “คณิศร ขุริรัง”
ลงสมัครในนามพรรคประชาชน
ส่วน “ศราวุธ เพชรพนมพร”
เป็นคนของพรรคเพื่อไทย

ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง
ทั้งสองพรรคต่างขนแกนนำลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียง
“ ทักษิณ ชินวัตร”
ที่ห่างหายจากเวทีปราศรัยไป
18ปี
ก็กลับมาสวมบทแม่ทัพ
นำไพร่พลลงไปช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย

ขณะที่พรรคประชาชน
ก็ระดมแกนนำลงพื้นที่ไปเต็มอัตราศึกเช่นกัน
ทั้ง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์,
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
,ปิยบุตร
แสงกนกกุล,
ชัยธวัช ตุลาธน
,ช่อ
พรรณิการ วานิช และ ณัฐพงษ์
เรืองปัญญาวุฒิ
หัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านฯ

นอกจากปะทะกันบนเวทีหาเสียงแล้ว
ยังมีติดพันมาบนหน้าสื่อด้วย
จนสำนักโพล
ต้องหยิบมาเป็นประเด็นสอบถามความเห็นจากประชาชน
ซึ่งผลที่ออกมาคือ ประชาชนเห็นว่า
นั่นเป็นแค่การแสดงละครเท่านั้น

สุดท้ายผลการเลือกตั้งออกมาคือ
ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยได้
327,487คะแนน
ชนะ ผู้สมัครจากพรรคประชาชนที่ได้
268,675คะแนน

แต่แกนนำของพรรคประชาชนบอกว่า
นั่นไม่ใช่ความพ่ายแพ้
แต่เป็นการพัฒนา ในทางที่ดีขึ้น
เพราะเลือกตั้งนายกอบจ.
ครั้งก่อน
คนของพรรคได้เพียง185,801
คะแนน ครั้งนี้ได้ถึง
268,675คะแนนจึงมีกำไรตั้ง
82,874คะแนน

ส่วนสนามเลือกตั้งนายก
อบจ.เพชรบุรี
“ชัยยะ อังกินันท์” แชมป์เก่า
ชนะ “กฤษณ์ แก้วอยู่”
ผู้ท้าชิงขาดลอย169,208
ต่อ57,574
คะแนน

สำหรับสนามเลือกตั้งนายก
อบจ.นครศรีธรรมราช
แม้ว่าในช่วงหาเสียงไม่ค่อยมีข่าวคราวเท่าใดนัก
แต่ผลออกมากลับเป็นที่ฮือฮา
เพราะมีรายการ “ล้มช้าง”

สนามนี้ตัวยืนคือ
“กนกพร เดชเดโช” หรือ “นายกต้อย”
ผู้สมัครหมายเลข1
อดีตนายก
อบจ.นครศรีธรรมราช
จากกลุ่มพลังเมืองนคร
ที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแบ็ก
เพราะ “กนกพร” คือแม่ของ
“ชัยชนะ เดชเดโช” สส.เมืองคอน
2สมัย
และเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ผู้ท้าชิงคือ
“วาริน ชิณวงศ์” หรือ “น้ำ”
หมายเลข2
ผู้สมัคร
จากกลุ่มนครเข้มแข็ง
ที่มีพรรคภูมิไทยให้การสนับสนุน

ผลปรากฏว่า
“วาริน” ได้328,823
คะแนน ชนะ “กนกพร”
ที่ได้294,835
คะแนน มีผลคะแนนต่างกันถึง
33,988คะแนน
จึงถือว่าเป็นการ “พลิกล็อก”
มโหฬาร

จะไม่ให้เป็นที่ฮือฮาได้อย่างไร
เพราะ “กนกพร” เป็นอดีตนายกฯอบจ.เมืองคอน
มาร่วมสี่ปี แถมมีลูกชายสองคน
เป็น ส.ส.นครศรีธรรมราช
พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคู่
คือ ชัยชนะ และ พิทักษ์เดช
เดชเดโช

โดยเฉพาะ
“ชัยชนะ” ยังเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้
มีบทบาทอย่างมากในพรรค
คือเป็นเบอร์สามในประชาธิปัตย์
รองจาก “เฉลิมชัย ศรีอ่อน”
หัวหน้าพรรค และ “เดชอิศม์
ขาวทอง” เลขาธิการพรรค
เท่านั้น รวมถึงยังสร้าง
“ตระกูลเดชเดโช” ให้ขึ้นมาเป็น
“บ้านใหญ่นครศรีธรรมราช”ได้สำเร็จ

ส่วน“น้ำ”
วาริน ชิณวงศ์ นั้น เด็กปั้นของ
“โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ
รมว.แรงงาน
แกนนำพรรคภูมิใจไทย สายใต้
ที่ช่วงแรกคนมองว่า
กระดูกคนละเบอร์กับ “นายกต้อย”
แต่กลายเป็นม้าตีนปลาย
แซงช่วงโค้งสุดท้าย
และเข้าวินไปในที่สุด

เบื้องหลังความพ่ายแพ้ของ
“บ้านใหญ่เดชเดโช” ครั้งนี้
ว่ากันว่า สาเหตุหลักๆ
เพราะคนเมืองคอน
ที่เป็นฐานใหญ่ของประชาธิปัตย์ภาคใต้
ต้องการสั่งสอน
“ชัยชนะและพรรคประชาธิปัตย์”
ที่ไปร่วมรัฐบาลกับ
“ทักษิณและเพื่อไทย”
ซึ่งเป็นเรื่องที่คนนครฯ
จำนวนไม่น้อย เดือดดาล!!

ยังมีกรณี
“ชัยชนะ” เอา กมธ.ตำรวจฯ
ที่ตัวเองเป็นประธานฯ
ทำขึงขังไปตรวจสอบเรื่อง
“ชั้น14ทักษิณ”
แต่สุดท้าย กลายเป็นปาหี่
ไม่เอาจริง แถมยังเป็นตัวตั้งตัวตี
ในการเอาประชาธิปัตย์
ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณ

อีกเรื่องที่คนนครฯ
ไม่พอใจมากๆ คือ การที่
“ชัยชนะ” ยกมือไหว้
“ทักษิณ”อย่างพินอบพิเทา
กลางงานดินเนอร์ทอล์ก ขอ
สื่อค่ายบางนา
ที่เชิญ ทักษิณไปแสดงวิสัยทัศน์
กิริยา ท่าทางแบบนี้ คนเมืองคอนบอก
รับไม่ได้!!

ทำไมต้องไปหงอให้
“ทักษิณ” ขนาดนั้น
เสียเหลี่ยมคนนครฯหมด

อีกประการ
“บ้านใหญ่ เดชเดโช” พอเริ่มมีอำนาจ
ก็คิดจะกินรวบนครศรีธรรมราช
ทั้งการเมืองระดับชาติ
และท้องถิ่น การบริหารงบประมาณ
อบจ.ของจังหวัด
ก็เริ่มมีเสียงนินทา ว่าใช้งบฯ
แต่ไม่ค่อยได้งาน

ประกอบกับหลายกลุ่มการเมืองในนครศรีธรรมราช
ทั้งสายภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ
และ กลุ่มการเมืองท้องถิ่น
ไม่ต้องการให้ “ตระกูล
เดชเดโช” ใหญ่คับเมืองไปมากกว่านี้
ก็เลยจับมือกัน “ล้มช้าง”
ในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน
ก็เหมือนเป็นการให้บทเรียนกับ
สส.ประชาธิปัตย์
ทั้งภาคใต้ ว่า
นี่คือผลของการกระสันที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับทักษิณและพรรคเพื่อไทย

ศราวุธ เพชรพนมพร

ชัยยะ อังกินันท์


กำลังโหลดความคิดเห็น