“ภูมิธรรม” สั่งลุยแก้ปัญหาน้ำท่วม เร่งขุดลอกลำน้ำ-เคลียร์พื้นที่บุกรุก พร้อมแผนรับมืออุทกภัยรอบด้าน เตรียมเสนองบแก้ไขปัญหา-ฟื้นฟูใน ครม.สัญจร 29 พ.ย.นี้
ทำเนียบ วันนี้ (25 พ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ได้แถลงถึงผลการประชุม ศปช.ครั้งที่ 4/2567 ว่า เราได้พูดคุยกันตามกรอบเพื่อจะทำงานต่อเหนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องดินโคลนถล่มและอุทกภัยใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่หนักมากในรอบหลายปี ขณะนี้สภาพอากาศทางภาคเหนือก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และฝนคงจะหมดลงแล้ว ในส่วนของภาคใต้ เท่าที่ได้รับรายงานมา มีพายุที่อยู่ในระดับที่มากกว่าปกติ ขอให้หน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยที่รุนแรง และขอทางกองทัพให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบด้วยเช่นกัน
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมา เกิดขึ้นจากความสามัคคี และประสานงานกันอย่างเต็มที่ ทั้งหน่วยราชการที่รับผิดชอบ ทั้งฝ่ายกองทัพและพลเรือน ตนขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือ และทำให้การแก้ไขปัญหาครั้งนี้รวดเร็วประชาชนรู้สึกอุ่นใจ และวางกรอบไว้ว่าจะมีการพูดคุยกันต่อ เพราะว่าเรื่องน้ำท่วมเรามองเห็นปัญหา ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อป่องกันไม่ให้น้ำที่เคยท่วมนั้นไม่กลับมาท่วมอีก และน้ำแล้งก็ไม่ควรที่จะแล้งอีกเช่นกัน
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เราจะแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้ให้คลี่คลาย ก่อนฤดูฝนครั้งหน้าจะมา ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานจะต้องมาบูรณาการด้วยกัน โดยจะนำข้อสรุปของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทั้งหมดเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรในวันที่ 29 พ.ย. 2567 ที่ จ.เชียงใหม่ โดยคิดว่าจะสามารถทำงานเอกสารและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณที่จะมาใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาเยียวยาเบื้องต้นให้ได้ภายในเดือน ธ.ค. 2567 และได้วางแผนไว้ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 พ.ค. 2568 ที่กำลังจะเข้าฤดูฝนนั้น เราก็จะทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเราก็พร้อมที่จะทำงานเต็มที่ตามกรอบระยะเวลานี้
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเรื่องแบ่งขุดลอกลำน้ำเป็น 2 ส่วน มีดังนี้ 1. แม่น้ำปิง 2. แม่น้ำโขง จะมอบหมายให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เข้าไปรับผิดชอบปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ทางหน่วยงานเลขาคณะกรรมการที่ได้ตั้งขึ้นมาจะเป็นผู้ประสานงาน ทางจังหวัดก็จะเป็นส่วนกลางในการประสานงานด้วยเช่นกัน เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ในการเคลียร์เรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ครัวเรือน ซึ่งรับผิดชอบด้วยกระทรวงมหาดไทย และมีกรมอีกหลายหลายหน่วยงานมารับผิดชอบในเรื่องนี้
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า แม่น้ำปิงไม่น่าเป็นเรื่องยากอะไร เพราะอยู่ในเขตพื้นที่ของเรา และในแต่ละช่วงของแม่น้ำเราก็ได้เก็บข้อมูลโดยละเอียดไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าน้ำหายไปเท่าไหร่ โดยเรายึดหลักว่าการที่น้ำจะอยู่หรือไปต้องมีที่ทางที่ชัดเจน และแม่น้ำปิงกับแม่น้ำโขงจะมีหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศซึ่งต้องมีการพูดคุยกันกับทางประเทศเมียนมา ซึ่งขณะนี้กองบัญชาการทหารสูงสุด ได้รับมอบหมายไปพูดคุยเรียบร้อยแล้ว ทางประเทศเมียนมาไม่มีปัญหา ยินดีให้มีการจัดการเคลียร์ และขุดพื้นที่ร่วมกัน แต่ปัญหาของประเทศเมียนมา คือ กำลังอยู่ในสภาวะสงครามทำให้ไม่สามารถมีงบประมาณมาใช้ในการขุดลอกได้ และเราก็ไม่สามารถรอได้ และคิดว่า เราจะใช้งบประมาณทางฝ่ายเรา เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นในประเทศเรา เสียหายมากเป็นหลาย 1,000 ล้านบาท เราจึงอยากใช้งบประมาณตรงนี้ในการช่วยกัน ซึ่งคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรเราตามกระบวนการกฎหมายระหว่างประเทศ
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องของการบุกรุกลำน้ำ ได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กับกระทรวงมหาดไทย และทางจังหวัดจะรับผิดชอบ เพราะว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้คน โดยเฉพาะแม่น้ำสายนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่บุกรุก แต่ประชาชนยังหวาดผวาอยู่ เพราะไม่อยากให้น้ำท่วม แต่การจะไม่ให้น้ำท่วมนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นไปได้หากเราเปลี่ยนกระบวนการจัดการทั้งหมด เพราะว่าแม่น้ำสายนั้นถูกรุกล้ำเข้ามา ซึ่งที่ตนได้พูดคุยเบื้องต้นนั้นไม่ได้มีความขัดข้องอะไร แต่จะต้องหาทางออกที่ประชาชนในพื้นที่สบายใจด้วย เพราะหากประชาชนไม่ย้ายออกให้เราสามารถขุดลำน้ำ และสร้างเขื่อนกันเขตเศรษฐกิจในจังหวัดได้ ปีหน้าก็อาจจะท่วมอีก และค่าใช้จ่ายจะมากกว่างบประมาณที่เราจะมาใช้
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ทุกอย่างทั้งหมดไม่ว่าลำน้ำไหนก็ตามเราจะเคลียร์เรื่องงบดุลต่างๆ ที่จะนำมาใช้ ให้เสร็จภายในเดือน ม.ค. 2568 จะดำเนินการพร้อมกันทุกส่วน และมาตรการทุกส่วนจะไม่การรอเป็นขั้นตอน ขอให้ดำเนินการทั้งหมดโดยใช้ศปช.ที่เป็นคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเป็นคนดำเนินการประสานงาน ส่วนเฉพาะหน้าในวันนี้ที่เป็นเคสที่มีการพูดคุยกันมานาน ได้มีตัวแทนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตรวจพื้นที่รุกล้ำและได้มีการดำเนินการในขั้นต้น โดยย้ายตัวส่วนที่รุกล้ำตัดออกมาเพื่อที่จะไปใช้ที่ราชพัสดุ ซึ่งถ้าเป็นอย่างงั้นพื้นที่ในตรงนี้ก็จะสามารถเคลียร์และดำเนินการได้
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานกับกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับการยกเว้นกฎระเบียบบางประการ เนื่องจากกำลังพลของกองทัพในค่ายหลายแห่งที่ภูมิลำเนาไม่อยู่ในพื้นที่นั้น แต่กลับต้องพักอาศัยในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ระหว่างน้ำท่วมกำลังพลได้ลงพื้นที่ขุดคูคลองเพื่อป้องกันน้ำท่วมตลอดทั้งวันทั้งคืน อย่างไรก็ตาม มีการร้องเรียนเรื่องข้อระเบียบต่างๆ ที่ยังเป็นอุปสรรค ตนจึงได้แจ้งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบ และนายกฯ ได้มอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากกำลังพลเหล่านี้ทุ่มเทและเสียสละจนสามารถทำให้พื้นที่แม่สายกลับสู่สภาพปกติภายใน 30 วัน
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้เสนอทางออกให้กำลังพลในค่ายบันทึกข้อมูล พร้อมให้ผู้บังคับบัญชาในค่ายเซ็นรับรองว่าเป็นกำลังพลในพื้นที่จริง จากนั้นส่งเรื่องต่อให้ ผบ.ทสส. ประสานกระทรวงมหาดไทย เพื่อแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นข้อจำกัด โดยร่วมมือกับกระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลาง ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเรื่องแล้วและจะเร่งดำเนินการให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด