โฆษก พปชร.ขอบคุณ ครม.อนุมัติเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท พร้อมเห็นชอบแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ส่วน MOU44 แม้ยืนยันเกาะกูดเป็นของไทยก็จริง แต่ปล่อยให้ผืนน้ำโดยนรอบเป็นพื้นที่ทับซ้อน ทั้งที่มีพระบรมราชโองการประกาศอาณาเขตของไทยไว้แล้ว ย้ำ "บิ๊กป้อม" ชัดเจนต้องเลฺิก MOU44
วันนี้ (23พ.ย.2567) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวขอบคุณกรณีที่ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2566 กำหนดเป็นหลักการว่า ในการจัดทำมาตรการ / โครงการ เพื่อสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และภาคเกษตร(ขาวนา) โครงการไร่ละ 1,000 ซึ่งในที่สุดรัฐบาลเคาะจ่าย แต่ไม่เกินคนละ 10 ไร่เท่านั้น
พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าวว่า เนื่องจากราคาข้าวที่ทำการปรับตัวลดลงในช่วงสิ้นปี เพราะเป็นฤดูการเก็บเกี่ยว ปริมาณข้าวที่ออกสู่ตลาดพร้อมกัน ขณะที่ผลผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ชาวนาต่าง ได้รับความเดือดร้อน และเรียกร้องขอรับการช่วยเหลือจากรัฐโดยเฉพาะชาวนาที่มีต้นทุนสูง และเป็นหนี้สินอยู่จำนวนมากในขณะนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวพรรคพลังประชารัฐเคยได้ดำเนินการและถือว่าเป็นนโยบายสำคัญ มาตั้งแต่ปี 2563 โดยมีหลักเกณฑ์เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท
• เกษตรกรเป้าหมาย 4.68 ล้านครัวเรือน
• ช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่
• เป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่า ครม. ในครั้งนี้ตัดจำนวนไร่เหลือไม่เกิน 10 ไร่ทำให้ชาวนาซึ่งมีพื้นที่เกินกว่า 10 ไร่ได้รับเงินชดเชยน้อยลงไม่เพียงพอต่อความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมประมาณ 4 ล้านคน ใช้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยแจกเป็นเงินสดไม่ใช่เงินดิจิตอล หรือผ่านช่องทางอื่น ในหลักการการช่วยเหลือความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนประชาชน ก็ เห็นด้วย แต่อยากให้รัฐบาลใช้ความรอบคอบ ให้มากกว่านี้ เนื่องจากเงินดังกล่าวเป็นภาษีอากรของพี่น้องประชาชนประชาชนทั้งประเทศ การแจกเงิน โดยฐานเสียงมากกว่าความจำเป็นของประเทศ จะก่อให้เกิดภาระหนี้สิน และเป็นการผิดวินัยการคลัง ในส่วนนี้รัฐบาลจะต้องพิจารณาให้ดี แทนที่ จะนำเงิน 40,000 กว่าล้านบาทไปพัฒนาประเทศโดยเฉพาะการพัฒนา ศักยภาพการแข่งขัน พัฒนาฝีมือแรงงาน หรือให้ทุนนักศึกษาแพทย์ วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และนักเทคโนโลยี เพื่อนำมาพัฒนาประเทศจะดีกว่าจ่ายเงินไปแบบสูญเปล่าเพื่อหวังฐานเสียงเท่านั้น
ตอบข้อถามผู้สื่อข่าว กรณี MOU 2544 อีรัฐบาลยืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย ใน MOU2544 มีการขีดเส้นเว้นเกาะกูดไว้ ก็จริง แต่พื้นที่ริมน้ำซึ่งเป็นพื้นที่ของไทยกว่า 26,000 ตารางกิโลเมตร จะเป็นพื้นที่ทับซ้อนหรือพื้นที่ที่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน กว่า 10,000 ตารางกิโลเมตร(พื้นที่แลเงา) และพื้นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันอีกกว่า 20,000 กว่าตารางกิโลเมตร ซึ่งพื้นน้ำส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตประเทศไทยและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ประกาศไว้ชัดเจนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2516 ซึ่งผืนน้ำนี้ เป็นส่วนหนึ่งของอาณาเขตประเทศไทย ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง จะยอมให้รัฐบาล หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อประโยชน์ของครอบครัวหรือกลุ่มบุคคล ซึ่งในกรณีนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายชัดเจน จะต้องยกเลิก MOU2544 และจะ ไม่ให้ มีการเจรจา แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ก่อนที่จะมีการ เจรจาตกลงอาณาเขต ที่ชัดเจนเสร็จเสียก่อน
