“ทนายอนันต์ชัย” ชี้ปม “พระปีนเสา” ไร้สังกัดวัด ผิด กม.สามารถจับสึกได้ อัดทนาย “ลัทธิเชื่อมจิต” อย่าเลี่ยงบาลี หลังศาลสั่งห้ามนำรูป-ตัวเด็ก เผยแพร่สื่อ เย้ยในสายตามองจบแล้ว จึงไม่อยากต่อกรกับคนบ้าอีก
วันนี้ (19 พ.ย.) นายอนันตชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ “ลัทธิเชื่อมจิต” ว่า คดีนี้ตนได้ประสานงานกับ ปอท.ประมาณเดือนธันวาคมนี้ จะมีการส่งฟ้องอัยการ ส่วนวันนั้นที่ทนายเชื่อมจิตมากัน 3 คันรถ มายื่นเอกสาร 7 เล่ม แต่ไม่ได้ให้การอะไร เรื่องนี้ไม่อยากให้ประชาชนหลงประเด็น เราดำเนินการกับเขาเกิดจากที่เขาบิดเบือน ว่า เขาเป็นลูกพระพุทธเจ้า เป็นอนาคามี ได้รับแสงสีทองจากพระศากยมุนีมาสอนธรรมะ แอบอ้างว่า เป็นพญานาคราชอวตารมาเกิด แล้วยังบอกว่า พระพุทธเจ้าไม่ชอบดอกไม้สีเหลือง ฉะนั้น ในมุมของตน เรื่องเชื่อมจิตจบแล้ว จึงไม่ให้สัมภาษณ์อีก ส่วนที่ทนายของกลุ่มเชื่อมจิตบอกว่าตนถูกฟ้องดำเนินคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ แล้วเงียบเลยนั้น คดีที่ถูกเขาฟ้องเป็นเรื่องการตัดต่อภาพ เป็นคนละคดีไม่เกี่ยวกัน เกี่ยวกับการนำภาพว่ามีการตัดต่อนั้น เป็นคนละเรื่องกับเรื่องคดีนี้
“เรื่องคดีเชื่อมจิตในสายตาผมจบแล้วนะ ผมก็ไม่จำเป็นต้องไปร้องแรกแหกกระเชอ เรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม และผมก็ไม่ไปต่อกรด้วย เพราะผมถือว่าสู้กับคนบ้า สู้กับอันธพาลไม่มีประโยชน์หรอก เหนื่อย”
ส่วนที่ทนายของกลุ่มเชื่อมจิต อ้างว่า การไต่สวนของศาลไม่ได้ห้ามไม่ให้นำรูปหรือนำเด็กเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล นั้น เห็นว่าเป็นการเลี่ยงบาลี ไม่อยากใช้คำว่าศรีธนญชัย คุณก็รู้อยู่แล้วว่า ศาลห้ามนำเด็กมาเผยแพร่ ห้ามนำเด็กมาสอนธรรมะ แต่ทุกวันนี้ยังมีการนำเอาคลิปเก่าที่ทำอีเวนต์ที่ต่างๆ มาเผยแพร่ แต่ตนถือว่าไร้สาระ เพราะเป็นกลุ่มน้อยแค่ไม่กี่ร้อยคน แต่แน่นอนทำแบบนี้ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งศาล เท่ากับคุณเป็นผู้สนับสนุน หรือเป็นตัวการโดยมีพ่อแม่เด็กรู้เห็นเป็นใจ ถือว่าผิดอย่าคิดว่าไม่ผิด ทราบว่านายแทนคุณ จิตต์อิสระได้ไปยื่นคำร้องและแจ้งความให้ดำเนินคดีแล้ว
นายอนันต์ชัย ยังกล่าวถึงการที่เจ้าอาวาสวัดสามชุก ได้ขับพระปีนเสาพ้นจากการเป็นพระสังกัดในวัด ว่า ตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พระไม่มีสังกัดเจอที่ไหนสามารถจับสึกได้เลย เพราะพระต้องมีสังกัด แต่เรื่องนี้ที่มูลนิธิทนายกองทัพธรรม ไม่ออกมา เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องของคณะสงฆ์
เมื่อถามว่า หากพระปีนเสาไม่ต้องการให้ผิดกฎหมายต้องหาสังกัดให้ได้ภายในเมื่อใด นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ยาก ไม่มีใครเอา แล้วไม่รู้ท่านไปทะเลาะกับเจ้าอาวาสวัดสามชุก ทำไม
ด้าน นายประยุทธ ประเทศเสนา หรือ มหาหมี กล่าวว่า ปกติพระที่ไม่มีสังกัดแน่นอน พระเร่ร่อน อยู่ตรงนั้นที ตรงนี้ที แล้วยิ่งทำผิด หากเจอก็สามารถบังคับให้สละสมณเพศได้ ซึ่งกฎหมายสงฆ์ไม่ได้ว่าต้องหาสังกัดให้ได้ภายในกี่วัน “ปกติถ้าออกจากวัดแล้ว 7, 15 วัน หรือ 2, 3 เดือน คือไม่มีที่อยู่ มีเจตนาไม่หาสังกัดเลย แล้วทำพฤติกรรมโลกะวัชชะก็สามารถจับให้สึกได้