“สนธิญา” ยื่น กกต.สอบ “ทักษิณ” ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิด กม.เลือกตั้งท้องถิ่น-พรรคการเมือง-รธน. ห้ามคนต่างชาติเอี่ยวการเลือกตั้งทุกระดับ ส่อทำเลือกตั้ง อบจ.อดุรฯ โมฆะ เล็งยื่นถาม “นายกฯ อิ๊งค์” เหตุไม่อยู่ร่วมปิดประชุมอาเซียนซัมมิต
วันนี้ (18 พ.ย.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหว ยื่นหนังสือขอให้ กกต.ตรวจสอบกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า นายทักษิณ ถือสัญชาติไทยและสัญชาติมอนเตเนโกร หรือสัญชาติอื่นด้วยหรือไม่ เนื่องจากอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น กฎหมายพรรคการเมืองและรัฐธรรมนูญ แม้ นายทักษิณ จะเป็นคนไทย มีสิทธิเสรีภาพที่จะทำทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญไทยทุกประการ แต่ตนอยากจะให้ กกต.ตรวจสอบและพิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากจะไปเกี่ยวพันกับ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 68 เนื่องจาก นายทักษิณ ไม่ได้อยู่ประเทศไทยมาเป็นเวลา 17 ปี และได้ทราบข่าวว่าถือสัญชาติมอนเตเนโกร ซื้อเกาะแห่งหนึ่งในประเทศดังกล่าว มูลค่า 20 ล้านปอนด์ อีกทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนมอนเตเนโกร ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ย. 56 แล้วมีการเจรจายกเว้นวีซ่าให้กับคนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศมอนเตเนโกร ตนจึงสงสัยว่า ขณะนี้นายทักษิณยังคงถือสัญชาติมอนเตเนโกรอยู่หรือไม่ หรือถือสัญชาติไทยด้วย ทั้งนี้ ตนได้สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศได้รับคำตอบว่าประเทศมอนเตเนโกร ไม่มีสถานทูตและสถานกงสุลประจำประเทศไทย แต่มีกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำประเทศไทย จึงได้โทร.ติดต่อสอบถามเรื่องการถือสัญชาติของนายทักษิณ ซึ่งได้รับคำตอบว่าไม่สามารถตอบได้ ต้องสอบถามไปยังประเทศมอนเตเนโกรก่อน
นายสนธิญา ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้จึงมายื่นให้ กกต.ตรวจสอบกรณีการถือสัญชาติมอนเตเนโกรของนายทักษิณ หากนายทักษิณยังคงถือสัญชาติอยู่พร้อมกับคงสัญชาติไทยอยู่ แม้ไทยจะไม่มีข้อห้ามในการถือกี่สัญชาติ แต่มี 90 ประเทศ ไม่อนุญาตให้พลเมืองถือสัญชาติเกิน 1 สัญชาติ โดยรวมประเทศยูเครน และมอนเตเนโกร ด้วย ซึ่ง กกต.จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าหากนายทักษิณยังคงถือทั้งสองสัญชาติ ก็จะทำให้การช่วยหาเสียงของนายทักษิณเป็นโมฆะ และผิด พ.ร.บ. การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่กำหนดห้ามบุคคลไม่ใช่สัญชาติไทยมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งทุกระดับ ขัดต่อ พ.ร.ป.พรรคการเมือง และรัฐธรรมนูญ 2560
“สิ่งที่ผมจะมาถามเพื่อให้ กกต.โปรดวินิจฉัย ก็คือ นายทักษิณ ถือสัญชาติของประเทศมอนเตเนโกรอยู่ด้วยหรือไม่ สัญชาติของไทยไม่มีปัญหา เพราะท่านได้โดยการเกิด แต่ท่านไม่อยู่ในประเทศไทย 17 ปี เพิ่งเดินทางกลับมา ขณะนี้ท่านได้กระทำการดังกล่าวโดยเป็นไปตามกฎหมายของประเทศมอนเตเนโกรหรือไม่อย่างไร และการที่นายทักษิณไปหาเสียงที่อุดรฯ และใช้คำพูดเช่นนักร้องเป็นหมา ผมก็ได้ยื่นให้ กสม.แล้ว ประมาณ 2 อาทิตย์ จะได้รับคำตอบ วันนี้จึงมายื่นให้ตรวจสอบการหาเสียงด้วยถ้อยคำเป็นเท็จ หยาบคาย หลอกลวง หรือไม่ อย่างไร เพราะนักร้องเรียนทุกคน ไม่ได้เป็นหมา เป็นคน และยื่นเรื่องตรวจสอบตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ
นายสนธิญา กล่าวต่อว่า การกระทำของนายทักษิณ ที่พูดบนเวทีการหาเสียงที่จังหวัดอุดรธานี เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่นและละเมิดรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิ ตนจึงนำมาผนวกยื่นให้ กกต.ตรวจสอบด้วย ซึ่งอาจจะมีผลนำไปสู่การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี เป็นโมฆะ และเกี่ยวพันไปถึงพรรคเพื่อไทย เพราะมีโลโก้ของพรรคเพื่อไทย อีกทั้งไปในนามผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย จึงปฏิเสธการรับผิดชอบไม่ได้
นายสนธิญา ยังระบุว่า จะทำหนังสือสอบถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงเหตุผลที่ไม่ได้อยู่ร่วมพิธีปิดการประชุมร่วมกับผู้นำประเทศอื่น ในระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนซัมมิต ที่ประเทศลาว เมื่อเดือนตุลาคม อีกทั้งสำนักข่าวประเทศฟิลิปปินส์ ก็นำเสนอข่าวว่า นายกรัฐมนตรีของไทย ไม่ได้อยู่ร่วมปิดการประชุมร่วมกับผู้นำประเทศอื่น ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจ และกังวลใจ จึงจะทำหนังสือไปสอบถามในสัปดาห์ เนื่องจากนางสาวแพทองธาร ทำหน้าที่ตัวแทนคนไทย เป็นหน้าตา เป็นศักดิ์ศรี เป็นเกียรติของประเทศ จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจง เพื่อความสบายใจของคนไทย