วันนี้(17 พ.ย.)นายวิสาร เตชะธีราวัฒนน์ ประธานกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่...) พ.ศ....กล่าวในเวทีการประชุมวิชาการแอลกอฮอล์ระดับชาติ โดยระบุว่า ร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร มีทั้งหมด 5 ร่าง ที่แตกต่างกันพอสมควร ร่างที่ 1 เป็นร่างของคณะรัฐมนตรี ร่างที่ 2 เสนอโดยพรรคเพื่อไทย ร่างที่ 3 เสนอโดยนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.พรรคประชาชน ร่างที่ 4 เสนอโดยนายธีรภัทร์ คหะวงศ์ และร่างที่ 5 เสนอโดยนายเจริญ เจริญชัย
ทั้งนี้กรรมาธิการทั้ง 42 คน ได้ร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบกว่า 8 เดือนในการขัดเกลาร่างกฎหมายทั้ง 5 ฉบับ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขณะนี้ มีความคืบหน้า 70-80% โดยทบทวนที่พิจารณาแล้วคือเรื่องการกระจายอำนาจให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับจังหวัดมีอำนาจจัดการดูแลในพื้นที่ของตนเองมากขึ้นว่าจะแบ่งพื้นที่โซนนิ่งอย่างไร มีข้อจำกัดแบบไหน ซึ่งระหว่างนี้สภาก็มีการพิจารณา พ.ร.บ.สรรพสามิตรไปด้วย คาดว่า จะสามารถเสนอเข้าไปในร่างสภาผู้แทนราษฎรได้ภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2567 ทันเปิดสมัยประชุมในสภาในวันที่ 13 ธันวาคม 2567 จนถึงเดือนเมษายน 2568 และคาดว่าจะได้รับการพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ
“เราพิจารณากันอย่างถ่องแท้และรับฟังทุกฝ่าย และก็มีการเข้าอกเข้าใจกันระหว่างทางฝ่ายรณรงค์ ผู้ประกอบการ ฝ่ายราชการ ตลอดจนถึงได้รับฟังจากลูกๆหลานๆสภาเด็ก ผู้ประกอบการ เหยื่อเมาแล้วขับ เที่ยวนี้ข่าวดีคือกำหนดให้มีตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจังหวัดและกทม.ด้วย และยังเพื่มให้ นายก อบจ.แต่ละจังหวัด เข้ามาอยู่ในคณะกรรมการด้วย ถือว่าทุกคนได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาว่าคุณจะแบ่งโซนนิ่งพื้นที่กันอย่างไร มีข้อจำกัดแบบไหน” ประธานกรรมาธิการฯ กล่าว
นายวิสาร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเนื่องจากกรรมาธิการมีความกังวลเรื่องที่ไทยมีนักดื่มเพิ่มขึ้นจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่กลายมาเป็นนักดื่มเพิ่มมากขึ้น และเล็งเห็นผลกระทบที่เกิดกับประชาชนและสังคมที่มีสาเหตุมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นใน การพิจาณณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจึงออกมาอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการส่งเสริมการขาย อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปอาจจะต้องเดินสายสร้างความเข้าใจกับวิปฝ่ายค่าน ฝ่ายรัฐบาล ให้ตรงกัน เพื่อจะได้พิจารณากฎหมายที่กำลังจะเข้าสู่สภา และออกมาบังคับใช้ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่เกินเดือนมกราคม 2568
“ในประเด็นที่มีผลกระทบประชาชนส่วนใหญ่ ก็จะมีการไปปรึกษาหารือแต่ละพรรคการเมือง มุ่งเป้าไปที่วิปฝ่ายค้าน วิปฝ่ายรัฐบาล ชี้แจงข้อขัดข้องอันไหนที่มันไม่ได้ 100% ก็จะเหลือสัก 70-80% แต่ว่าที่จะส่งเสริมให้ดื่มแอลกอฮอล์มากขึ่นนั่นก็ไม่มีเด็ดขาด เพียงแต่ว่าจะทำยังไงให้การค้าขายอยู่ในความพอดี สมดุลย์ ได้ประโยชน์ จากการควบคุมทำให้เกิดผลต่อพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องพิษภัยของแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพอนามัย การจราจร” นายวิสาร กล่าว
นายวิสาร กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่า การพิจารณาพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับที่เรากำลังทำอยู่ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน มีการเพิ่มโทษให้ผู้ที่ขายให้เด็กขายให้คนเมาสูงขึ้น กระจายอำนาจให้คณะกรรมกาจังหวัด และเพิ่มความรับผิดของผู้ขาย เป็นต้น ส่วนคณะกรรมาธิการทั้ง 42 คน ก็ไม่ได้ยึดถือว่าพื้นฐานตัวเองมาจากไหน หรือฝ่ายใด แต่ทุกคนได้มีการปรับจูน แลกเปลี่ยนทำความเข้าใจ โดยมุ่งปิดจุดอ่อนของกฏหมายจากที่ผ่านมา นึกถึงความสงบสุข ความเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์ที่ไม่เกิดพิษภัยต่อพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้