xs
xsm
sm
md
lg

"ตบทรัพย์" จนเป็นปกติธุระ!? มะรุมมะตุ้มรุมแฉ "ดาราดัง" งานเข้ารัวๆ “ฟิล์ม รัฐภูมิ" ** เวลาเปลี่ยน สนามเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี เปลี่ยน ?!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ "ตบทรัพย์" จนเป็นปกติธุระ!? มะรุมมะตุ้มรุมแฉ "ดาราดัง" งานเข้ารัวๆ “ฟิล์ม รัฐภูมิ

เรื่องปริศนาดารา “ตบทรัพย์”บอสดิไอคอน ยังพีกไม่พัก บรรดาผู้เสียหาย “คนเคยโดน” ต่างเรียงหน้ามาแฉพฤติการณ์ดาราดังกันฉ่ำ

ดาราดังไม่ประสงค์ออกชื่อ แต่ประสงค์ทรัพย์ ตบทรัพย์มาเท่าไหร่ไม่รู้ !? วันก่อนคนเคยโดนอย่าง “เอก” ณกรณ์ กรณ์หิรัญ นักธุรกิจชื่อดัง และผู้ก่อตั้ง “วุฒิศักดิ์คลีนิก” คลินิกเสริมความงามชื่อดัง เผยแพร่คลิปที่น่าตกใจว่า “บอสดิไอคอน” ถูกตบทรัพย์ 20 ล้านนั้นจิ๊บๆ กรณีคนใกล้ตัวของ “เอก” โดน 68 ล้านจ้า โดยจ่ายไปแล้ว 5 ล้าน ให้ช่วยเหลือ “ล็อบบี้” ด้านคดี แต่พอจ่ายแล้วกลับเงียบ ไม่ได้ช่วยอะไร ฝากเตือนให้รีบมาเคลียร์ เพราะเอกสารมีครบหมด


มาวันนี้ (14 พ.ย.) มีผู้เสียหายออกมาแฉอีก ไม่ใช่เรื่องตบทรัพย์ แต่โดนแก๊งพี่ชายดาราดัง “หลอกลงทุน” ชวนไปเทรดหุ้นดูไบ 60 ล้าน โม้โอ้อวดลงทุน 60 ล้าน จะได้กลับมา 300 ล้าน !

เหยื่อลงเชื่อ แต่ภายหลังพบว่าเป็นลักษณะ “เทรดหุ้นทิพย์” เพราะไม่มีอยู่จริง แต่งาบเงินไปแบ่งกันเรียบโร้ย

ไม่ใช่แค่คนธรรมดาที่โดนชวนเทรดหุ้นทิพย์ เห็นว่ามีบริษัททำธุรกิจด้านพลังงาน ที่จังหวัดราชบุรีก็หลงคารม ถูกแก๊ง “มิจ” ที่มาในฟอร์มดารา ลวงล้วงเงินไปเช่นกัน

ทั้งหลายทั้งปวง งานมาเข้า "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ จะมีเอี่ยวหรือไม่ แค่ไหน ยังไม่รู้ชัด แต่ผลที่กำลังเกิดขึ้น อุปมาเหมือนดาราดัง ตัวเปียกน้ำเปื้อนโคลนไปแล้วทั้งตัว อยู่ห่างๆ ยังกลิ่นหึ่ง !!

ยิ่งกรณี “คลิปเสียง” ร่วมมือกับ นักร้องเรียนหญิง ไปตบทรัพย์บรรดา “บอส ดิไอคอน” 20 ล้าน แลกกับการมาออกรายการโหนกระแส ของ “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย จนพิธีกรฮอต ฉุนขาด มอบหมายทนายไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยภายหลัง “ฟิล์ม” แถลงข่าวว่า ที่มีตนเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น เป็นแค่เรื่องของการรับงาน “พีอาร์”

ฟังว่าล่าสุด “เลขาบอสปัน” ออกมาเผยเรื่องราวเพิ่มเติม ได้ความว่า การพูดคุยอันเป็นที่มาของ “คลิปเสียง” เกิดขึ้นหลังจากที่เริ่มมีกระแสข่าวผู้เสียหาย ดิไอคอน รวมตัวไปร้องตามหน่วยงานต่างๆ และเริ่มเป็นข่าวหน้าสื่อ ซึ่งวันนั้น “เลขาบอสปัน” บอกว่า หลังจากได้ยินตัวเลข 20 ล้านบาท บอสปัน ตกใจจริงๆ ไม่ได้แอ็กติ้ง

หรือแสดง !

ทุกคนตกใจที่ตัวเลขสูงถึง 20 ล้านบาท ที่ถูกเสนอมา ยืนยันไม่ใช่แผนงานการทำประชาสัมพันธ์ หรือ พีอาร์ เพราะบริษัทดิไอคอน จ้างบริษัททำพีอาร์ของตัวเองอยู่แล้ว

บริบทของการสนทนาตรงนั้น ทุกคนที่ฟังเข้าใจตรงกันว่า 20 ล้านบาท คือ ค่าออกรายการโหนกระแส และจะมีการเตรียมสคริป เพื่อให้ “พี่หนุ่ม” ช่วยหาทางลงให้จบอย่างสวยงาม!!

สรุปว่า ตอนนี้ “ฟิล์ม-รัฐภูมิ” มีเรื่องมะรุมมะตุ้ม คนสงสัย ทั้ง“ตบทรัพย์”และ”หลอกลวง” จริงเท็จแค่ไหน ฉากต่อไปของดาราดัง จะไปลงเอยที่ใด น่าสนใจติดตาม

“ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ถูกตั้งข้อหา "ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ" หรือ โกงแล้วโกงอีก "โกงโดยสันดาน"

หรือสำหรับดาราดัง ที่ถูกแฉ "ตบทรัพย์" ก็ตบแล้วตบอีก ตบจนเป็นสันดาน งานนี้จะเข้าองค์ประกอบ "ตบทรัพย์จนเป็นปกติธุระ" หรือไม่ ต้องรอพิสูจน์!


++ เวลาเปลี่ยน สนามเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี เปลี่ยน ?!

การเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี (นายกอบจ.) ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง 3 ราย ได้แก่ เบอร์ 1“นายคณิศร ขุริรัง” อายุ 46 ปี จากพรรคประชาชน เบอร์ 2 “นายศราวุธ เพชรพนมพร” อายุ 54 ปี จากพรรคเพื่อไทย และ เบอร์ 3 “นายดนุช ตันเทิดทิตย์” อายุ 60 ปี ผู้สมัครอิสระ

คู่ชิงที่คนในพื้นที่พูดถึง คือผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ คือ เบอร์ 1 พรรคประชาชน และ เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย ที่ต่างฝ่ายต่างคาดหวังว่าจะเป็นผู้ชนะ โดยเฉพาะพรรคประชาชน ที่ยังไม่เคยสัมผัสชัยชนะในสนามเลือกตั้ง อบจ.เลย ก็หวังจะประเดิมชัยที่นี่
พรรคประชาชน จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ วันที่16 พ.ย.นี้ ซึ่งนอกจากจะมี “ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคแล้ว ยังมีผู้ช่วยหาเสียงระดับอดีตหัวหน้าพรรค อย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” มาเรียกเสียงกรี๊ด จากบรรดา ติ่งส้ม สามนิ้ว ด้วย

ส่วนพรรคเพื่อไทย ได้ขนทีมงานชุดใหญ่ ภายใต้การนำของ “ทักษิณ ชินวัตร” ไปเปิดเวทีปราศรัยแล้ว 2 วันติด คือวันที่ 13-14 พ.ย. ที่ผ่านมา

จากการปราศรัยของ “ทักษิณ ชินวัตร” ใน 2 วันดังกล่าว มักจะได้ยินคำถาม ซ้ำๆ ว่า คนอุดรฯ คนเสื้อแดง ยังรัก คนชื่อทักษิณ อยู่หรือไม่

จากนั้น ก็จะหยิบยกเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ พูดถึงผลงานเก่าๆ ของตัวเองในเชิง “ทวงบุญคุณ” อย่าง โอทอป กองทุนหมู่บ้าน โครงการ 30 บาท ... และก็ไม่ลืมที่จะเลี้ยวมาอวย มาชื่นชม ว่า “ลูกอิ๊งค์” ของตนเองนั้น เป็นคนเก่ง

แถมมีบางช่วงบางตอนที่บอกว่า ถ้ายังรัก และอยากเลือก “ทักษิณ” ก็ขอให้เลือก เบอร์ 2 ซึ่งตรงจุดนี้ มีอดีต กกต.ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการปราศรัยที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ว่าด้วยการหลอกลวงให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมผู้สมัคร อาจถูกร้อง และทำให้ผู้สมัครโดนแจก“ใบเหลือง”ได้

ส่วนพรรคประชาชน แม้จะยังไม่ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ แต่ช่วงที่ผ่านมา ก็มีการลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างเข้มข้น และได้รับการตอบรับจากคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะบรรดา ติ่งส้ม และสามนิ้ว เป็นอย่างดี

ล่าสุด มีการเผยแพร่ผลสำรวจ “อุดรโพล” ที่จัดทำโดย “ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด” หัวหน้าหลักสูตรนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ทำการสำรวจความเห็นคนอุดรธานี ต่อการเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งนี้ ปรากฏว่า เบอร์ 1 “คณิศร” ผู้สมัครของพรรคประชาชน มีคะแนนนิยมมาเป็น อันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 32.6 ขณะที่ เบอร์ 2 “ศราวุธ” ผู้สมัครของ พรรคเพื่อไทย ได้แค่ ร้อยละ 15.2 ทิ้งห่างครึ่งต่อครึ่ง ส่วนเบอร์ 3 “ดนุช” ได้ร้อยละ 4.3

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ที่บอกว่ายังไม่ตัดสินใจ มีสูงถึงร้อยละ 47.9 ซึ่งเมื่อถึงวันหย่อนบัตร คนกลุ่มนี้ อาจเลือกผู้สมัครของพรรค “สีส้ม” หรือ “สีแดง” ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

แต่พรรคเพื่อไทย เมื่อเห็นผลโพลออกมาแบบไม่เป็นคุณกับฝ่ายตนเองอย่างนี้ ก็โวยทันที โดย “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี บอกว่า โพลนี้ ไม่ได้ทำในนามมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นเพียงแค่ “อาจารย์คนหนึ่ง” ที่ทำขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่า ขั้นตอน วิธีการเก็บข้อมูล หรือสรุปผลสำรวจ จะเป็นไปตามหลักวิชาการหรือไม่

คือพูดง่ายๆ ว่า ไม่ยอมรับผลโพลนี้ เพราะอุดรธานี นับว่าเป็น “เมืองหลวงของคนเสื้อแดง” ในภาคอีสาน ไม่มีทางที่จะแพ้ “สีส้ม”... การเผยแพร่ผลโพลในช่วงเวลานี้ ถือว่าเจตนาออกมาชี้นำในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งมากกว่า และมองว่า อาจารย์คนที่ทำโพล อาจเป็น “พวกส้ม”

ทั้งนี้ หากย้อนไปดูผลการเลือกตั้ง สส.ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจะได้ สส.ยกทั้งจังหวัด ไม่มีพรรคการเมืองใดเข้าไปเจาะพื้นที่ได้ จึงเป็นที่มาว่า อุดรธานีเป็นเมืองหลวงของเสื้อแดง

แต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุด ปี 2566 ซึ่งทั้งจังหวัดมี สส.10 ที่นั่ง ผลปรากฏออกมาว่า เป็นของพรรคเพื่อไทย 7 ที่นั่ง พรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 2 ที่นั่ง และพรรคก้าวไกล ที่ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชน 1 ที่นั่ง

แม้ “พรรคส้ม”จะได้ สส.ที่เขต 1 เพียงเขตเดียว แต่อีก 9 เขตที่เหลือ ผลคะแนนที่ได้รับก็ไม่ขี้เหร่ ถ้าไม่เป็นอันดับ 2 ก็อันดับ 3
คะแนนรวมทั้งจังหวัด เพื่อไทยได้ 353,147 คะแนน ส่วนพรรคก้าวไกล ได้ 295,097 คะแนน

ดังนั้น เมื่อผลโพลออกมาว่า คนของ “พรรคส้ม” คะแนนนำโด่ง จึงทำให้พรรคเพื่อไทย ทนไม่ได้ โดยเฉพาะผลโพลดันออกมาเผยแพร่ช่วงที่ “ทักษิณ” กำลังลงพื้นที่อุดรฯ อยู่เสียด้วย

ต้องติดตามกันว่า เมื่อเวลาเปลี่ยนไป คนรุ่นใหมาขึ้นมาทดแทนคนรุ่นเก่า สถานการณ์ทางการเมืองและความนิยมในพรรคการเมืองจะเปลี่ยนไปหรือไม่

วันที่ 24 พ.ย.นี้ จะได้รู้กันว่า คนอุดรฯ จะยังรักเสื้อแดง หรือปันใจไปให้พรรคส้ม เสียแล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น