xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ พอใจภารกิจเยือนลอสแองเจลิส โวประสบความสำเร็จดึงนักลงทุนมาไทยเพิ่ม เตรียมพบปะ Google - Microsoft - TikTok ที่เปรู

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ แพทองธาร พอใจภารกิจเยือนลอสแองเจลิส ดีใจได้พบปะคนไทยและภาคเอกชนสำคัญ ขอบคุณทีมไทยแลนด์ และนักธุรกิจสหรัฐฯ หลังประสบความสำเร็จ 2 วัน ในอเมริกา เชิญชวนลงทุนมาไทยได้เพิ่ม ยืนยันการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนทั่วโลกได้

วันที่ 13 พ.ย. 2567 เวลา 12.30 น. (เวลาท้องถิ่นนครลอสแองเจลิส (ซึ่งช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) ณ โรงแรม Beverly Wilshire นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พอใจภาพรวมภารกิจที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ที่แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ดีใจที่ได้พบปะชุมชนคนไทย หารือกับทีมไทยแลนด์ และหารือกับภาคเอกชนในด้านอิเล็กทรอนิกส์และภาพยนตร์ ซึ่งชื่นชมผลงานรัฐบาลที่ได้มอบสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีให้แก่นักลงทุนเพื่อจูงใจการลงทุนและการถ่ายทำภาพยนตร์

นายกรัฐมนตรียังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเปิดเผยถึงภาพรวมภารกิจที่ได้เดินทางเยือนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยวันแรกได้พบปะชุมชนชาวไทยในนครลอสแองเจลิส ซึ่งมีหลายคนมาให้กำลังใจ ถือเป็นการเริ่มต้นภารกิจที่ดี โดยได้มีโอกาสแวะเยี่ยมชมตลาดภายในวัดไทยในลอสแองเจลิส พบปะพูดคุยกับพี่น้องคนไทยที่มาร่วมให้กำลังใจ รวมทั้งได้มีโอกาสรับชมการแสดงของเยาวชนไทย ทั้งรำไทย โชว์ศิลปะมวยไทยจากเยาวชนไทยที่อยู่ในสหรัฐฯ รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่ที่เมืองไทย
ในวันแรก ยังได้พบปะเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ในภูมิภาคอเมริกา โดยได้มอบนโยบายรัฐบาล รวมถึงรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทีมไทยแลนด์ ซึ่งได้เน้นย้ำกับคณะเอกอัครราชทูตให้มี “การทูตเชิงรุก” มากยิ่งขึ้น ซึ่งทีมไทยแลนด์เปรียบเสมือน “ทัพหน้าของประเทศไทย” ในต่างประเทศที่จะช่วยแสวงหาโอกาสและศักยภาพเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น รวมถึงถือโอกาสนี้ เชิญชวนคนไทยในต่างประเทศที่มีศักยภาพกลับมาทำงานเพื่อพัฒนาประเทศไทยด้วย โดยรัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาเพื่อสร้างโอกาสให้กับประเทศไทย

วันที่สอง ได้หารือกับผู้บริหารภาคเอกชนด้านอิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดไดรฟ์ คือ บริษัท WD หรือเวสเทิร์นดิจิทัล ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่ประเทศไทยด้วย ในการหารือได้มีการผลักดันนโยบายพลังงานสะอาด ซึ่งรัฐบาลจะผลักดันความร่วมมือในเรื่องนี้เพื่อสร้างการจ้างงานให้คนไทยมากยิ่งขึ้น

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ยังได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองเพื่อสร้างเครือข่าย (networking reception) กับนายชาร์ลส์ เอช. ริฟกิน (Charles H. Rivkin) ประธานและประธานกรรมการบริหาร สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ (Motion Picture Association: MPA) พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทภาพยนตร์ชั้นนําของสหรัฐฯ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงนโยบายรัฐบาลที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย โดยได้แจ้งให้บริษัทด้านภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ทราบว่าประเทศไทยมีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบของการคืนเงินสูงสุดที่อัตราร้อยละ 30 และไม่กำหนดเพดานคืนเงินสูงสุดต่อโครงการ ซึ่งซีอีโอจากบริษัทต่างๆ ดีใจ และพร้อมส่งต่อข้อมูลสิทธิประโยชน์นี้ให้บริษัทในเครือได้รับทราบ ซึ่งจะเพิ่มการจ้างงานและโอกาสให้กับคนไทยในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น


ต่อมา เวลา 16.00 น.วันเดียวกัน (เวลาท้องถิ่นนครลอสแองเจลิส (ซึ่งช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน เวลา 07.00 น.) ณ โรงแรม Beverly Wilshire นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมสรุปผลการเยือนสหรัฐฯ พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงต่างประเทศ เอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และกงสุลใหญ่นครลอสแองเจลิส และคณะทำงาน ทีมไทยแลนด์ โดยที่ประชุมสรุปผลภาพรวมภารกิจ เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถือว่าได้พบปะชุมชนคนไทย และได้มอบนโยบายกับทีมไทยแลนด์ อีกทั้งยังได้หารือกับภาคเอกชนสหรัฐฯในด้านอิเล็กทรอนิกส์และภาพยนตร์ ซึ่งต่างชื่นชมผลงานรัฐบาลที่ได้มอบสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีให้แก่นักลงทุนเพื่อจูงใจการลงทุนและการถ่ายทำภาพยนตร์ ในประเทศไทย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงภาพรวมภารกิจที่ได้เดินทางเยือนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยกล่าวว่า วันแรกได้พบปะชุมชนชาวไทยในนครลอสแองเจลิส ซึ่งมีคนจำนวนมากมาให้กำลังใจ ถือเป็นการเริ่มต้นภารกิจที่ดีและได้มีโอกาสแวะเยี่ยมชมตลาดภายในวัดไทยในนครลอสแองเจลิส พบปะพูดคุยกับพี่น้องคนไทยที่มาร่วมให้กำลังใจ รวมทั้งได้มีโอกาสรับชมการแสดงของเยาวชนไทย ทั้งรำไทย โชว์ศิลปะมวยไทยจากเยาวชนไทยที่อยู่ในสหรัฐฯ ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่ที่เมืองไทย

นอกจากนี้ ยังได้พบปะเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ในภูมิภาคอเมริกา อาทิ แคนาดา ชิลี เม็กซิโก โดยได้มอบนโยบายรัฐบาลรวมถึงรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทีมไทยแลนด์ ซึ่งได้เน้นย้ำกับคณะเอกอัครราชทูตให้มี “การทูตเชิงรุก” มากยิ่งขึ้น ซึ่งทีมไทยแลนด์เปรียบเสมือน “ทัพหน้าของประเทศไทย” ในต่างประเทศที่จะช่วยแสวงหาโอกาสและศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น รวมถึงถือโอกาสนี้ ให้ช่วยกันเชิญชวนคนไทยในต่างประเทศที่มีศักยภาพกลับมาทำงานเพื่อพัฒนาประเทศไทยด้วย โดยรัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาเพื่อสร้างโอกาสให้กับประเทศไทย
สำหรับวันที่สอง นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับผู้บริหารภาคเอกชนสหรัฐ ด้านอิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดไดรฟ์ คือ บริษัท WD หรือเวสเทิร์นดิจิตอล ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่ประเทศไทยด้วย ในการหารือได้มีการผลักดันนโยบายพลังงานสะอาด ซึ่งรัฐบาลจะผลักดันความร่วมมือในเรื่องนี้เพื่อสร้างการจ้างงานให้คนไทยมากยิ่งขึ้น

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ยังได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองเพื่อสร้างเครือข่าย (networking reception) กับนายชาร์ลส์ เอช. ริฟกิน (Charles H. Rivkin) ประธานและประธานกรรมการบริหาร สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ (Motion Picture Association: MPA) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท ผู้ผลิต ภาพยนตร์ชั้นนําของสหรัฐฯ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงนโยบายรัฐบาลที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย โดยได้แจ้งให้บริษัทด้านภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ทราบว่าประเทศไทยมีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบของการคืนเงินสูงสุดที่อัตราร้อยละ 30 และไม่กำหนดเพดานคืนเงินสูงสุดต่อโครงการ ซึ่งซีอีโอจากบริษัทต่างๆ ดีใจ และพร้อมส่งต่อข้อมูลสิทธิประโยชน์นี้ให้บริษัทในเครือได้รับทราบ ซึ่งจะเพิ่มการจ้างงานและโอกาสให้กับคนไทยในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น“

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากนครลอสแองเจลิส เมื่อเวลา 23:30 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ เอเชียแปซิฟิก ”เอเปก” กรุงลิมา เปรู ซึ่งจะได้พบกับผู้นำเขตเศรษฐกิจระดับโลก อาทิ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพื่อกระชับความร่วมมือด้านต่างๆ รวมถึงพบปะกับภาคเอกชนสำคัญ ทั้ง Google Microsoft และ TikTok ซึ่งจะขอใช้โอกาสและเวทีนี้ ยืนยันว่า “ประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการลงทุนและการเมืองมีเสถียรภาพ เพื่อให้เกิดการดึงดูดการลงทุนมาสู่ประเทศไทย”




กำลังโหลดความคิดเห็น