เมืองไทย 360 องศา
ในเวลานี้หากพิจารณาจากบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งในสนามท้องถิ่น อย่างการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และกำลังกลายเป็นสนามแข่งขั้นแย่งชิงกันระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ ที่หวังสร้างฐานเสียงเอาไว้สำหรับการเลือกตั้งสนามใหญ่ หรือ การเลือกตั้ง ส.ส.ในโอกาสต่อไป ซึ่งสนาม อบจ. ถือว่าเป็นการจำลองได้ดีทีเดียว
หากสำรวจการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีหลายจังหวัดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ หลายจังหวัดทั้งในภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกลาง รวมทั้งที่มีการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ต่างก็ได้เห็นภาพการเคลื่อนไหวที่น่าตื่นตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ต่างจากการเลือกตั้งส.ส.เลย มีทั้งผู้สมัครที่เป็นตัวแทนพรรคการเมืองโดยตรง หรือ มีพรรคให้การหนุนหลัง มีการทุ่มเทระดมระดับแกนนำพรรคลงมาช่วยหาเสียงสนับสนุนกันอย่างเต็มที่
เริ่มโฟกัสกันที่สนามเลือกตั้งในภาคอีสาน ที่จังหวัดอุดรธานี ที่หากพิจารณาจากภาพรวมแล้ว ถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่ ในอดีตในทางการเมือง ถือว่าเป็นฐานเสียงหลักของบางพรรค เช่น เพื่อไทย จนบางครั้งเรียกว่าเป็น “เมืองหลวงเสื้อแดง” แม้ว่าในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ยังสามารถกวาด ส.ส.มาได้ถึง 7 คน ที่เหลือเป็นของพรรคไทยสร้างไทย 2 คน และอีก 1 คน เป็นของพรรคประชาชน (ก้าวไกล) และหากพิจารณากันในรายละเอียด ใน 9 คน ล้วนมาจากฐานเสียงเดียวกัน หลังจากพรรคไทยสร้างไทย แยกตัวออกมาจากพรรคเพื่อไทย แต่เอาเป็นว่า มองในภาพรวมแล้ว ยังถือว่าพรรคเพื่อไทย ยังกุมที่มั่นส่วนใหญ่เอาไว้ได้ แต่ก็มีสัญญาณให้เห็นว่ามีอาการ “เสื่อมถอย” อย่างชัดเจน เพราะถูกแย่งเก้าอี้ไปไม่น้อย
นั่นคือภาพรวมๆ ที่ต้องชี้ให้เห็นว่า พื้นที่จังหวัดอุดรธานีสำคัญเพียงใดในทางการเมือง โดยเฉพาะกับทั้งสองพรรค คือ พรรคประชาชน กับเพื่อไทย และหากสำรวจพรรคประชาชนแล้ว ในพื้นที่ภาคอีสานที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่พวกเขาต้องการมาแย่งชิง ซึ่งในการเลือกตั้งคราวที่แล้วก็สามารถคว้ามาได้หลายที่นั่งแบบผิดคาด โดยเฉพาะในเขตเมือง มักจะได้รับชัยชนะ ในจังหวัดอุดรฯ เขต 1 ก็เช่นเดียวกัน ที่เป็นของพรรคประชาชน
แม้ว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา พรรคประชาชนยังไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ก็ยังถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจ สร้างความสั่นสะเทือนได้พอสมควร เหมือนกับการเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรฯ เที่ยวนี้ ที่ทั้งสองพรรคต่างส่งตัวแทนลงสมัคร มีการขับเคี่ยวกันอย่างร้อนแรง มีการระดมสรรพกำลังลงไป ที่น่าจับก็คือ การเคลื่อนไหวในระดับแกนนำของทั้งสองพรรคลงไปช่วยเหลือในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนวันเลือกตั้ง ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร ที่ลงไปช่วยผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 13-14 พฤศจิกายน นี้
แน่นอนว่าการที่ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องลงมาช่วยผู้สมัครของพรรคคือ นายศราวุธ เพชรพนมพร ย่อมต้องมีความน่าสนใจอยู่แล้ว เหมือนกับว่างานนี้ ถึงกับต้องลงมือเองกันเลยทีเดียว ย่อมเป็นตัวชี้วัดว่าสำคัญเพียงใด ส่วนอีกด้านหนึ่งก็สามารถมองเห็นได้ว่า เป็นเพราะทุกอย่างกำลังถดถอย จึงต้องกลับมาฟื้นฟู รักษาเอาไว้ให้มั่นอีกครั้ง เพราะอย่างที่รู้กันก็คือ ในสนามเลือกตั้ง ส.ส.อุดรธานีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยไม่สามารถกวาดที่นั่งได้ทั้งหมด และที่ต้องจับตาก็คือ คู่แข่งใหม่คือ พรรคประชาชน ที่คราวที่แล้วในนามพรรคก้าวไกลที่แม้มาได้แค่ 1 ที่นั่ง แต่ในทุกเขต มีเสียงเป็นกอบเป็นกำ หายใจรดต้นคอเกือบทุกเขต ด้วยเหตุนี้หรือเปล่าที่ถึงกับต้องให้ “นายใหญ่” ลงมาเอง
ขณะที่พรรคประชาชน ก็มีความเคลื่อนไหวใหญ่เช่นเดียวกัน เพราะไม่ทันคล้อยหลัง นายทักษิณ ชินวัตร ดีนัก พวกเขาก็เคลื่อนไหวกันอย่างร้อนแรง มีการสับเปลี่ยนแกนนำพรรคและผู้ช่วยหาเสียงลงพื้นที่ เช่น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง แต่ในครั้งนี้ พรรคประชาชน ได้จัดทัพนักการเมืองและอดีตนักการเมืองมาหาเสียงในช่วงสัปดาห์สุดท้ายอย่างเต็มที่
และ ในวันที่ 15-17 พฤศจิกายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ถึงกับต้องบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ นายคณิศร คุริรัง ผู้สมัครของพรรคในโค้งสุดท้าย
มาทางด้านจังหวัดอุบลราชธานีบ้าง ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ และในทางการเมืองถือว่าเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคการเมืองใหญ่ อย่างพรรคเพื่อไทยเช่นเคย เพียงแต่ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลง มีการแบ่งเก้าอี้ ส.ส.จากพรรคอื่นเข้ามาปะปน
สำหรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้มีผู้สนใจลงสมัครแข่งขันรวม 4 คน แบ่งออกเป็นค่ายใหญ่ๆ ได้ 3 ค่าย เจ้าของตำแหน่งเดิม นายกานต์ กัลป์ตินันท์ อดีตนายก อบจ.สมัยที่แล้ว และเป็นน้องชายของ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมช.มหาดไทย ลงในนามพรรคเพื่อไทย ส่วนคู่แข่งคือ นายสิทธิพล เลาหะวนิช จากอดีตรองนายก อบจ.สมัยที่แล้ว กลับมาลงแข่งขันกันเองในนามพรรคประชาชน
และที่น่าจับตามอง ก็คือ นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล เจ้าแม่โรงแป้งมัน ที่ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทรวมพลัง ลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 จนได้ที่นั่งในสภาถึง 2 ที่นั่ง และถือเป็นการล้มยักษ์ในสนามระดับประเทศ ทั้ง นายชูวิทย์ (กุ่ย) พิทักษ์พรพัลลภ อดีต ส.ส.หลายสมัย และไม่เคยแพ้ใครมาก่อน รวมทั้งนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.หลายสมัย ของพรรคเพื่อไทย
โดยนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล เจ้าแม่โรงแป้งมัน ลงสมัครในนามอิสระ ได้หมายเลข 3 แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทรวมพลัง และยังแตะมือกับ กลุ่มเนวิน พรรคภูมิใจไทย และไทยสร้างไทย ในจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้มีพื้นที่อยู่ในมือจาก ส.ส.ถึง 6 เขต ดังนั้น ผู้สมัครรายนี้ย่อมต้องเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสนามเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดใหญ่ทางภาคใต้ ที่เชื่อว่า เป็นการแข่งขันกันดุเดือดไม่แพ้กัน เพราะผู้สมัครแต่ละคน ล้วนมีพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลังทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยเป็นเจ้าของพื้นที่ในสนามเลือกตั้งใหญ่ พรรคภูมิใจไทย ที่รุกพื้นที่เข้ามา รวมไปถึงพรรคพลังประชาชน ที่ผู้สมัครล้วนเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.เมื่อการเลือกตั้งครั้งแล้ว หันมาลงสนามท้องถิ่นในครั้งนี้ ถือว่างานนี้สู้กันดุเดือดแน่
ทั้งนี้ การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดล็อตนี้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน เพื่อทดแทนการลาออกก่อนกำหนด ของนายกอบจ.ชุดปัจจุบันที่อาศัยแท็กติกทางกฎหมาย ที่คิดว่าตัวเองได้เปรียบ ขณะที่ล็อตใหญ่ทั่วประเทศนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยจะประกาศวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 23 - 27 ธันวาคม 2567 และกำหนดวันเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568
นั่นคือ ภาพกว้างๆ สำหรับสนามเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งชุดใหญ่ทั่วประเทศ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า เป็นการจำลองการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า เพราะการเลือกนายกอบจ. มีเขตเลือกตั้งไม่ต่างจากการเลือกตั้ง ส.ส. ในจังหวัดนั้น ถือเป็นการสร้างฐานเสียงสำคัญในทางการเมือง ที่พรรคใหญ่ต่างก็ต้องการแย่งชิง รักษาพื้นที่และรุกคืบเข้ามา ทำให้ทุกอย่างมีความเข้มข้นละสายตาไม่ได้เลย !!