"กลุ่มธรรมาภิบาล" ร้อง กกต. สอบนายกอบจ.ชิงลาออกก่อนครบวาระ เชื่อหวังประโยชน์การเมืองอาศัยช่องโหว่กฎหมายสมัครกลับเข้ามาใหม่ ทำรัฐเสียงบประมาณ จี้ส่งศาลรธน.วินิจฉัย
วันนี้ (1 พ.ย.) นายสุนทร บุญยิ่ง หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอรัปชั่น ยื่นหนังสือต่อประธานกกต.ขอให้ตรวจสอบการลาออกของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในหลายจังหวัดที่ลาออกก่อนครบวาระแล้วกลับสมัครรับเลือกตั้งใหม่เข้ามาใหม่เป็นกรณีที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่
นายสุนทรกล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นซึ่งจะมีการเลือกตั้งนายกอบจ. ขอนแก่น.ชในวันที่ 3 พ.ย. 2567 นี้ โดยก่อนหน้านั้นนายกอบจ. ขอนแก่นได้ลาออกก่อนครบวาระในวันที่ 19 ธ.ค. 2567 และกกต.ได้จัดให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.ขอนแก่นใหม่ โดยนายกอบจ.ขอนแก่นคนเดิมที่ลาออกได้กลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ในการเลือกตั้งดังกล่าว ถือว่าเป็นการกระทำที่อาจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์และขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมถึงการลาออกเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนครบวาระแล้วกลับมาสมัครรับเลือกตั้งอีก เป็นกรณีที่ทำให้สิ้นเปลืองเงินแผ่นดินโดยไม่สมควรและไม่เป็นไปตามแบบแผนปฏิบัติตามกฎหมายและไม่คุ้มค่าต่อเงินแผ่นดินซึ่งขัดต่อพ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2561
นอกจากนี้ยังพบว่ามีนายกอบจ.หลายจังหวัดได้มีการลาออกก่อนครบวาระเพื่อให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่ และกลับมาสมัครรับเลือกตั้งอีก มองว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง แต่เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองส่วนตนโดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายเพื่อให้ตนเองหลุดพ้นมาตราการควบคุมวิธีการหาเสียงเลือกตั้งตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด รวมไปถึงกรอบเวลาการคิดคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง กลุ่มธรรมาภิบาลฯ จึงขอให้กกต. ตรวจสอบกรณีการลาออกของนายกอบจ.ทุกจังหวัดก่อนครบวาระเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่และลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่และเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ใน 3 ประเด็น 1.ขอให้ตรวจสอบการลาออกและหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งนายกอบจ. ก่อนครบวาระของจังหวัดต่างๆ ว่าเหตุแห่งการลาออกถูกต้องตามกฎหมายและเป็นความจริงตามเหตุที่ขอลาออกหรือไม่
2 ขอให้ตรวจสอบการลาออกก่อนครบวาระเพื่อกลับมาสมัครรับเลือกตั้งใหม่แท้จริงมุ่งหวังต่อประโยชน์ทางการเมืองส่วนตน ทำให้ประโยชน์ของรัฐและประโยชน์แห่งท้องถิ่นนั้น เกิดความเสียหายหรือไม่
3.ให้ตรวจสอบการลาออกก่อนครบวาระเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ซึ่งในการเลือกตั้งนายกอบจแต่ละจังหวัดจะใช้งบประมาณในการจัดการเลือกตั้งประมาณ 30-80 ล้านบาทนั้นเป็นกรณีที่เป็นการสิ้นเปลืองเงินแผ่นดินโดยไม่สมควรหรือไม่ หรือไม่เป็นไปตามแบบแผนปฏิบัติตามกฎหมายและไม่คุ้มค่าต่อเงินแผ่นดินซึ่งอาจขัดต่อพ.ร.บว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2561 หรือไม่