"แดดดี้ส้ม" ชี้ ผลโพลไม่ดูตัวเลขแต่ต้องดูว่าใครทำ หลัง ปชช.ไม่เชื่อมั่นฝ่ายค้าน มอง “เท้ง” ต้องผ่านได้ วอน อย่าใส่นามสกุลให้ ”พรรคประชาชน“ หลังถูกโจมตีเป็นพรรคพม่า-บีอาร์เอ็น
เมื่อวันที่ (31 ต.ค. 2567) ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงผลโพลที่ประชาชนเกินครึ่งไม่เชื่อมั่นพรรคฝ่ายค้าน ว่า เวลาจะอ่านโพล ตนไม่ค่อยดูตัวเลขเท่าไร แต่จะดูว่าใครเป็นผู้ทำผลโพล ก่อนจะนำมาวิเคราะห์เพื่อดูข้อที่ควรปรับปรุง ซึ่งเชื่อว่าพรรคฝ่ายค้านก็จะนำมาปรับปรุง เพื่อให้กำลังใจไม่เสีย
ส่วนจะทีช่องโหว่ใดที่พรรคประชาชนจะต้องปรับนั้น นายพิธา ระบุว่า ต้องใช้เวลาและหากดูตามเนื้อผ้าและติดตามการทำงานของผู้นำฝ่ายค้าน อย่างน้อยที่สุดก็ทำได้เทียบเท่ากับมาตรฐาน เหมือนตอนที่เป็นพรรคก้าวไกล และเชื่อว่าจะสามารถทำงานและบริหารจัดการได้ ขณะเดียวกันก็เข้าใจว่ามีการโจมตีพรรคเยอะพอสมควร จึงขอใช้โอกาสนี้ในฐานะที่เป็นอดีตเพื่อนร่วมงานมา 5-6 ปี เห็นว่าพรรคประชาชนก็มีความตั้งใจทำงานเพื่อคนไทย ไม่ใช่เป็นพรรคประชาชนที่มีนามสกุลพม่า ไม่ใช่พรรคประชาชนบีอาร์เอ็นแน่นอน แต่เพราะมีความตั้งใจทำงานแก้ปัญหาให้คนไทย เพียงแต่ว่าบางปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น ฝุ่น คอร์รัปชัน แรงงานต่างด้าวที่ไม่ขึ้นทะเบียนในระบบ ต้องได้รับการจัดการเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย เพราะฉะนั้นที่มีกระบวนการบอกว่าเป็นพรรคประชาชนพม่า รวมทั้งที่มีการพูดว่า พรรคภูมิใจกัมพูชา ถือเป็นการใช้ชาตินิยมมาเป็นเครื่องมือในการทำลายล้างทางการเมือง ก็ต้องขอวิงวอนไปถึงประชาชนว่าไม่ได้เป็นประโยชน์กับใครเลย ยกเว้นคนที่ต้องการจะโจมตี และต้องการเบี่ยงประเด็นสำคัญ จึงขอแยกให้ออกว่าเป็นการโจมตี หรือเฟคนิวส์ หรือเป็นการพูดข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่าพรคประชาชนต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะเปล่งประกาย นายพิธา กล่าวว่า ถามถูกคนแล้ว พร้อมเล่าย้อนว่า นิด้าโพลครั้งแรกของตน 3% และขึ้นถึง 45% ในระยะเวลา 3 ปี ฉะนั้นหากถามว่ามีเวลาเท่าไร ตนก็มองว่ามีเวลาตัดสินใจก่อนที่ประชาชนจะเข้าคูหา จะต้องผ่านและเชื่อว่าเป็นกระบวนการที่จะต้องผ่านทั้งอุณหภูมิการเมือง ความกดดันและความอดทน ซึ่งเชื่อว่าหากตนผ่านไปได้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ก็จะผ่านไปได้เช่นกัน