xs
xsm
sm
md
lg

"ษิทรา"ทำเป็นตลก กลบเกลื่อนใครๆ ก็ไม่รัก "ลุงอัจ" ให้กำลังใจ ขอให้ไปอยู่กับ "บอสพอล" ส่วน "โจ๊ก" ส่ายหน้าว่า กรรมใครกรรมมัน! ** เพื่อไทย เปิดศึกพลังประชารัฐ หลังปูดอักษรย่อ 6 เทวดา โยงดิไอคอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ษิทรา เบี้ยบังเกิด - อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล - ดนุพร ปุณณกันต์
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ "ษิทรา"ทำเป็นตลก กลบเกลื่อนใครๆ ก็ไม่รัก "ลุงอัจ" ให้กำลังใจ ขอให้ไปอยู่กับ "บอสพอล" ส่วน "โจ๊ก" ส่ายหน้าว่า กรรมใครกรรมมัน!

“ใครใครก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย เฮ้อ…ชีวิต”

ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เคลื่อนไหวโพสต์ข้อความประชดชีวิตในเฟซบุ๊ก ท่ามกลางกระแสแฉรายวัน

แผลเก่าและใหม่ ทั้งคดีฉ้อโกงพี่อ้อย 71 ล้าน และผู้มีประสบการณ์ถูกทนายตั้ม ทำเจ็บเอาไว้กรูกันออกมาเปิดโปงจนทนายคนดังไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร จึงมาโพสต์ข้อความดังกล่าว

แต่ก็ถูกชาวเน็ตคอมเม้นต์ว่า เป็น แคปชันแก้เขิน ตลกกลบเกลื่อน เค้ารักคนดีครับ

เรื่องเยี่ยวกินจริงมั้ยคับ เปลี่ยนเสื้อได้ไหม ดูย้อนแย้ง ผู้คุมตัดชุดแล้วน๊าาาา แก๊งไปไหนหมด ทำสิ่งใด...ได้สิ่งนั้น และ อีกหลายๆ ความเห็น รุมด่าเรียกว่า “เละคาบ้าน”

เช่นเดียวกับ “ลุงอัจ” อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ผู้ที่เพิ่งมีคอนเทนต์ จูบปากญาติดีกับ “ทนายตั้ม”ออกรายการโหนกระแส หลังเป็นคู่แค้นกันมานานปี ก็ทำนายทายทัก ทนายตัวตึง น่าจะโดนออกหมายจับในระยะเวลาอันใกล้ คดีเกี่ยวกับฉ้อโกง ซึ่งได้พูดให้กำลังใจทนายตั้มว่า อาจจะได้เข้าไปอยู่กับ “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ในเรือนจำ

“อัจฉริยะ” กล่าวอีกว่า ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็ต้องรับสภาพกรรมนั้นและความจริง ก็คือความจริง!!

แถมตบท้ายถึงพฤติกรรมของ “ทนายตั้ม” ที่ผ่านมา สู้รบกับนักการเมืองหลายๆ คน รวมทั้งอดีตนายตำรวจระดับสูง มาเกิดเรื่องในวันนี้ ทำให้ทราบกันดีทำไปเพื่ออะไร !? รู้เลยว่า "รับงาน" มาหรือไม่ !

เจอดอกนี้ของคู่แค้นที่เพิ่งมารัก จะกลับไปแค้นกันใหม่หรือไม่ ไม่รู้ ที่แน่ๆ "ลูกพี่โจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ถูกโยงกรณี "หนึ่ง บางปู" ออกมาแฉ ทนายคนดังไถค่าจ้าง 10ล้าน บอกว่าจะเอาไปให้ "บิ๊กตำรวจ"

ฟังว่า “โจ๊ก-สุรเชชษฐ์” โดดตัวยาว ปฏิเสธโดยไม่มีเยื่อใย บอกไม่ได้รู้จัก “ทนายตั้ม” มากนัก และเชื่อคราวนี้ กรรมใคร กรรมมัน ใครทำสิ่งใด ย่อมรับสิ่งนั้น หากทนายตั้ม ไปทำผิด ทำชั่ว ก็ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง

โถ...สัมพันธ์อันดี มีสุขร่วมเสพในอดีต ร้องคาราโอเกะด้วยกัน ไม่สนิทกันมากนัก จะได้อย่างไร !?

“ลูกพี่โจ๊ก” ก็ช่างกระไร เทกัน และส่ายหน้าหนีเห็นๆ น่าเจ็บใจยิ่งกว่าพัดลมยังส่ายหน้าเย้ย

กรรมเวรกำลังเล่นงานลูกน้อง ลูกพี่โบกมือไล่ให้ไปรับกรรมไกลๆ อย่ามาเกี่ยวโยงกัน ก็ต้องเห็นใจ "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" เพราะกรรมของตัวเองก็มากพอแล้ว

วันนี้ “ทนายตั้ม” เหม็นเน่าไปทั่วพารา มีคำถามว่า หากทนายคนดีย์ จะอาศัยช่วงจังหวะชุลมุน ขอพบและกราบเท้าขอโทษ "พี่อ้อย" ที่แจ้งความฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน จะยอมให้อภัย หรือไม่!?

งานนี้ เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ได้เผยแพร่คลิป "เปิดใจพี่อ้อย" โดยสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ถามประเด็นนี้ ซึ่ง พี่อ้อย ก็ตอบชัดว่า "สายไปแล้ว"

ขณะที่ “พี่อ้อย” ยืนยันว่า การที่มาพบสนธินั้น ไม่ได้ให้อะไรผู้เฒ่าเล่าเรื่อง สิ่งที่มอบให้สนธิ มีแค่ไวน์ 1 ขวด และช็อกโกแลต 1 ถุง เท่านั้น ส่วนสนธิ ก็บอกว่า หากตัวเองมีการเรียกเงินกับ มาดามอ้อย ก็ขอให้ตัวเองพินาศไปเลย

“ทนายตั้ม” ที่ท้าตีท้าต่อยก็โปรดได้รับทราบด้วย สนธิจะเดินเรื่องนี้สุดซอย และไม่มีใครขออะไรได้

สัปดาห์หน้าจะไปยื่นเรื่องถอดถอนทนาย ที่สภาทนายความ เพราะพฤติการณ์ของทนายตั้ม ผิดจริยธรรม รวมถึงไปยื่นเรื่องที่ กรมสรรพากร ในปมภาษีด้วย

นี่ก็ต้องบอกว่า เรื่องของกฎแห่งกรรม ไม่มีใครหนีพ้น

"นะครับนะ" ถ้าตั้มไม่เชื่อ ถามลูกพี่โจ๊ก ได้เลย!!

ภูมิธรรม เวชยชัย
++ เพื่อไทย เปิดศึกพลังประชารัฐ หลังปูดอักษรย่อ 6 เทวดา โยงดิไอคอน

วันก่อน พรรคพลังประชารัฐ เตรียมประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อขับ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” พ้นสมาชิกพรรค หลังถูกแฉว่าเป็นบุคคลในคลิปลับ ที่เรียกรับทรัพย์ จาก “บอสพอล” ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง ดิไอคอน กรุ๊ป

แต่บังเอิญว่า “สามารถ” ได้ยื่นหนังสือไปที่ กกต. เพื่อแสดงความจำนง ขอลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปก่อนแล้ว จึงไม่ต้องนำมาพิจารณา หรือให้กรรมการบริหารพรรค ลงมติขับออก

การลาออกของ “สามารถ” ทำให้พรรคพลังประชารัฐโล่งใจ จะได้ไม่ต้องถูกลากไปผูกโยงกับเรื่องฉาวของ ดิไอคอน อีก โดยเฉพาะข้อครหาที่ว่า มี “เทวดา” อยู่เบื้องหลัง สามารถ อีกทีหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ก็ได้ทีที่จะรุกกลับพรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวว่ามี “เทวดา” เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่

โดย“พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย” โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ทิ้งบอมบ์ว่า “เทวดา” ตัวจริง ที่อยู่เบื้องหลัง“บอสพอล” ที่นอกจาก “บอสแซม” ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังมี “บอสก้อง” ก็เคยเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ส่วน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ก็เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร ซึ่งตอนนี้ กลุ่มสามมิตร ก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทย

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีนักการเมืองอีก 6 คน มีชื่ออักษรย่อ “ก. ธ. ส. ต. อ.และจ่า” ซึ่งทั้ง 6 คนนี้ ใกล้ชิด และเกี่ยวข้องกับนักการเมือง อยู่ในพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะ“ส. อ. ด.”เดาง่ายๆ ว่าเทวดาอยู่ข้างหลังเป็นใคร?
เมื่อถูดพาดพิงเช่นนี้ ทำเอาคนของพรรคเพื่อไทย เดือดพลั่ก!!

“ดนุพร ปุณณกันต์” โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า อักษรย่อต่างๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสภาฯชุดที่แล้ว อาทิ นายมานะ โลหะวณิชย์ อดีต สส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ที่ในขณะนั้น เป็นประธาน กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภค “มนพร เจริญศรี” รมช.คมนาคม ที่ในขณะนั้น เป็นประธานอนุฯ ในกมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า เรื่องได้เข้ามาใน กมธ.ฯ ชุดที่แล้ว มีการไกล่เกลี่ยเยียวยากันไปแล้ว

ส่วน “บอสแซม” ก็ได้ได้สิ้นสภาพการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.65 ไปแล้ว และอีกราย อักษรย่อ ก. คาดว่าเป็น นายอรรฆรัตน์ นิติพน หรือ บอสก้อง อายุน้อยร้อยล้าน นักแสดงและพิธีกร ที่ลงสมัคร สส.กทม. ของพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2566 ตนสอบถามไปก็ทราบว่า นายอรรฆรัตน์ หรือ ก้อง ได้สัมภาษณ์ ผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป จริง แต่นั่นเป็นเรื่องเมื่อปี 64 ก่อนที่เขาจะเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

“โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ลองไปดูพรรคตัวเองก่อน หรือไม่ จะเห็นว่าผู้ที่ออกมาในคลิปเสียง มีความใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรคตัวเอง ก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าเทวดาจะอยู่พรรคเพื่อไทย หรือพรรคพลังประชารัฐกันแน่ แต่หากฟังจากคลิปเสียงแล้ว เชื่อว่า ไม่น่าจะมาอยู่พรรคเพื่อไทย” ดนุพร สวนโฆษก พปชร.

ด้าน“ภูมิธรรม เวชยชัย” ที่ตอนนี้รับบทนายกฯน้อย ท้าให้เอาหลักฐานมา โดยบอกว่า วันนี้เราควรอยู่กับความจริง ไม่ใช่การคาดเดา เพราะถ้าผิดพลาดขึ้นมา มันจะทำให้คนที่ถูกคาดเดาเกิดความเสียหายได้ อย่าดรามากันจนเกินความเป็นจริง

ทางที่ดีที่สุดคือ เอาข้อเท็จจริงมาดู เอาพยาน หลักฐานมา แล้วมาดูกันว่า กระบวนการยุติธรรมจะจัดการอย่างไร

ขณะที่ “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกว่า รับไม่ได้กับคนที่เคยเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พอมารับตำแหน่งทางการเมืองแล้วจะมาพูดเช่นนี้ ทั้งๆที่เป็นเรื่องของบุคคล แต่ก็เอามาโยงให้เป็นเรื่องพรรค ในทางการเมืองเขาไม่ทำกันแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง

ดังนั้น เรื่องนี้ต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรค ว่าจะดำเนินการอะไรได้บ้าง ขณะเดียวกัน หากมีข้อพิสูจน์ออกมาว่า มีคนของพรรคเข้าไปเกี่ยวข้อง และมีความผิดจริง ทางพรรคและกรรมการบริหารพรรค ก็พร้อมขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทันที
ขณะนี้ คดี “ดิไอคอน” ได้ถูกโอนให้ไปอยู่ในความรับผิดชอบของ “ดีเอสไอ”แล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการสืบหาความจริง ว่า “เทวดา” ที่อยู่เบื้องหลัง “บอสพอล” และดิไอคอนกรุ๊ป คือใคร ทาง“อธิบดีดีเอสไอ” ก็ควรเชิญโฆษกพรรคพลังประชารัฐ มาให้ข้อมูลว่า อักษรย่อทั้ง 6 คนนั้น คือใคร เป็นนักการเมืองสังกัดพรรคไหน

แม้คำให้การ ไม่อาจเปิดเผยสู่สาธารณะ แต่อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลให้ ดีเอสไอ ขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้องกับ ดิไอคอนได้


กำลังโหลดความคิดเห็น