ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ ลูกมั่ว" หมาแก่" ช่วย "ตั้ม" แถทั่วไทย-ปมเลี่ยงภาษี "สรรพากร" ต้องเข้าแล้ว!?
เริ่มจากร้อนตัวจากข้อกล่าวหา "ฉ้อโกง" ฮุบเงิน 71 ล้านที่ถูกแจ้งความ "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ชิงป่าวประกาศว่าได้มา "โดยเสน่หา" นอกจากไม่มีใครเชื่อแล้วยังทำให้ตัวเองหมดสิ้นความน่าเชื่อถือ เดินลงหลุม ฝังตัวเองไปเรียบโร้ยยย!!!
แถมที่เคยทำอะไรไว้ ก็ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาประจานพฤติการณ์อันเป็น "นิสัย" แก้ไม่หาย
อุตสาห์จะ "หาแสง" จากแชร์ "ดิไอคอน" รวม "ดรีมทีม" ทนาย มิวายถูก "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ที่อยู่ในคุกสั่งทนายลุยเอาเรื่อง "ตบทรัพย์" เข้าอีกดอก
งานนี้ บาปกรรมไล่ล่า ซึ่งก็ต้องบอกว่า ล้วนแต่เกิดจาก "ทนายตั้ม" ทำตัวเอง
ครั้นวิ่งพล่านหาตัวช่วย ก็เห็นจะมีแต่ "หมาแก่" ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ เพื่อนคู่คิดมิตร "เทพโจ๊ก" เครือข่ายสื่อเป็นกระบอกเสียงจากคอนเนกชันของลูกพี่ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล”
เจาะลึกทั่วไทยของดนัย กลายสภาพเป็น "มั่วทั่วไทย" รับลูกจากทนายตั้มมา ก็หลับหูหลับตาด้นช่วยกัน
ศุกร์ที่ผ่านมา (25ต.ค.) ลุยถั่ว มั่วไปดุ่ยๆ ถึงขั้นที่เสนอข่าวว่า "เจ้อ้อย" โจทก์ “ทนายตั้ม” รีบบินด่วนจากฝรั่งเศส เช้าวันนี้ เพื่อมาเคลียร์คดี สอดรับกับที่ "ษิทรา" ขึงขังจะฟ้องกลับ กลับมาบอกจะชะลอการฟ้องกลับไว้ก่อน เพราะอยากพบ “เจ้อ้อย” ปรับความเข้าใจ
ลูกมั่วของ "หมาแก่" ยังพยายามช่วย “ษิทรา” โน้มน้าวคนดูให้จับผิดด้อยค่า "เจ้อ้อย" ด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในรายการ แบบว่าไม่มีอะไรจะพูดก็คุ้ยเขี่ยไปเรื่อย
ถ้า “ดนัย” เป็นสื่อที่ต้องตรวจสอบข้อมูลให้กระจ่างชัดก่อนนำเสนอ ก็จะรู้ว่า "เจ๊อ้อย" บินมาไทยก่อนหน้านี้สักพักแล้ว ไม่ใช่เพิ่งบินมาด่วน และได้เข้าพบสื่ออาวุโส ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง "สนธิ ลิ้มทองกุล" ตั้งแต่วันพุธที่16 ตุลาฯ ที่ผ่านมา และยังคงพักอยู่ในไทยที่ปากช่อง มีกำหนดจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจสอบสวนกลาง ในเร็วๆ นี้
ระหว่างการเข้าพบซักถามกันระหว่าง “สนธิ-เจ๊อ้อย” มีภาพถ่าย วัน เวลา สถานที่ ระบุไว้เป็นประจักษ์ จะบินมาลงสุวรรณภูมิ เช้าวันที่ 25 ต.ค.ได้อย่างไร !!
แหม..เว้นซะแต่เธอขึ้นเครื่องจากปากช่อง มาลงสุวรรณภูมิ ตามข้อมูลของทนายตั้ม กระซิบบอกหมาแก่
เรียกว่า หมาแก่จงใจหรือไม่รู้ตัว ปล่อยไก่กลางอากาศ ออกลูกมั่วซึ่ง “ดนัย” ควรหรือไม่ควร น่าจะต้องฟังคำแนะนำของ "สนธิ" ที่ฝากไว้ถึงหมาแก่ ว่า สมควรพักไปยาวๆได้แล้ว ไม่อายตัวเอง ก็เห็นแก่วงการสื่อบ้าง!
ไม่ไหว บอกไหว “หมาแก่” ยิ่งแก่จะยิ่งเสียหมา ก็ลองตรึกตรองดู
ทว่า สำหรับตัวคนที่มาขอให้ช่วย อย่าง "ทนายตั้ม" คงไม่ได้พักแน่ๆ เพราะ อย่างน้อยจะเพิ่ม "กรมสรรพากร" มาเป็นคู่กรณีร่วมกฐินสามัคคี "ทนายแบรนด์เนม" แน่ๆ
งานนี้ถ้ามีคนร้องเจ้าหน้าที่สรรพากร ไม่ทำก็คงจะต้องเจอข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ความผิดสำเร็จอยู่ตรงหน้า คงปฏิเสธยาก
เอาแค่เรื่องของเงิน 71 ล้าน ที่แก้ตัวว่าได้มาโดยเสน่หา เจตนาถอนเกลี้ยงในวันเดียว ก็ต้องรื้อกันดูว่าเสียภาษีแบบไหน!?
ตามปกติจะเสียภาษีที่ 5% หรือราว 3 ล้าน แต่เมื่อความจริงถูกเปิดเผยว่า ผู้ให้ไม่ได้ให้โดยเสน่หา โดยมีเรื่องแจ้งความกัน สรรพากร ก็ต้องลงเรียกมาดูหรือไม่
ส่วนปมประเด็นเงินค่าจ้างเดือนละสามแสนบาท จาก "เจ๊อ้อย" ว่าจ้างบริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม เป็นที่ปรึกษากฎหมาย มีหลักฐานว่า "ทนายตั้ม" ให้โอนเข้าบัญชีพี่ภรรยา ไม่เข้าบริษัท
ไม่นับรวมประโยชน์อื่นที่ได้จาก "เจ๊อ้อย" ระหว่างที่ "ษิทรา ลอว์เฟิร์ม" รับจ้างเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการบินกับครอบครัวไปทัวร์ฝรั่งเศส และยุโรป เป็นว่าเล่น
ต่ำๆ บินบิซิเนสคลาส ค่าโรงแรม ค่าอาหารการกินที่ "เจ๊อ้อย" เปย์ให้หมด ก็ทริปละล้าน กี่ทริป กี่ครั้ง เชื่อว่าหากคำนวณนับกันจริงๆ ก็คงเป็นเงินจำนวนหลายล้าน
งานนี้ ทั้งบริษัทและส่วนตัว เจตนาเลี่ยงภาษี สรรพากรก็ต้องไล่บี้ทบต้นทบดอก และบทลงโทษด้วยหรือไม่ !?
มิพักต้องสงสัยถึงรายได้ของภรรยาทนายตั้ม ที่ว่ากันว่า ควักเงินสดซื้อบ้านหรู ราคา 50-60 ล้าน รายได้ตรงนั้น ท่านได้แต่ใดมา สรรพากรควรต้องสอบหรือเปล่า !?
“ทนายตั้ม” เที่ยวบอกกับสังคม โพสต์ลงสื่อว่า ทุกอย่าง ทุกการกระทำ ทำด้วยความชัดเจน
คำกล่าวนี้ สังคมรู้กันหมดแล้วว่าเป็นคำกล่าวของคนที่หมดความเชื่อถือไปแล้ว
จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของสรรพากร จะคอนเฟิร์ม!
++ 6 สส.พรรคส้ม ติดบ่วง ดิไอคอน...ถามลุงป้อมจะปลดสามารถ กี่โมง
คดี “ดิไอคอน กรุ๊ป” ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในสังคม ย่อมดึงดูด “นักหาแสง” ให้แวะเวียนเข้ามาขอมีส่วนร่วมในการวิพากวิจารณ์ จับผิด หรือทำตัวเป็นนักบุญ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ในจำนวนนี้ มี “6สส.พรรคส้ม” ได้ดิ้นรนเข้ามาหาแสง กระทั่งจะกลายเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ตกเป็นเหยื่อของ “นักร้อง” เข้าจนได้
ล่าสุด “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นคำร้องต่อกกต. ให้ตรวจสอบสมาชิกภาพของ “กันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์” และ “ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์” พร้อม สส.พรรคประชาชน อีก 4 คน ที่เป็นวอลเปเปอร์ มาร่วมแถลงข่าว ว่า มีเหตุให้สมาชิกภาพการเป็น สส.ต้องสิ้นสุดลง ตามรธน. มาตรา 101 (7) ประกอบ มาตรา 185 (1) (3) หรือไม่
เพราะในการแถลงข่าวของ 6 สส.พรรคส้ม เมื่อวันที่ 24 ต.ค.67 ที่ห้องแถลงข่าว รัฐสภา เกี่ยวกับข้อกังวลการสอบสวนข้อเท็จจริง บริษัท The Icon Group ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 67 ได้มีคำสั่ง ครม. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์แล้ว มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าน ตนเองและสส.พรรคประชาชน มีข้อกังวล ที่จะฝากถึง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ถึงคำสั่งดังกล่าว ที่มีกรรมการบางราย ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวโยงกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีการเบี่ยงเบนประเด็น หรือการไปยุ่งเหยิงกับพยาน หลักฐาน หรือ ข้อมูลที่จะสืบสวนหาข้อเท็จจริงได้ และได้ทราบข่าวว่าจะโอนเรื่องไปยัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งอาจจะเป็นการช่วยเหลือบุคคลที่เกี่ยวข้องให้พ้นผิดหรือไม่ ... จึงขอให้มีการโยกย้ายบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ออกจากคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า จะได้รับความเป็นธรรม...
และตรงช่วงท้ายของการแถลงข่าวที่มีการ...ขอให้โอนย้ายบุคคล...นี่เองที่ “เรืองไกร” จับมาเป็นประเด็น เพราะอาจเป็นการฝ่าฝืน รธน. มาตรา 101 (7) ประกอบ มาตรา 185 (1) (3)
โดยมาตรา 101 นั้น เป็นเรื่องการสิ้นสุดลงของสมาชิกภาพการเป็น สส.
ส่วน มาตรา 185 นั้น เป็นเรื่องที่ห้าม สส.-สว.ไปก้าวก่าย แทรกแซงการทำงานของข้าราชการ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม
เมื่อ สส.ไปเรียกร้อง ไปเสนอ ให้โอนย้ายบุคคลเช่นนี้ จึงต้องให้ กกต. พิจารณาว่า เข้าข่ายที่สมาชิกภาพการเป็น สส.จะสิ้นสุดลงหรือไม่
ก็ต้องติดตามกันว่า ชะตากรรมของ 6 สส.พรรคส้มจะเป็นเช่นไร
ส่วนเรื่องคลิปเสียง ตบทรัพย์ “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของและผู้ก่อตั้ง ดิไอคอน กรุ๊ป และไปโยงกับสคบ.ซึ่ง “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ผู้มีความใกล้ชิดกับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ก็ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่เสียงตนเอง แถมขู่ฟ้องบุคคลที่ทำให้ตนเองเสียหาย
เมื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ” ตกเป็นบุคคลในข่าว แถมมีการวิเคราะห์วิจารณ์ว่า น่าจะมี “เทวดา” ที่อยู่เบื้องหลัง “สามารถ”อีกทีหนึ่ง
ทาง “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ จึงโพล่งออกมาว่าจะปลด “สามารถ” จากรองโฆษกพรรค และสมาชิกพรรค
จึงมีคำถามตามมาว่า จะปลด “สามารถ” นั้นได้ตั้งกรรมการสอบฯ แล้วหรือยัง ที่สำคัญได้ถาม“ลุงป้อม”แล้วหรือยัง
วันนี้ จึงต้องถามไปยัง “ลุงป้อม” ว่าเมื่อเรื่องมันฉาวโฉ่ มาถึงขั้นนี้แล้ว จะปลด “สามารถ” ตอนกี่โมง !!
