“ทนายสงกานต์” พร้อมผู้เสียหายหอบหลักฐานร้อง ศูนย์รับเรื่องทำเนียบ-สตช. แจ้งเอาผิดพยาบาลวิชาชีพ-รพ.รัฐชื่อดังย่านสาทร ขโมยรก-สายสะดือแม่เด็กคลอดใหม่ ขายคลินิกเอกชนทำสเต็มเซลล์ กว่า 100 รพ. นาน 8 ปี ชี้ผิด กม. โทษหนัก คุก 5-15 ปี จ่อตรวจ รพ.ทั่วไทย
วันนี้ (24 ต.ค.) เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รับเรื่องร้องเรียน ขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ พร้อมด้วย ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ นำผู้เสียหายเข้าร้องเรียน
นายจิรายุ กล่าวว่า ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทำเนียบรัฐบาล โดยประสานผ่านทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย พล.ต.ท.อาชยน ได้รับเรื่องไปดำเนินการทางกฎหมาย ต้องเร่งรีบสืบสวนสอบสวนเพื่อหาองค์ประกอบในการดำเนินการเอาผิดทางคดีต่อไปให้เร็วที่สุด โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการตรวจสอบโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันพบว่ามีคุณแม่ที่ไปคลอดตามโรงพยาบาลต่างๆ ไม่ได้คิดว่าจะเก็บรกไว้ แต่พยาบาลนำเฉพาะผู้ที่มีเลือดกรุ๊ปโอ ซึ่งจะใช้ทำสเต็มเซลล์นำลักลอบ โดยดิลิเวอรี่ขนส่งตามแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อไปส่งให้กับสถานพยาบาล หรือคลินิกเอกชน
ทางทนายสงกานต์ ในฐานะอดีตกรรมการปฏิรูปประเทศ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ผู้เสียหายเป็นอดีตลูกจ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการผลิตสเต็มเซลล์ โดยไม่เคยรู้มาก่อนว่าบริษัทมีการเอารกและสายสะดือของเด็กและแม่เด็กมาทำสเต็มเซลล์ ต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายก่อน ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าบริษัทแห่งนี้ ไปนำเอารกและสายสะดือของแม่เด็กที่ไม่ได้รับการยินยอมมาทำสเต็มเซลล์มาตลอดต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 7- 8 ปี เมื่อมาปรึกษาว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือไม่หลังจากได้รับคำตอบจากทนายว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายจึงขอลาออกจากบริษัทดังกล่าว แต่ปรากฏว่า นายจ้างได้แจ้งความดำเนินคดีอาญากับพนักงานหญิงคนดังกล่าว ซึ่งพบว่าทำเป็นขบวนการ ทำมาหลายปี ผู้เกี่ยวข้องเป็นพยาบาลวิชาชีพและโรงพยาบาลของรัฐชื่อดังย่านสาทร ทำเป็นขบวนการ มีหลักฐานลักลอบส่งรกและสายสะดือของแม่เด็กที่ส่วนใหญ่จะใช้เลือดกรุ๊ปโอมาทำการเพาะเชื้อผลิตสเต็มเซลล์ เอามาทำเป็นธุรกิจเป็นล่ำเป็นสัน ขายให้กับคลินิกต่างๆ พบว่า รวบรวมข้อมูลบริษัทเอกชนต่างๆ ไม่น้อยกว่า 100 ราย ทำมาไม่น้อยกว่า 1,000 ครั้ง และพบกว่า 100 โรงพยาบาลที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ดังนั้น จึงต้องการหยุดยั้งขบวนการลักลอบนำรกและสายสะดือของแม่เด็กมาทำการค้าขายซึ่งผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 366/8 บัญญัติชัดเจนผู้ใดซื้อขายอวัยวะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปีปรับ 100,000-300,000 บาท และผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้วย ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเจ้าของ เป็นผู้มีชื่อเสียงและภรรยามีตำแหน่งเป็นถึงผู้พิพากษา
ทั้งนี้ พนักงานเอกชนผู้ที่เข้าร้องเปิดเผยว่ามีพยานหลักฐานที่มีเป็นภาพการขนส่งจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งไปบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและมีสเตทเม้นท์ การเงินเข้าออกของพยาบาลวิชาชีพที่บริษัทเอกชนมีการโอนเข้าซึ่งตนได้ทำงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งนี้อยู่ 7-8 ปี มีการขนส่งรกและสายสะดือ ทุกเดือนประมาณ 4-5 ครั้ง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าตรวจสอบโรงพยาบาลจะพบวัตถุพยานเพราะยังมีหลักฐานอยู่หากเก็บมาจะมีขั้นตอนการเก็บรักษาและมีการสกัดออกมาเป็นน้ำและยังคงเก็บรักษาไว้ก่อนเพื่อจะนำไปตรวจหาค่าต่างๆ
ทั้งนี้ ทนายสงกานต์ กล่าวว่า พยาบาลวิชาชีพแค่คนเดียวคงทำไม่ได้เพราะทำมา 6-7 ปี และเมื่อ 22 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมาได้นำส่งหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวนไปแล้วไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกต่อไปกับประชาชนคนอื่นๆ เพราะเป็นความผิดทางกฎหมาย เพราะอวัยวะแม้จะเป็นรกหรือสายสะดือของแม่เด็กและเด็กก็ไม่สามารถซื้อขายกันได้มีความผิด