รู้แล้วจะถึงบางอ้อ! "ทนายตั้ม" ทำอะไร...ทำไมถึงรวย!? ** เมียบิ๊กโจ๊กฉาว!! โดนแจ้งความคดีลักทรัพย์

ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ รู้แล้วจะถึงบางอ้อ! "ทนายตั้ม" ทำอะไร...ทำไมถึงรวย!?

มีคำกล่าวถึง ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ทนายคนดัง ที่กำลังได้รับ "แสง" ลงเต็มที่ จากการออกมาโหนกระแสร่วมด้วยช่วยแฉ "ดิไอคอน" แชร์ลูกโซ่ ว่า ..พุทโธ่ "แฉแต่เรื่องคนอื่น ไม่แฉเรื่องตัวเองบ้าง"

เพราะว่า เรื่องราวของ ทนายตั้มโดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ติดหรู ดูแพง แต่งตัวด้วยแบรนด์เนม ทัวร์ต่างประเทศ กินหรูอยู่อย่างราชา ราวกับฝรั่งเศส-สวิส อยู่แค่ปากซอย

อีกทั้งบ้านพักอาศัยหลังใหญ่ ที่น่าจะเรียกว่าเป็น"คฤหาสถ์" ได้สบาย ที่แว่วว่า เจ้าตัวควักเงินสดๆ รวมตกแต่งก็ร่วม100 ล้าน!
เหล่านี้ทำให้คนสงสัยว่า อาชีพทนายร่ำรวยขนาดนี้เชียวหรือ !?

เจ้าตัวไปออกรายการ "โหนกระแส" ของ "หนุ่ม-กรรชัย" กรรชัย กำเนิดพลอย ล่าสุดก็ถูกหนุ่ม-กรรชัย ตั้งคำถามแทนสังคมว่า รวยมาจากไหน!? เป็นทนายสายโจร หรือทนายสีเทา หรือไม่!?

ก่อนที่จะฟังคำตอบของ “ทนายตั้ม” ขอตัดภาพสลับไปยังข้อมูลๆหนึ่ง ที่รู้แล้วจะถึงบางอ้อ! อาจไม่ต้องรอคำตอบจากทนายคนดังก็ว่าได้

และอาจจะรู้ถึงเบื้องหลังว่าทำไม "โหนกระแส" เชิญ “ทนายตั้ม” และ หนุ่ม-กรรชัย ถึงโยนคำถามเรื่องความรวยของอีกฝ่ายให้ตอบ

เพราะเรื่อง "บังเอิญ" ไม่มีอยู่จริง มีแต่สัจธรรมที่ว่า "ความลับไม่มีในโลก"

เรื่องมีอยู่ว่า ณ. บัดนาว ก่อนที่ทนายคนดีศรีสังคม จะไปออกโหนกระแส น่าจะรู้ตัวแล้วว่า ถูกอดีตลูกความแจ้งความไว้ที่ปากช่อง ในข้อกล่าวหา "ฉ้อโกง"

อดีตลูกความคนนี้เป็นคนที่ "ทนายตั้ม" ใช้อ้างอิงถึงที่มาความร่ำรวยเมื่อครั้งที่ถูก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" แฉกลับ

เธออาศัยอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เคยว่าจ้าง บริษัทษิทรา ลอว์เฟิร์ม ของทนายตั้ม เป็นที่ปรึกษากฎหมายและดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจในไทย

“ทนายตั้ม” ได้รับค่าจ้างเดือนละสามแสนบาท แต่สิ่งที่ได้มากกว่าค่าจ้างคือ ชีวิต "ลักชัวรี่" ทั้งกระเป๋าหลุยส์ และ ข้าวของเครื่องใช้ แบรนด์เนม ค่าทริปท่องเที่ยว บินบิสิเนสคลาส ว่ากันด้วยตัวเลข 7 หลักในแต่ละครั้งที่ทนายดังร้องขอ อยากไปเที่ยว

ทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยความไว้วางใจและเชื่อใจของนักธุรกิจสาว ก่อนที่ฟางเส้นสุดท้าย ความสัมพันธ์จะสะบั้นลงด้วยการแจ้งข้อกล่าวหา "ฉ้อโกง"

เพราะตัว "ทนายตั้ม" มีพฤติการณ์ชักชวนให้ลงทุนแล้ว "ชักดาบ" งาบเอาเงิน 2 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 71 ล้านบาทไปแบบ "ตีมึน"

คำให้การของทนายผู้รับมอบอำนาจจากนักธุรกิจสาว แจ้งข้อกล่าวหา “ทนายตั้ม” ว่า เสนอโปรเจกต์ให้นักธุรกิจสาวลงทุนในแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ โดยบอกว่า ค่าจ้างเขียนโปรแกรม และระบบต่างๆ รวมทั้งสิ้น 71 ล้าน

ทนายคนดังอ้างว่า รู้จักบริษัทที่จ้างออกแบบ และเขียนโปรแกรมจะเป็นคนกลางดำเนินการให้ ทั้งเอกสารสัญญา และการทำตามสัญญา

เมื่อถึงเวลาชำระเงินค่าซื้อ เงินจำนวน 2 ล้านยูโร ถูกโอนจากฝรั่งเศสมาไทย “ทนายตั้ม”ลงทุนเปิดบัญชีที่แบงก์สาขาปากช่อง รอรับการโอนอย่างไว

ฟังว่า "โป๊ะแตก" หลังเงินเข้าบัญชี เรื่องที่บอกว่าจะทำตามสัญญาทั้งสองฝ่ายผู้ซื้อ และผู้ขาย แพลตฟอร์ม ซึ่งก็เป็นลูกความทนายตั้มด้วย ทวงถาม

ผู้ลงทุนก็ตามความคืบหน้า ผู้ขายก็ตามเงินค่าแพลตฟอร์ม ปรากฏทนายคนดัง หายแซบหายสอย!?

กระทั่งเวลาผ่านไปนานตามกำหนดส่งมอบ คนซื้อไม่ได้แพลตฟอร์ม คนขายก็ไม่ได้ตังค์ เพราะทนายกินรวบไว้เอง
มารู้ตอนหลังว่า ผู้ขายตั้งราคาจริงๆ 20 ล้าน “ทนายตั้ม” เอาไปบวกๆ บอกนักธุรกิจสาวว่า 71ล้าน

งานนี้ดูเจตนาแล้ว นักธุรกิจสาวเชื่อว่าโดนหลอกแล้ว จึงให้ทนายยื่นโนติส ขอเงินคืนจากนายษิทรา

แต่ “ทนายตั้ม” โชว์สเตป เลื้อยหนี ไม่ยอมคืนจนบัดนี้

กระทั่งเป็นที่มาของการแจ้งความร้องทุกข์ของนักธุรกิจสาวดังกล่าว

ตัดภาพกลับมาที่รายการโหนกระแส หลังจาก “หนุ่ม-กรรชัย” ถาม “ทนายตั้ม” ว่า รวยมาจากไหน

“ษิทรา” ตอบว่า แต่ละปี บริษัทของตัวเองมีรายได้ประมาณ 20 ล้านบาท แต่ก็มีรายได้ที่ "ได้มาโดยเสน่หา" จากลูกความ ที่เป็นมหาเศรษฐี ซึ่งอยู่ต่างประเทศว่าจ้างเป็นที่ปรึกษา จากเดือนละ 300,000 บาท ต่อมาภายหลังเปลี่ยนเป็น "ให้ทุน" 2 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 70 ล้านฟรีๆ

คำตอบดังกล่าวถึงกับทำให้ “หนุ่ม-กรรชัย” แสดงท่าทางตกใจ และถามย้ำว่า เป็นไปได้หรือ จะมีคนใจดีให้เงินทนายตั้ม จำนวนมากเช่นนั้น ซึ่งทนายคนดังยืนยันว่า ได้เงินมาจริง

นี่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่ดรามา ผู้เสียหายแจ้งความทนายดัง เป็นที่มาของ "รวยฟ้าผ่า" ที่เป็นประเด็นคำถามถึง “ทนายตั้ม” และคงต้องพิสูจน์ด้วยข้อเท็จจริง และหลักฐานตามกระบวนการของกฎหมาย

เรื่องราวของ “ทนายตั้ม” ยังมีอีกมาก โดยเฉพาะบท-ตอน ที่เกี่ยวข้องกับนักธุรกิจสาวรายนี้

ค่อยๆ ขุดกันทีละเรื่อง เมื่อรู้แล้วจะถึงบางอ้อ! "ทนายตั้ม" ทำอะไร...ทำไมถึงรวย!


++ เมียบิ๊กโจ๊กฉาว!! โดนแจ้งความคดีลักทรัพย์

หลังเงียบหายจากหน้าสื่อไปพักใหญ่ ตอนนี้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กลับมาพร้อมกับเรื่องฉาวอีกแล้ว
คราวนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง หรือลูกน้องคนสนิท แต่เป็นเรื่องของ “มาดามกุ๊บ” ดร.ศิรินัดดา หักพาล ภรรยาสุดที่รัก ที่ถูกแฉว่าไปก่อคดีอาชญากรรม ขโมยทรัพย์สิน

คู่กรณี หรือผู้เสียหายคือ “น.ส.ธนัฏฐา ยอดเยี่ยม” อายุ 50 ปี อาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน

“น.ส.ธนัฏฐา” ได้เข้าแจ้งความ ที่สน.พระโขนง เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา กล่าวหา “มาดามกุ๊บ” ลักทรัพย์ เป็นทองคำรูปพรรณ หนัก 120 บาท มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท ไปจากห้องพักเลขที่ 8/125 ชั้น 7 กรีนคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 101 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ต.ค.67

ก่อนแจ้งความ “น.ส.ธนัฏฐา” พยายามทวงถามเพื่อขอคืนทรัพย์สิน จะได้เลิกแล้วกันไป แต่คู่กรณีไม่ยอมคืน ไม่ยอมพูดคุย แถมตัดการติดต่อทุกช่องทาง

เมื่อมีการสอบถามไปทาง “บิ๊กโจ๊ก” หวังว่าจะให้ช่วยเคลียร์ให้ แต่ก็ถูกบอกปัดว่าเป็นเรื่องของเมีย ตัวเองไม่รับรู้ด้วย

“น.ส.ธนัฏฐา”เลยตัดสินใจ เข้าแจ้งความ ให้ตำรวจดำเนินคดีอาญา เรื่องก็เลยถูกเปิดเผยออกมา

หลังได้รับแจ้งความ ทางตำรวจนครบาลก็ส่งทีมเข้าไปตรวจค้นห้องอย่างละเอียด เมื่อวันที่ 23 ต.ค. เพื่อหาหลักฐานการกระทำผิดคดีลักทรัพย์ ดังกล่าว

ไม่ว่าเรื่องนี้จะมีข้อเท็จจริง เบื้องลึก เบื้องหลังอย่างไร แต่ก็ทำเอา “บิ๊กโจ๊ก กับ มาดามกุ๊บ” แทบไม่อยากเจอหน้าใคร ในตอนนี้ ...
ต่อมา “น.ส.ธนัฏฐา” ยังไปออกรายการทีวี รายการหนึ่ง เล่าเรื่องคับแค้นใจ ว่ามี “เมียบิ๊กตำรวจ” คนหนึ่ง ได้ใช้ห้องพักของเธอ ปฏิบัติการฉกสามีของเธอ มีคลิปจากกล้องวงจรปิด เป็นหลักฐานว่าทั้งสองได้ปฏิบัติการอะไรกันบ้าง

“น.ส.ธนัฏฐา” เล่าว่า สามีของเธอ เป็นตำรวจ ยศ พ.ต.ท. รับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เช่นกัน
การพัวพันฉันชู้สาวของทั้งคู่ มาจากการที่สามีของเธอ กับภรรยาบิ๊กตำรวจ เคยเป็นแฟนเก่ากันมาก่อน พบรักกันตอนที่ทั้งสองไปเรียน ทำปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น ย่านรังสิต

คบกันมานานจนเกือบจะได้แต่งงานกันอยู่แล้ว แต่ก็มี “บิ๊กตำรวจ” เป็นมือที่สาม เข้ามาแทรก แล้วฝ่ายหญิงก็เลือกที่จะร่วมหอลงโรงกับ บิ๊กตำรวจ

นายตำรวจยศ พ.ต.ท. เลยถูกลดสถานะเป็นแค่เพื่อน ที่ยังติดต่อพูดคุยกันได้ แล้วนายตำรวจคนดังกล่าว ก็ได้มาอยู่กินฉันสามีภรรยากับเธอ

แต่สุดท้ายถ่านไฟเก่าก็คุขึ้นมาจนได้ จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ บัดสีบัดเถลิง!!

สถานที่นัดพบ และถูกใช้เป็นรังรักชั่วคราว คือที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 101 ซึ่งก็คือห้องพักของเธอเอง แถมยังฉกคีย์การ์ดไป ทำให้เข้า ออก คอนโดฯ ได้ตลอดเวลา

เมื่อ “น.ส.ธนัฏฐา” ระแคะระคาย ถึงความสัมพันธ์อันไม่ปกติ ของสามีตนเอง กับเมียบิ๊กตำรวจ จึงซุกกล้องไว้ในห้องพัก เพื่อหาหลักฐานยืนยัน แล้วสิ่งที่คิดไว้ก็ได้เจอจริงๆ