xs
xsm
sm
md
lg

“แก้วสรร” ชี้เปรี้ยง กกต.ยื่นยุบเพื่อไทยได้เลย พยานหลักฐาน-พฤติการณ์ชัดเจน “ทักษิณ” คือผู้ครอบครองพรรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แก้วสรร” ชี้ กกต.ฟ้องยุบเพื่อไทยได้เลย พยานหลักฐาน-พฤติการณ์ประกอบกันเชื่อได้แล้วว่า “ทักษิณ” คือ ผู้ครอบครองพรรค ทั้งตั้งลูกสาวเป็นหัวหน้า โดยไม่มีที่มาที่ไปทางคุณสมบัติ โผล่ชี้แจงนโยบายพรรคต่อคนทั้งประเทศ มีบทบาทคัดคนลงสมัคร นายก อบจ.หรือ สส. หรือแม้กระทั่งเรียกทุกพรรคมาประชุมตกลงตั้งรัฐบาล

วันนี้ (23 ต.ค.) นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขียนบทความเผยแพร่เรื่อง “ยุบพรรคเพื่อไทย??? : ความชอบธรรมและความเป็นไปได้ทางกฎหมาย” ในลักษณะถาม-ตอบ มีเนื้อหาโดยละเอียดดังนี้

ถาม : ทำไมจะไปยุบพรรคเพื่อไทยโดยอ้างว่าถูกทักษิณครอบงำ ก็เขาเป็นคนตั้งพรรครวมผู้คนมาตั้งแต่แรก แล้วใจคอจะไม่ให้ฟังกันบ้างเลยหรืออย่างไร
ตอบ : ทักษิณถูกจำคุกตามคำพิพากษาคดีคอร์รัปชัน สิ้นสิทธิทางการเมืองเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เขาจะพูดจะแนะนำอะไร คณะกรรมการพรรคก็ยังรับฟังได้กฎหมายไม่ห้าม แต่ต้องไม่ถึงขั้นถูกครอบงำถึงขนาดขาดอิสระ ทักษิณชี้นกเป็นไม้ ก็ยอมหมด อย่างนี้กฎหมายรับไม่ได้

ถาม : แล้วมันผิดที่ตรงไหน ที่ไปฟังทักษิณ
ตอบ : พรรคการเมืองมีตัวตนอยู่ที่ “ความคิด” ประชาธิปไตยเสนอกันที่ความคิด เมื่อความคิดใครชนะคนนั้นต้องเป็นคนทำ รัฐธรรมนูญไทยเอาจริงถึงขั้นบังคับให้ สส.ต้องสังกัดพรรค และพรรคต้องเสนอชื่อนายกฯไว้ล่วงหน้าเลย
เมื่อพรรคคือ “ความคิด” พรรคจึงต้องคิดเองตัดสินใจเอง จะเป็นแค่หุ่นเชิดของคนนอกพรรคไม่ได้ ถ้ายอมให้เชิดกันอย่างนี้ได้ ประชาธิปไตยในพรรคก็พลอยจะสิ้นความหมายไปด้วย

ถาม : กกต.ต้องพิสูจน์อะไรให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นบ้าง ว่าพรรคเพื่อไทยถูกทักษิณครอบงำ
ตอบ : อะไรที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการพรรค ถ้าพิสูจน์ว่าทักษิณสั่งได้ ก็โดนหมดล่ะครับ ทั้งการกำหนดนโยบายทางการเมือง, การตั้งคณะกรรมการบริหาร, การคัดเลือกส่งคนลงสมัคร สส., การเข้าร่วมรัฐบาล, การเลือกผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี, การเสนอร่างกฎหมาย เหล่านี้ล้วนเกิดเป็นเรื่องกล่าวหาได้ทั้งนั้น

ถาม : แล้วชัดเจนถึงขนาดไหนล่ะครับ ถึงจะฟังได้ว่าเป็นการ “ครอบงำ” ผมเห็นคนพรรคเพื่อไทยเขาท้าทายว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนไหมว่า เมื่อวันนั้นวันนี้ ทักษิณสั่งนายโน้นนายนี้ใหทำอย่างนั้นอย่างนี้
ตอบ : นี่ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีคุ้มครองประชาธิปไตยในบ้านเมือง ถ้าพรรคใดยอมตนเป็นหุ่นให้อิทธิพลทุจริต เราก็ต้องยุบพรรคนั้น ถ้าพยานหลักฐานมันแวดล้อมให้เชื่อได้เช่นนั้น ทั้งตั้งลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคโดยไม่มีที่มาที่ไปทางคุณสมบัติ ทั้งเรื่องที่ทักษิณโผล่หน้ามาชี้แจงนโยบายพรรคต่อคนทั้งประเทศ ทั้งเรื่องมีบทบาทคัดคนลงสมัคร นายก อบจ.หรือ สส.สั่งเปลี่ยนโผให้เป็นโน้นคนนี้ หรือแม้กระทั่งเรียกทุกพรรคมาประชุมจันทร์ส่องหล้า แล้วตกลงตั้งรัฐบาลในสูตรเดิม ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คุณว่ามันพอหรือไม่ ที่จะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ใต้บงการของคนชื่อทักษิณ

ถาม : ถ้ามองเป็นเรื่องบงการกันอย่างนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลแห่ไปพบทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วตกลงร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยต่อไปเหมือนเดิม ก็ไม่ใช่เรื่องต้องถูกยุบพรรคใช่ไหมครับ
ตอบ : ถูกต้องครับ พรรคเหล่านี้เขาแค่ไปคุยแล้วตกลงกับทักษิณว่าเราจะรักษาสูตรรัฐบาลไว้ต่อไปเท่านั้นหรือไม่ นี่เป็นเริ่องไปเจรจาตกลง ไม่ใช่เรื่องอยู่ใต้บงการทักษิณแต่อย่างใด

คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า ความผิดมันไม่ใช่อยู่ที่เห็นตรงกับทักษิณ หรือไปคุยกับทักษิณ แต่มันอยู่ตรงที่ความสัมพันธ์ทางอำนาจว่ามีพรรคไหนไปอยู่ใต้บงการเขาหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดนอกจากเพื่อไทยเท่านั้น ที่มีปัญหาว่าไปเป็นขี้ข้าเขาแบบนั้นหรือไม่

ถาม : แล้ว กกต.ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทยเลยได้ไหมครับ ข้างพรรคเพื่อไทยจะเถียงอะไรก็ให้ไปว่ากันในศาล
ตอบ : งานนี้เป็นเรื่องชี้ขาดกันด้วยพยานแวดล้อม ถ้าพยานหลักฐานแต่ละเรื่องมันล้อมเข้ามาจนชัดเจน และรู้กันทั่วไป เพียงเท่านี้ กกต.ก็ฟ้องได้แล้วครับว่า แต่ละพฤติการณ์ประกอบกันเข้ามาให้เชื่อได้แล้วว่า ทักษิณคือผู้ครอบครองพรรคเพื่อไทย

ถาม : เห็นรองนายกฯ ภูมิธรรม เขาบอกว่า ไม่น่ามาร้องเรียนอะไรกันเลย รัฐบาลลุยจนเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นอยู่แล้ว
ตอบ : ฟื้นจริงไหม? ฟื้นเพื่อใคร? มีใครที่ครอบงำพรรคแล้วรอเสวยประโยชน์อยู่โดยทุจริตหรือไม่ ทั้งเรื่องสัมปทานบ่อน และ เจรจาพื้นที่ทับซ้อนกับเขมร?
ตรงนี้เป็นปัญหาความสะอาด ความเลว ความชั่ว ในระบบรัฐบาล ที่ต้องเคลียร์ให้ได้ชัดเจนจริงๆ
เศรษฐกิจมันฟื้นจากพื้นฐานที่สกปรกไม่ได้ รู้จักมียางอายกันบ้างเถิดครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น