“สามารถ” เคลื่อนไหวแล้ว โพสต์เฟซบุ๊ก ยกประกาศ คปค.เหตุดักฟังโทรศัพท์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ขู่แจ้งความ “เด็กซื้อน้ำ” พ่วง สื่อมวลชน ด้าน “ทนายตั้ม” แซะ “จำเสียงตัวเองได้แล้วเหรอสามารถ”
วันนี้ (21 ต.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เคลื่อนไหวหลังจากตกเป็นบุคคลที่ถูกกล่างอ้างว่า เป็นเจ้าของคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยเจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
“วันพฤหัส ผมจะแจ้งความ เด็กซื้อน้ำ ข้อหาลักลอบดักฟัง ใช้ประโยชน์ เปิดเผย จำคุก 5 ปี สื่อไหน เผยแพร่ ก็รับโทษ...” และผู้ใดรับรู้ข้อความจากการกระทำผิดตามข้อ 1 ใช้ประโยชน์เผยแพร่ ก็รับโทษจำคุก 5 ปี
โดย นายสามารถ ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด บัญญัติว่า
“โดยที่ในระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการลักลอบดักฟัง ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการละเมิดเสรีภาพของบุคคลในการสื่อสารถึงกัน ก่อให้เกิดความหวาดระแวงกันทั่วไปในหมู่ประชาชนผู้ใช้เครื่องมือสื่อสาร ดังนั้น เพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยชอบด้วยกฎหมายและเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและรักษาความสงบของประเทศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีประกาศดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ผู้ใดดักฟัง ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผย ซึ่งข้อความที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อ 2 ผู้ใดรับรู้ข้อความที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามข้อ 1 ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผย ข้อความนั้นต่อผู้อื่น โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อ 3 ผู้ใดใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดตามข้อ 1 หรือข้อ 2 ต้องรับโทษเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตามที่บัญญัติไว้ในความผิดตามข้อ 1 หรือข้อ 2 แล้วแต่กรณี
ข้อ 4 ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้บริการโทรศัพท์หรือการสื่อสาร หรือเป็น ผู้ได้รับสัมปทานการให้บริการดังกล่าว นอกจากต้องรับโทษตามข้อ 1 ข้อ 2 หรือ ข้อ 3 แล้วแต่กรณีแล้วให้ใบอนุญาตหรือสัมปทานนั้น สิ้นสุดลงด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2549
พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จากนั้น นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวว่า “จำเสียงตัวเองได้แล้วเหรอสามารถ”