“ทนายเชาว์” ไม่ขอทน ไม่หวั่นทัวร์ลง ออกโรงติง “ทนาย-พิธีกรดัง” เล่นงาน “ว.วชิรเมธี” เมาท์สนุกปาก ละเมิดสิทธิหรือไม่ เตือนกล่าวหาเกินเลย ระวังเข้าข่ายใช้สิทธิไม่สุจริต ดึงสติสังคม มองหลายด้าน ห่วงใช้คลื่นอารมณ์นำ ทำความยุติธรรมเสียหาย
วันนี้ (21 ต.ค.) นายเชาว์ มีขวด ทนายความ โพสต์ข้อความเรื่อง มองมุมกลับ ปม “ว.วชิรเมธี” ทนาย-พิธีกรดัง เมาท์สนุกปาก “ละเมิดสิทธิ” หรือไม่ ว่า หลังเป็นกระแสวิวาทะระหว่างพีธีกร นายกรรชัย กำเนิดพลอย และทนายความ กับ พระ ว.วชิรเมธี กรณีไปเทศนาที่บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป แล้วมีไปอวยเจ้าภาพ ว่า “หนูอยากรวยเลยพรุ่งนี้ อาจารย์บอกลูกเอ๋ย ถ้าอย่างนั้นก็ดิไอคอนเเล้ว” ต่อมา เมื่อเกิดคดีกับดิไอคอน มีการขุดคุ้ยเอาคลิปดังกล่าว วิพากษ์วิจารณ์ เป็นประเด็นดรามากันในสื่อโซเชียลและโดยเฉพาะ ในรายการโหนกระแสของนายกรรชัย และทำท่าจะบานปลาย เมื่อ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้มอบมอบหมายให้ น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง นำหลักฐานเป็นคลิปที่พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ไปเทศน์ที่บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัดมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพระเมธีวชิโรดม หรือ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ในข้อหาสนับสนุนให้เกิดการฉ้อโกงประชาชน และหลังจากนี้ จะยื่น ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย ผมไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกับพระ ว.วชิรเมธี เป็นการส่วนตัว เพียงแต่ติดตามผลงานท่านในฐานะที่ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียง ในตอนแรกผมตั้งใจว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ในท่ามกลางความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอาจทำให้ผู้เสียหายที่ถูกกระทำฉ้อโกงจาก ดิไอคอน กรุ๊ป ขุ่นขัองหมองใจ แต่ในฐานะทนายความผู้เป็นนักกฎหมายสาขาหนึ่ง ไม่พึงนิ่งเฉยต่อการแสดงความคิดเห็น หากสิ่งใดที่ดำเนินอยู่ในสังคมทุกวันนี้ เป็นไปโดยไม่ถูกต้องด้วยความยุติธรรม
นายเชาว์ มองว่า พฤติการณ์และถ้อยคำเทศนาที่พระ ว.วชิรเมธี ได้แสดงธรรมเทศนาให้สมาชิกและพนักงาน ดิไอคอนกรุ๊ป ฟัง ไม่ได้เป็นอะไรที่ผิดกฎหมาย เพราะในวันเวลาขณะที่เทศนา ยังไม่มีใครทราบเลยว่าดิ ไอคอน มีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชนอย่างไร การอวยเจ้าภาพ เป็นวิสัยของพระเทศน์โดยทั่วไป ที่ต้องพูดถึงเจ้าภาพบ้างเป็นเรื่องปกติ จึงต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก การไปหยิบเอาข้อความประโยคเดียวแล้วใส่สีตีไข่ว่าเป็นการพูดชักจูงให้คนหลงเชื่อ เป็นการสนับสนุนให้ดิไอคอนฉ้อโกงประชาชน จึงไม่ยุติธรรมกับพระ ว.วชิรเมธี โดยเฉพาะคนที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นพิธีกร และทนายความดังระดับประเทศ ซึ่งต้องมีสามัญสำนึกในการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะให้สูงกว่าบุคคลทั่วไป ไม่ใช่ นึกจะพูดอะไรก็พูดอย่างสนุกปาก เอามันเข้าว่าโดยไม่สนใจว่า จะละเมิดสิทธิเสรีภาพบุคคลอื่นหรือไม่ ยิ่งการไปแจ้งความดำเนินคดีกับพระ ว.วชิรเมธี ในข้อหาสนับสนุนให้เกิดการฉ้อโกงประชาชน ยิ่งทำให้มองได้ว่า เป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริต มีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นถือเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย อาจมีความผิดต้องรับโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา งานนี้ผมมองว่าถ้าพระ ว. จะใช้สิทธิปกป้อง ตนเองจากการถูกละเมิด คนที่จะถูกดำเนินคดีอาจจะเป็นพิธีกรและทนายความก็เป็นได้
“ผมเชื่อว่า โพสต์แบบนี้อาจมีทัวร์มาลง แต่อยากให้มองมุมกลับด้านบ้าง ไม่ใช่ไหลไปตามกระแสที่มีการชี้นำอย่างเป็นระบบ แบ่งหน้าที่กันทำเป็นทีม ทั้งปล่อยข้อมูล เคลื่อนไหวแจ้งความ โพสต์ตอกย้ำ ให้ความเห็นแบบตีไม่ยั้ง ในมุมของผมคิดว่า สถานการณ์ที่ใช้คลื่นอารมณ์เป็นตัวนำ จะทำให้ความยุติธรรมถูกบิดเบือนไป ใครที่เรียกร้องความยุติธรรม ต้องพึงให้ความยุติธรรมกับคนอื่นด้วย” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย