“กัณวีร์” ขอกระซิบดังๆ ถึง “นายกฯ อิ๊งค์” โอกาสสุดท้ายแล้ว ถ้าอยากแสดงความจริงใจคดีตากใบ ถ้าเอาตัวผู้ต้องหามาขึ้นศาลไม่ได้ ให้ต่ออายุความ เสนอ ครม. 22 ต.ค.นี้
วันที่ 21 ต.ค. 67 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าคดีตากใบ ซึ่งมีจำเลย 7 คนถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าผู้อื่น ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และกักขังหน่วงเหนี่ยว รวม 85 คน และอีก 8 คน ถูกกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่น รวม 78 คน ซึ่งเหลือเวลาแค่ 4 วัน คดีจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค. 67
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ฟังทั้งโพลว่าจะตามจับได้หรือไม่ได้ เหมือนมานั่งฟังนักพยากรณ์ว่า ยังไงก็ตามจับไม่ได้หรอก เพราะผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว ขณะที่นักกฎหมาย นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ภาคประชาขน และนักการเมือง ต่างคาดการณ์ไปทางเดียวกันหมดว่า หมดสิทธิ์จะนำจำเลยทั้งหมด โดยเฉพาะเบอร์ใหญ่ๆ มายืนอกผายไหล่ผึ่งต่อหน้าศาล แล้วว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม
“คณาจารย์ทางกฎหมายได้ชี้ช่องบอกชัดว่า มีโอกาสทำได้นะ คือ การแก้ไขมาตรา 172 เรื่องอายุความ ที่เป็นประโยชน์เพื่อรักษาความปลอดภัยของประเทศ ซึ่งก็ต้องพิจารณาว่าปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าเกณฑ์หรือไม่”
นายกัณวีร์ กล่าวว่า หากจะเอามาตรา 172 มาแก้ไขอายุความคดีอาญากันจริง จะเหลือเวลาแค่ 1 วันครึ่ง คือ วันที่ 22 ต.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันประชุม ครม. ที่ ครม. ต้องเคาะว่าจะเอาไม่เอา และที่สำคัญที่สุด ใครจะกล้าเสนอ จะมีผู้หาญกล้าของ ครม. ชุดนี้กล้าพอที่จะเสนอเรื่องการต่ออายุความ กล้าพอมั้ยที่จะแสดงความเป็นผู้นำในการบอกทุกคนบนโลกใบนี้ และโดยเฉพาะคนในพื้นที่ว่า รัฐบาลชุดนี้จะนำมาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
“ขอพูดอีกครั้งนะครับ หากผมเป็นนายกฯ นะ ผมจะทุบโต๊ะเปรี้ยงทันทีว่า เอาการต่ออายุความตามมาตรา 172 มาดูเดี๋ยวนี้ค่ะ สันติภาพที่ยั่งยืนในพื้นที่ จชต. จะต้องเกิดในรัฐบาลชุดนี้ค่ะ”
นายกัณวีร์ ระบุว่า หากนายกฯ ทำอย่างนี้และพูดอย่างนี้ในวันอังคารที่ 22 ต.ค. นี้อะไรจะเกิดขึ้น จึงอยากกระซิบผ่านไปถึงนายกฯ เผื่อจะได้ยินแล้วกล้าทำ กระแสนิยมจะกระเพื่อม ประชาชนจะเห็นความตั้งใจ คนจะเริ่มมองว่าท่านคือความหวังของคนในพื้นที่
“แต่ผมทราบครับ ท่านคงได้ยินแค่ว่า ให้ สส.พรรคเพื่อไทยท่านนั้นลาออกก็คงหมดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง เดี๋ยวทางกฎหมายค่อยว่าตามกระบวนการ เชื่อผมครับท่าน มันไม่หมดตามที่ท่านได้รับคำแนะนำ มันไม่หมดตามที่คนแนะนำวิเคราะห์ไว้ เพราะมันไม่ใช่การแก้ไขปัญหาของพรรคการเมือง มันเป็นการพัฒนากระบวนการสร้างสันติภาพ ที่เรียกร้องความเป็นผู้นำ”
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า การกล้าตัดสินใจที่เฉียบขาด การพิจารณาองค์ประกอบองค์รวมที่อยู่นอกเหนือตำราภายในประเทศด้านความมั่นคงที่ไทยใช้มามากกว่า 20 ปี และที่สำคัญที่สุด คือ ความกล้าหาญในการไปยืนระดับเดียวกับพี่น้องประชาชนแล้วฟังว่าปัญหา ความต้องการและทิศทางที่พวกเขาต้องการ “คืออะไร” มากกว่า ทิศทางของพวกที่ให้คำปรึกษาท่านนายกฯแนะนำคืออะไร ซึ่งเวลานายกฯเหลือน้อยมาก แต่ตัดสินใจให้ดีฟังทั้งหัวใจของผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่มีปัญหามามากหลายทศวรรษ และหัวใจนายกฯเองที่อยากเป็นผู้นำของประเทศนี้ แล้วนายกฯจะทราบว่าต้องทำอย่างไร
“เอาตัวผู้ต้องหากลับมาขึ้นศาลให้ทันก่อนเที่ยงคืนวันที่ 25 ต.ค.ทำได้ไหมครับ ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ ก็กล้าต่ออายุความคดีตากใบไหม โอกาสสุดท้ายแล้วจริงๆ ครับ” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ