xs
xsm
sm
md
lg

สสส.ถอดบทเรียนความสำเร็จ “โครงการชุมชนล้อมรักษ์” บ้านน้ำร้อน ชูโมเดล เทคนิคเลิกยา แค่ปรับความคิด พิชิตใจตัวเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(21 ต.ค.) ที่อุทยานบ่อน้ำร้อน หมู่ 13 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยปลัดอาวุโสอำเภอบางขัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังหิน สาธารณสุขอำเภอบางขัน ผู้นำชุมชน อสม. ลงพื้นที่ถอดสูตรสำเร็จ ‘โครงการชุมชนล้อมรักษ์ (CBTx) ชุมชนบ้านน้ำร้อน’ เป็นแกนหลักในการบำบัดผู้ใช้สารเสพติดโดยการเสริมสร้างความรู้ เทคนิคการเลิกยาเสพติด โดยการปรับ กระบวนการทางความคิด ทัศนคติ มองโลกในแง่มุมที่ควรจะเป็นควบคู่กิจกรรมบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้สารเสพติด โดยศาสตร์แพทย์แผนไทย พร้อมติดตามผลการบำบัดผู้ใช้สารเสพติด พบร้อยละ 90 ผู้บำบัดสัญญาใจจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. สนับสนุนการดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนสานเสริมพลัง กลไก พชอ. และเครือข่ายชุมชนเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยชุมชนเป็นฐาน โดยความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ในการพัฒนาศักยภาพให้ พชอ. คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ ซึ่งเป็นกลไกบูรณาการระบบสุขภาพในระดับพื้นที่/อำเภอ ให้สามารถนำภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันพัฒนาโครงการ พัฒนาคุณภาพชีวิตในประเด็นปัญหาสำคัญของประชาชนในพื้นที่ สนับสนุนศักยภาพ พชอ. ในการพัฒนารูปแบบและวิเคราะห์การแก้ปัญหาสุขภาวะที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ประสานกลไกความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ หน่วยงานรัฐ กับพลังขับเคลื่อนของภาคประชาสังคม ในการแก้ไขปัญหาสุขภาวะในระดับอำเภอ เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างสุขภาพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน” ตอบสนองประเด็นความต้องการของประชาชน

“การทำงานด้วยกลไก พชอ. ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านการบำบัดดูแล ผู้ป่วยผู้ติดยาเสพติด ในชุมชนโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน จะอาศัยกระบวนการที่จะเชิญชวนให้กับ พชอ. ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ทำสิ่งดี ๆ โดยที่ผ่านมาชุมชนล้อมรักษ์ CBTx อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินงานเพื่อมุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนตามแนวทาง Community Based Treatment and Rehabilitation (CBTX) โดยการใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือผู้เสพยาเสพติดให้ได้รับการดูแลอย่างไม่เลือกปฏิบัติ มุ่งเน้นการฟื้นฟู ลดผลกระทบต่อสุขภาพชุมชนและสังคม” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
นายบุญลือ สวัสดิพันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การยกระดับชุมชนให้เป็นฐานในการดูแลผู้ป่วยยาเสพติดที่สามารถเข้าใจและผลักดันให้ผู้บำบัดกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ดี จากการลงพื้นที่ติดตามการบำบัดต่อเนื่อง ของผู้เข้ารับการบำบัดในพื้นที่ ต.วังหิน ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่าผู้บำบัดกล้าเปิดเผยข้อมูลการใช้สารเสพติดทำให้สามารถขับเคลื่อนกระบวนการบำบัดได้อย่างดี และทำให้ผู้บำบัดมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกคนในชุมชนทอดทิ้ง การยอมรับความจริงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อรู้ที่มาว่าปัญหาจนนำไปสู่การหาทางออกแก้ร่วมกัน ที่สำคัญคนในครอบครัวที่อยู่ใกล้ชิดผู้บำบัดต้องเป็นกำลังหลักในการเสริมพลังใจ เราจึงจะชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน

“สิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวบุคคลถ้ามีจิตใจเข้มแข็งก็สามารถเลิกได้ การได้แลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องยาเสพติดโดยเปิดเผยในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องที่ดีถ้ามันจะนำไปสู่การแก้ไข ผมคลุกคลีกับการแก้ปัญหายาเสพติดมานานเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ชุมชนล้อมรักษ์ สามารถช่วยลดจำนวนผู้เสพให้น้อยลง ลดการเกิดปัญหาอาชญากรรม เพิ่มพื้นที่ปลอดภัยให้ชุมชน คนในชุมชนมีความสุข เราอย่ารังเกียจคนติดยา” นายบุญลือ กล่าว

​นายชัยณรงค์ ทรงทอง สาธารณสุขอำเภอบางขัน จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า คนในชุมชนยกมือเห็นด้วยภายหลังทำประชาคม โครงการชุมชนล้อมรักษ์ เพราะมองเห็นว่าจะทำให้ชุมชนปลอดภัย จึงเริ่มกระบวนการบำบัดโดย 2 วิธีคือ เทคนิคการเลิกยาเสพติด โดยจะมีทีมคณะพยาบาล มหาวิทยาลัยทักษิณ ร่วมบำบัดผู้ใช้สารเสพติดโดยปรับพฤติกรรมและเข้าใจเป้าหมายของชีวิต และยอมรับสิ่งที่ผิดพลาดเพื่อก้าวไปสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม และการใช้ศาสตร์แพทย์แผนไทย โดยทีม รพ.สต.บ้านสี่แยกสวนป่า บำบัดฟื้นฟู ทั้งการแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนช่วยผ่อนคลาย ขับสารพิษออกจากร่างกายของผู้บำบัด การอบไอน้ำสมุนไพรเพื่อเปิดรูขุมขนช่วยระบายสารพิษออกมาทางต่อมเหงื่อ และการใช้สมุนไพรรักษาปอดช่วยให้เพื่อบำบัดให้รู้สึกว่าสดชื่น เลือดสูบฉีดทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพช่วงการหยุดใช้ยา ขณะนี้มีผู้เข้ารับการบำบัดจำนวน 25 คน มีผู้ที่สมัครใจจริง ๆ จำนวน 4 คน

“กลไกชุมชนมีความสำคัญอย่างมาก ถือเป็นมิติใหม่ในการบำบัด ในเมื่อเขาอยากจะเลิกใช้สารเสพติด ชุมชนก็มาจับมือช่วยพวกเขาทำให้เขารู้ว่าที่ผ่านมาเขาเดินผิดทาง วันนี้มีโอกาสเลิกยาเสพติด เราสามารถคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับผู้บำบัดได้ เพราะที่ผ่านมาคนติดยามักจะถูกสังคมประณาม แต่การดึงพวกเขามาทำกิจกรรมเหล่านี้ทำให้เขามีบุคลิกภาพ สุขภาพดีขึ้น ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดจะทำให้เขากลับมาอยู่ในสังคมอย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้ง” นายชัยณรงค์ กล่าว

นายจำรูญ แซ่ตั้ง (บ่าว) อายุ 37 ปี หมู่ที่ 13 บ้านน้ำร้อน ตำบลวังหิน อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้เข้ารับการบำบัดโครงการชุมชนล้อมรักษ์ ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ดีใจในวันที่ตัดสินใจเอ่ยปากขอเข้ารับการบำบัด เหมือนชนะใจตัวเองที่กล้าบอกกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สาธารณสุขอำเภอบางขัน ว่าตนเองติดยาเสพติดและจะขอเข้ารับการบำบัดจากชุมชนล้อมรักษ์ ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน ตนเองเข้าไปอยู่ในวังวนยาเสพติดเพียงเพราะเพื่อนชักชวนให้ลอง จนทำให้ชีวิตพังมาจนถึงวันนี้ สุขภาพย่ำแย่ กระทบต่อการทำงาน ไม่มีเวลาให้ครอบครัวห่างเหินลูก 2 คนที่กำลังเป็นเด็กน้อย แต่พอไปได้เข้าสู่การฟื้นฟูบำบัดเป็นระยะเวลา 3 เดือน เลิกเด็ดขาดและไม่ยุ่งเกี่ยวใด ๆ เลย ขอบคุณโครงการชุมชนล้อมรักษ์ ที่ทำให้ตนเองมองเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนว่าหลังจากนี้จะเป็นผู้นำครอบครัวดูแลแม่ผู้ให้กำเนิด เป็นสามีที่ดีของภรรยาและเป็นพ่อที่ดีของลูก ๆ การเลิกยาเสพติดไม่ยากแต่อยู่ที่ใจล้วน ๆ วันนี้กล้าที่จะเป็นตัวเองเข้าสังคมมากขึ้น ที่สำคัญครอบครัวและคนในชุมชนคอยเสริมกำลังใจให้โดยไม่รังเกียจ

“วันที่ผมตัดสินใจบอกกับเจ้าหน้าที่ รู้ไหมครับว่าแม่ผม ภรรยา ลูก ไม่มีใครรู้ว่าผมใช้ยาเสพติดพอทุกคนรู้ก็ร้องไห้เป็นวันที่ผมเสียใจมากที่ทำให้แม่ต้องมาเจอเรื่องแย่ ๆ แบบนี้แต่วันนี้ทุกคนกลับมาให้กำลังใจผม จนทำให้ผมเข้ารับการบำบัดโดยไม่มีความกังวล ทั้งการได้พูดคุยกับทีมเจ้าหน้าที่คณะพยาบาล จากมหาวิทยาลัยทักษิณเปิดใจพูดคุยและร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยเปลี่ยนพฤติกรรมและเปลี่ยนความคิดที่กล้าจะก้าวเท้าออกมาจากวังวนยาเสพติด รวมถึงฟื้นฟูสภาพร่างกายที่เสื่อมโทรมโดยการใช้สารเสพติด ผ่านการใช้สมุนไพรพื้นบ้านบำบัดสุขภาพกลับมาดีขึ้น วันนี้ผมกล้าสบตาคนในชุมชน กล้าออกมาใช้ชีวิตมากขึ้นไม่เหมือนแต่ก่อนที่ก้มหน้าคอยระแวงว่าเขาจะคิดว่าเราเป็นคนไม่ดี ผมมีรอยยิ้มที่กว้างขึ้นได้แล้วโดยไม่ต้องใช้ยาเสพติด” นายจำรูญ กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น