มันจบแล้วครับบอส!! ...สถานีต่อไปของ "บอสพอล-กันต์-มิน-แซม" อยู่ "ห้องกรง" ยาวๆ!? ** สส.สิริน”ตัวตึง “พรรคส้ม” ผู้มีชื่อเสียงนอกสภา มากกว่าในสภา

ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ มันจบแล้วครับบอส!! ...สถานีต่อไปของ "บอสพอล-กันต์-มิน-แซม" อยู่ "ห้องกรง" ยาวๆ!?

พลันที่เฟซบุ๊กเพจ "ตำรวจสอบสวนกลาง" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "มันจบแล้วครับบอส CIB บุกจับ บอสพอล-แซม เครือข่าย ดิไอคอนฯ" พร้อมลุยจับ รวม 18 หมาย" ก็มีเสียงเข้ามาแสดงความเห็นชื่นชมการทำงานของตำรวจสอบสวนกลางล้นหลาม
จะว่าเป็นมิติใหม่ของคดีอาชญกรรมทางเศรษฐกิจก็ว่าได้ ที่มีสังคมโซเชียลเป็นแนวร่วม ส่งกำลังใจให้กับตำรวจติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิดแบบนี้

ขณะเดียวกันความ"กดดัน" ตกไปที่ผู้ต้องหาทั้ง18 ราย ที่โดนหมายจับ และถูกตามควบคุมตัว ในฐานความผิด ฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ

เริ่มตั้งแต่ "บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังพร้อมหมายจับ เข้าควบคุมตัวที่สำนักงาน สคบ.

ฟังว่า เจ้าตัวนิ่ง สีหน้าเรียบเฉย ปิดปากเงียบ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อ

ตามมาด้วยหมายจับ "บอสดารา" ทั้งหลายอย่าง "บอสแซม" ยุรนันท์ ภมรมนตรี "บอสมิน" พีชญา วัฒนามนตรี "บอสกันต์" กันต์ กันตถาวร และบอสคนอื่นๆ

เรียกว่า บรรดาบอสทั้งหลาย ถูกควบคุมตัวตาม “บอสพอล” ไปเป็นพรวน โดยชาวเน็ตตามแห่ติดตามไลฟ์สด และ เซย์กู๊ดบาย "สบายแล้วละบอส" เป็นขบวนเช่นกัน

ต้องบอกว่า คดีนี้ตำรวจทำงานอย่างรวดเร็ว นับแต่เกิดเป็นเรื่องพัฒนาเป็นกระแสที่สังคมสนใจอย่างกว้างขวางเพราะมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมี บอสดารา "พรีเซ็นเตอร์" ที่เป็นดาราดัง และในที่สุดมาถึงจุดที่เหล่าบอสทั้งหลายโดนจับ
คำถามคาใจ ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ดำเนินธุรกิจขายสินค้า เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่อย่างไร ค่อยๆ ถูกคลี่คลายด้วยข้อกล่าวหาว่า บอสๆ ทั้งหลาย ร่วมกันปฏิบัติการทำงาน หลอกให้ลงทุน และหาลูกข่ายมาเป็นสมาชิกมากกว่าจะตั้งใจขายสินค้าจริง

การไม่ได้ขายสินค้าจริง แต่สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการนำดารา นักแสดงชื่อดัง มาร่วมโฆษณาชักชวน แม้ “บอสพอล” จะปฏิเสธว่า ธุรกิจของตัวเองเป็นการตลาดแบบตรง เน้นขายออนไลน์ มีสินค้ามากกว่า 14 ชนิด

แต่สิ่งที่พบที่โกหกกันไม่ได้ นั่นคือ "สินค้าคงคลัง" และตัวเลขจากงบดุล เมื่อเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ "ขายตรง" เห็นได้อย่างชัดเจน ดิไอคอน ขยายตัวจากยอดสมาชิกมากกว่าขายสินค้า ที่เคลมว่า ยอดขายหลายพันล้าน

เมื่อปัญหาเรื่องของสมาชิกและยอดขายไม่สัมพันธ์สอดคล้องกับสต็อกสินค้า "โป๊ะ" เลยแตก เพราะมีผู้ที่ตัดสินใจเข้าร่วมเครือข่ายเงินจม เงินหาย ไม่ได้ของ ขอเงินคืน และเข้ามาร้องเรียนแจ้งความกันเป็นจำนวนมาก

ความผิดฐานฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพ์ จึงตามมา จากก่อนหน้าที่บอสคนสำคัญของเครือข่ายอย่าง “บอสกันต์ และ บอสพอล” ถูกอายัดทรัพย์

เมื่อกงล้อของกฎหมายหมุนเต็มที่

จากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นต่อ ให้ประกันหรือ จะถูกคัดค้านไม่ให้ประกันต้องอยู่ห้องกรงยาวๆ

บอสทั้งหลายต้องลุ้นกันตัวโก่ง แน่ๆ


++ “สส.สิริน”ตัวตึง “พรรคส้ม” ผู้มีชื่อเสียงนอกสภา มากกว่าในสภา

ถ้าเอ่ยชื่อ “สส.สิริน สงวนสิน” จากพรรคประชาชน หรือ พรรคก้าวไกลเดิม ว่ามีบทบาททางสภาฯ หรือเสนอกฎหมาย ทำประโยชน์เพื่อประชาชนในเรื่องอะไรบ้าง คงไม่มีใครนึกออก

บังเอิญเมื่อ เช้าวาน (16 ต.ค.) เกิดเหตุการณ์รถชนกัน ที่ชั้น B2 ซึ่งเป็นที่จอดรถของส.ส.บริเวณอาคารรัฐสภา คู่กรณีคือ “สิริน​ สงวนสิน​” กับข้าราชการคนหนึ่ง ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เลยมีข่าวคราวของ “สิริน”

เรื่องความเสียหาของรถ ทั้งสองฝ่ายไม่มีปัญหา เคลียร์กันได้ เพราะมีประกัน

แต่คนที่สภา พอรู้ข่าวว่าเป็นรถของ “สส.สิริน” หลายคนถึงกับออกปากว่า นึกแล้วต้องมีสักวัน ...เพราะเขาไม่ชอบขับรถช้า
ขนาดคนในพรรคส้ม ยังเม้าต์ว่า ทางพรรคเคยตักเตือนไป 2-3 ครั้งแล้ว เรื่องการขับรถเร็ว เพียงแต่สำนักรักษาความปลอดภัยของสภาฯ ยังไม่เคยออกหนังสือเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

“สิริน” พูดถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า เขาเป็นฝ่ายถูก เพราะคู่กรณีเลี้ยวมาชน พร้อมยืนยันไม่ได้ขับรถเร็ว และไม่เคยได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากพรรคเรื่องขับรถเร็วมาก่อน​ ปกติก็ขับด้วยความเร็วเพียง 80 กม.ต่อชั่วโมง เท่านั้น

“สิริน สงวนสิน” ชื่อเล่น “ลี” เป็นลูกชายของ “สมนึก -ศศมณฑ์ สงวนสิน” เจ้าของอาณาจักร ฮอนด้าปิ่นเกล้ากรุ๊ป เป็นศิษย์เก่าเซนต์คาเบรียล จบปริญญาตรี และปริญญาโท ด้านการเงิน จากออสเตรเลีย

เคยเป็น ที่ปรึกษาประธานกมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน, ที่ปรึกษาประธาน กต.ตร. สน.ตลิ่งชัน และ เป็นผู้บริหารโชว์รูมฮอนด้า พระราม 9 ซึ่งเป็นหนึ่งในโชว์รูมของฮอนด้าปิ่นเกล้า กรุ๊ป

เรียกว่าเป็นหนุ่มนักเรียนนอก ลูกเจ้าของธุรกิจใหญ่ ใช้ชีวิตไฮโซ

เข้าสู่การเมืองเปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เขตตลิ่งชัน และเขตทวีวัฒนา ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด 14 พ.ค.66 แทน จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ หรือ “ทนายบิลลี่” ที่ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีความเห็นต่างกับพรรค ในเรื่อง มาตรา112 และกระแสส้ม ก็หนุนส่งให้ “สิริน” ได้เป็น สส.

ด้วยความที่เป็นลูกเจ้าของโชว์รูมรถยนต์ เติบโตมากับรถยนต์ เรื่องนิสัยขับรถช้า ขับรถเร็ว คงไม่ต้องมาถกเถียงกันให้เสียเวลา
อย่างที่กล่าวมาตอนต้น เรื่องผลงานในสภา ไม่เคยมีชื่อ“สส.สิริน”อยู่ในหน้าสื่อ แต่ผลงานนอกสภา เขาเคยเป็นข่าวดังมาแล้ว
ก็เรื่องทำร้ายร่างกายแฟนสาวนั่นไง!!

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ สส.ชายพรรคส้มหลายคน มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับผู้หญิง !!

เรื่องของ “สิริน” จึงเข้ากับกระแสของพรรคพอดี โดยฝ่ายหญิงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกทั้งคู่ไปไกล่เกลี่ย

“สิริน” ยืนยันว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรือกระทำรุนแรงกับฝ่ายหญิง แต่ยอมรับว่า มีปากเสียงกันจริง แล้วฝ่ายหญิงพยายามหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไลฟ์สด เลยมีการฉุดกระชากกัน ยื้อแย่งโทรศัพท์กัน เพราะตนไม่อยากไลฟ์สดผ่านโซเชียลฯ เนื่องจากเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องระมัดระวัง

หลังการไกล่เกลี่ย แฟนสาวก็เป็นอดีตไป ส่วนทางพรรคจะตัดสินอย่างไร ก็ไม่เห็นมีอะไรในกอไผ่

นี่คือเรื่องราวของ สส.หนุ่มพรรคส้ม ผู้มีชื่อเสียงนอกสภา มากกว่าในสภา