ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ ยิ่งขุดยิ่งเจอ "บอสกันต์" ตัวท็อปนักชวน ก่อนพันพัว ดิไอคอน ยังรับงานชวนเทรดออนไลน์สารพัด!?
คดี "ดิไอคอน" เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เร่งสอบผู้เสียหายซึ่งหลั่งไหลมาแจ้งความต่อเนื่องหลายร้อยราย คิดมูลค่าปาเข้าไปสองร้อยกว่าล้าน
แว่วว่า งานนี้ตำรวจมีทางเลือกเดียว คือต้องไปให้สุดซอย ทั้งการตั้ง "ข้อกล่าวหา" ผู้เกี่ยวข้อง และเรื่อง "ฟอกเงิน"
ขณะที่"บอสใหญ่" อย่าง"บอสพอล" วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้ง และ ซีอีโอ ดิไอคอน กรุ๊ป เคลื่อนไหวไปออกรายการ "โหนกระแส" ของ “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย เป็นพิธีกร
ปรากฏเจ้าตัวถูกตั้งคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของการทำธุรกิจ และความผิดที่อาจถูกตั้งข้อกล่าวหา ทำเอาบางช่วงบางตอน "บอสพอล" ถึงกับร่ำไห้ออกมา พร้อมยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย
วันนี้แม้จะยังไม่ได้เข้าคุก “บอสพอล” ก็ตัดพ้อว่า .. "ถ้าสำหรับสังคม ผมถูกประหารไปแล้ว ไม่ใช่ผู้ต้องหาแต่ตายไปแล้วจากสังคมนี้แล้ว"
ท่ามกลางปฏิกิริยาของคนดูไลฟ์สด จัดทัพทัวร์ลงกระหน่ำคอมเมนต์ "จะร้องไห้ทำไม!?"
เรียกว่า “บอสพอล”ถูกจับตาทุกความเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นอากัปกิริยารวมไปถึงคำพูดจริงๆ
นอกจาก “บอสพอล” คีย์แมนดิไอคอน ที่ถูกเพ่งเล็งจากสังคม ก็ต้องบอกว่าเป็นบรรดา "บอสดารา" นี่แหละ
งานนี้ "บอสพอล" ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เอ่ยออกสื่อถึง 3 บอสดารา ที่นำโดย "บอสกันต์" กันต์ กันตถาวร "บอสมิน" มิน พีชญา และ "บอสแซม" ยุรนันท์ ภมรมนตรี ว่าด้วยเรื่อง "รายได้" ที่สังคมสงสัย
เพราะก่อนหน้านี้ทั้ง 3 บอส ก็ตีหน้าเศร้าแถลงข่าวว่า เป็นแค่ "รับงาน" และ "พรีเซนเตอร์" เท่านั้น!!
จากปาก “บอสพอล” เอง ล่าสุดระบุว่า ดิไอคอน มีสัญญาจ้าง 5 ปีให้ “บอสกันต์ -บอสมิน และ บอสแซม” ซึ่งทั้ง 3 คนผลตอบแทนที่จ่ายให้แบ่งเป็นรายเดือนตามยอดขาย แต่ บอสแซม และบอสมิน จะได้น้อยกว่าบอสกันต์
ทว่า “บอสพอล” ก็ยังยืนกรานกับ”หนุ่ม กรรชัย” ว่า พรีเซนเตอร์ของดิไอคอน ทำหน้าที่แค่พรีเซนเตอร์สินค้า ไม่ได้ "ชักชวน" ให้คนมาร่วมลงทุน
กระทั่ง หนุ่ม-กรรชัย เปิดคลิปที่ “กันต์ กันตถาวร” เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของดิไอคอน เมื่อเดือนมีนาคม 2565 พร้อมเชิญชวนหาผู้ร่วมก่อตั้ง
โดยจะได้รับกำไรเพิ่มเติมอีกชิ้นละ 5 บาท แค่เปิดบิลฟาวเดอร์ หรือผู้ก่อตั้งสำหรับคนใหม่
เรียกว่ากรรมเกิดจากการกระทำฉันใด อะไรๆ ที่ "บอสกันต์" เคยพรีเซ็นต์อะไรไว้ ก็ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา
ยิ่งขุด ก็ยิ่งเจอ โดยเฉพาะ "บอสกันต์" โดนหนักสุด เพราะออกตัวแรงสุดในหมู่บอสดารา
ว่ากันว่า การทุ่มสุดตัว พันพัวดิไอคอน ทำให้ "บอสกันต์" ยืนหนึ่งเป็น "ตัวท็อปนักชวน"
ว่าไปแล้ว “กันต์” ไม่ใช่ตัวท็อปนักชวนของดิไอคอนเท่านั้น มีคนไปสืบค้นมาได้ว่า ก่อนหน้านี้ กันต์ ก็รับจ้างเป็น "พรีเซนเตอร์" เชิญชวน ให้คนไทยลงทุนเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ หรือ แพลตฟอร์ม "ซื้อ-ขาย" หรือ เทรดฟอเร็กซ์ ,หุ้น,โลหะ,ดัชนี สารพัด
โบรกเกอร์รายนี้เคลมว่าสามารถสร้างเงิน สร้างรายได้ ให้กับคนเล่นเป็นกอบเป็นกำ โดยมี “กันต์” เป็นไอดอล
แต่...โบรกฯรายนี้เทรดโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. กลับใช้ “กันต์” มาชวนลูกค้าไทยเฉย
ใครไม่รู้ก็เปิดบัญชีกันไป ถ้ารู้ว่า โบรกฯนี้ ได้ใบอนุญาตจาก Belize ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ในอเมริกาใต้ มีประชากรแค่สี่แสนคน จะคิดยังไง!
อยากรู้ว่าโบรกฯไหน สืบกันได้ตามสะดวก
“ดิไอคอน” ที่ “บอสกันต์” ร่วมงานกับ “บอสพอล” โป๊ะแตกไปแล้ว โบรกฯเทรดออนไลน์ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโป๊ะแตกเมื่อไหร่
ที่แน่ๆ ตอนนี้ “บอสกันต์”ตัวท็อปนักชวน และ "บอสดารา" กำลังได้รับบทเรียนจากดิไอคอน
ร้อนๆหนาวๆ กับ ราคาที่ต้องจ่ายฐาน "รับจ้าง" ไม่เลือก เพราะเลือกจะเชื่อตามวลีของ “บอสพอล”ที่ว่า "ขยันผิดที่ 10ปีก็ไม่รวย"
อยากรวย สุดท้ายต้องซวยไปตามๆกัน หรือไม่ โปรดติดตามอย่ากระพริบตา.
++ “เพื่อไทย”ปาหี่!! เตรียมขับ“พิศาล” ตัดจบคดีตากใบลามพรรค
วันที่ 25 ตุลาคมนี้ คดีตากใบจะหมดอายุความ โดยที่ยังจับใครไม่ได้สักคน
แต่คนที่ถูกพูดถึง และตกเป็นข่าวมากที่สุดคือ “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในยุค “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี และปัจจุบันเป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
“พล.อ.พิศาล” ถูกศาลออกหมายเรียกเมื่อ 12 กันยายน 2567 แต่ก็ไม่ได้ไปปรากฏตัวตามนัด ต่อมาวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งออกหมายจับ แต่ปรากฏว่า จับไม่ได้ หาตัวไม่เจอ
เพราะ“พล.อ.พิศาล” ได้ยื่นลาป่วยต่อสภาฯ เพื่อไปรักษาตัวต่างประเทศ ตั้งแต่ 26 ส.ค. ถึง 30 ต.ค. 67 โดยมี “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาฯ คนที่ 1 จากพรรคเพื่อไทย เป็นผู้อนุมัติ
จะกลับเข้าสภาอีกครั้งก็เมื่อคดีก็หมดอายุความแล้ว!!
ถาม “รองพิเชษฐ์” ก็ได้รับคำชี้แจงว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะลาประชุมได้ ไม่ว่าจะลาป่วย ลากิจ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด เพราะเขามีสิทธิ ถือเป็นเรื่องปกติของการลา ไม่ว่าใครก็สามารถลาได้
เช่นเดียวกับบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย อย่าง “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม หรือ “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรค ต่างบอกว่า ไม่รู้อยู่ที่ไหน ไม่รู้จะทำอย่างไร ยังติดต่อไม่ได้ การหาตัวไม่ง่าย พรรคไม่ได้มีหน้าที่ติดตามตัวให้มาขึ้นศาล
เพราะคำตอบเป็นอย่างนี้ จึงมีเสียงสวดว่า ปกป้องพวกพ้องกันเอง
ยิ่งเมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ถูกร้องเรียนเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นนักโทษที่ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว ยิ่งเป็นการเพิ่มความร้อนแรงของกระแสว่า ... ยุคนี้เป็นยุคที่ “คนผิดลอยนวล” จนจะกลายเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว เพราะผู้มีอำนาจ ไม่สนกฎหมาย ไม่สนกระบวนการยุติธรรม
แน่นอนว่า เสียงวิพากวิจารณ์ดังกล่าว ย่อมไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล “นายกฯอิงค์” แพทองธาร ชินวัตร ที่ตอนนี้กำลังเรตติ้งตก ถูกวิพากวิจารณ์ สารพัดเรื่อง เรียกว่าหาแต้มบวกไม่เจอ
ล่าสุด “สมคิด เชื้อคง” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี น่าจะได้ไฟเขียวจาก “นายใหญ่” จึงออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อลดกระแสว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมาทางพรรค ได้พยายามเร่งรัดให้ “พล.อ.พิศาล” เข้ามามอบตัว เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาล หรือ ให้ลาออกจากพรรคแล้ว แต่ก็ยังเงียบ ดังนั้นในวันที่15 ต.ค. ช่วงเย็น จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อหารือกันถึงเรื่องนี้
ถ้า “พล.อ.พิศาล” ไม่ลาออกจากสส.บัญชีรายชื่อ ทางพรรคก็อาจจะใช้มาตรการ “ขับออก” แถมย้ำว่า เรื่องของ พล.อ.พิศาล เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่เมื่อเป็น สส.ของพรรค จะไม่ปล่อยปะละเลย ให้ใครทำผิดไม่ได้
นั่นเป็นเหมือนการคุยกันภายใน แต่ไม่เคยมีข่าวว่า พรรคได้ความพยายามติดตามตัว “จำเลย” กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย... มีแต่ได้ยินว่าไม่ใช่หน้าที่ของพรรค
การขับ“พล.อ.พิศาล” ในฐานะสส.บัญชีรายชื่อออกจากพรรค ไม่ว่าจะขับวันนี้ พรุ่งนี้ หรือ หลังวันที่ 25 ตุลาคม ล้วนไม่มีผลต่อสถานภาพการเป็น สส.
เพราะ สส.ที่ถูกขับออกจากพรรค มีเวลา 30 วัน ในการหาพรรคใหม่สังกัด เพื่อรักษาสถานภาพสส.ของตัวเอง แต่ขณะนี้เหลือเวลาไม่ถึง 10 วัน คดีตากใบก็หมดอายุความแล้ว
แค่ “พล.อ.พิศาล” รอหลังวันที่ 25 ตุลาคม จะเดินเข้าสภา เดินเข้าพรรคการเมืองไหน ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
มาตรการขับออกจากพรรคจึงเป็นแค่ “ภาพลวงตา” เท่านั้น