xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.กฎหมาย-มั่นคง รุมจี้หน่วยงานคดีตากใบ 2 จำเลยหนีไปนอกหรือไม่ “ช่อ” แนะใช้การทูตประสานอินเตอร์โพล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กมธ.กฎหมาย-มั่นคง” เชิญหน่วยงานแจงความคืบหน้าคดีตากใบ รุมจี้เดือด ปม 2 จำเลย ออกนอกประเทศจริงหรือไม่ ด้าน “พรรณิกา” ชี้ ใช้การทูตประสานอินเตอร์โพลจับกุมได้ แม้ไม่มีกฎหมายรองรับ

วันนี้ (9 ต.ค.) ได้มีการ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่มี นายกมลศักดิ์ ลีวาเมะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ เป็นประธาน โดยมีวาระพิจารณาศึกษาการติดตาม จับกุมจำเลยและผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลกรณีคดีการสลายการชุมนุมที่อำเภอตากใบ และแนวทางการเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคดีหมดอายุความ ร่วมกับ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ส่งตัวแทน 3 คนเข้าร่วม พร้อมทั้งเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อกมธ.

ช่วงหนึ่งในการประชุม พ.ต.ท.เสกสันต์ คงคืน รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ชี้แจงไทม์ไลน์ในการดำเนินการของคดีตากใบ และได้ย้ำว่า รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ไปประชุมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และได้มีการสั่งการกำชับ การปฏิบัติ และมีหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งรัดการจับกุมส่งไปยังทุกหน่วยงานทั่วประเทศ​เพื่อดำเนินการตามหมายจับ

จากนั้น นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ถามถึงบุคคลที่อยู่ในหมายจับได้ส่งรายชื่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แล้วหรือไม่ ด้าน พ.ต.อ.รังษี มั่นจิตร ผู้กำกับการซักถาม 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า มีหนังสือแจ้งไปแล้ว หากบุคคลที่มีหมายจับจากศาลนราธิวาสและศาลปัตตานีมีการออกนอกประเทศ ตม.ก็จะมีการจ้งเตือนเข้ามา ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานไปยังอินเตอร์โพล ทั้งนี้ ขออนุญาตไม่เปิดเผยรายละเอียด

จากนั้น นายกมลศักดิ์ จึงถามว่า สามารถแจ้งต่อที่ประชุมได้หรือไม่ ว่า ขณะนี้มีผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศไปกี่ราย เพราะตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ลับ โดย พ.ต.อ.รังษี กล่าวว่า สามารถตอบได้ว่ามี 2 ราย แต่ไม่สามารถระบุชื่อบุคคลได้

โดย นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.ความมั่นคง ได้ตั้งคำถามว่า คำถามที่ประชาขนสงสัยคือ ผู้ต้องหาทั้ง 14 คน อยู่ที่ไหน อีกทั้งจากการที่ตนทราบข้อมูล มีบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ จำนวน 2 ประเทศ ได้แก่ คนแรกอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ อีกคนอยู่ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จึงอยากให้ช่วยยืนยันว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริงนี้ใช่หรือไม่

นายรอมฎอน กล่าวต่อว่า ถ้าใช่ตามข้อเท็จจริง ท่านได้มีความพยายามสื่อสารไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบการจับกุมในต่างประเทศหรือไม่อย่างไร พร้อมตั้งคำถามอีกว่า ในกรณีคดีอาญาที่ร้ายแรงแบบนี้ ถ้าไม่สามารถทำได้จริงๆ ช่วยชี้แจงว่าประชาชนจะสามารถช่วยจับกุมผู้ต้องหาอย่างไรได้บ้าง

จากนั้น พ.ต.อ.รังษี ได้ตอบคำถามนายรอมฎอน ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 14 ราย อยู่ที่ไหนนั้น ถ้าวันนี้ทราบ เราคงจับได้ไปแล้ว ซึ่งเรากำลังตามอยู่ และไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ส่วนคำถามที่ให้ยืนยันว่ามีบุคคลหลบหนีไปประเทศอังกฤษ และญี่ปุ่นนั้น ถือว่าเป็นการให้เบาะแส

ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.มั่นคง กล่าวว่า ในบรรดาผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด โดยเฉพาะบุคคลที่หนีออกนอกประเทศ หากเป็นไปตามข้อมูลที่ปรากฏว่าอยู่ที่สหราชอาณาจักร 1 คน และประเทศญี่ปุ่น 1 คน ซึ่งเราสามารถขอความร่วมมือผ่านกลไกอินเตอร์โพล กับ 2 ประเทศดังกล่าวได้ ด้วยการออกหมายแดง ซึ่งทางตำรวจจะต้องเป็นผู้ประสานกับอินเตอร์โพล เพื่อนำข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อให้ข้อมูลทั้ง 2 ประเทศสามารถช่วยติดตามจับกุมได้ นอกจากนี้ กรณีนี้ยังเข้าข่ายสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะเป็นฐานความผิดถึงชีวิต ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศสามารถทำสำเนาหมายจับและดำเนินการได้ หรือหากไม่มีกฎหมายรองรับเราก็สามารถใช้กลไกการทูตเจรจาส่งตัวกลับได้ ด้านพ.ต.อ.รังษี กล่าวว่า เราได้ส่งหมายจับไปยังกองการต่างประเทศ​ เพื่อประสานไปยังอินเตอร์โพลเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 ต.ค.

จากนั้น น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.กฎหมายฯ ได้ซักถามว่า หากจำเลยทั้ง 2 คน เดินทางออกนอกประเทศแล้วจริง ได้มีการประสานไปทางกระทรวงการต่างประเทศจนมีหนังสืออกมาเป็นทางการแล้วหรือไม่ ด้านพ.ต.อ.รังษี กล่าวยืนยันว่า พนักงานสอบสวนดำเนินการทุกกระบวนการแล้ว จากนั้นน.ส.ชลธิชา ได้ถามต่อว่า ยื่นบัญชีดำให้กับกระทรวงการต่างประเทศวันที่เท่าไหร่ ด้าน พ.ต.อ.รังษี กล่าวว่า เราเริ่มดำเนินการไปแล้ว ทั้งการตรวจสอบหาสำเนา ตั้งคณะทำงาน และได้แจ้งไปทุกหน่วยงาน แต่อย่างใดก็ตามเมื่อเราแจ้งไปแล้ว ก็มีระเบียบปฏิบัติ หากหน่วยงานมีระเบียบแต่บุคคลผิดพลาดก็ต้องว่าไปตามระบบ ดังนั้น ตนตอบได้แค่ว่า หากระบบมีการแจ้งก็ต้องมีการทำระเบียบ

จากนั้น นายคุณากร มั่นนทีรัย สส.นนทบุรี พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ. ได้ถามย้ำถึงขั้นตอนการดำเนินการจับกุม ว่า ขณะนี้ไปถึงไหนแล้ว ด้าน พ.ต.ท.เสกสันต์ กล่าวว่า คดีความมั่นคงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนใต้ ณ วันนี้มีทั้งหมด 10,593 คดี และมีหมายจับผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงอีกพันกว่าหมาย ซึ่งเราสืบสวนและจับกุมมาตั้งแต่ปี 47 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแม้จะผ่านมา 20 ปี เราก็ยังจับไม่ได้ เพราะผู้ต้องหามีการเคลื่อนไหวแต่ละวันคนละที่ ดังนั้น เราไม่สามารถประเมินเป็นเปอร์เซนต์ได้ว่าใครจะหลบหนีไปที่ใด แต่ยืนยันว่าแนวทางการสอบสวนต้องเป็นเรื่องลับ จากนั้น นายคุณากร จึงตอบกลับว่า จากที่ตนได้ฟังหากเปรียบเทียบการดำเนินการเป็น 5 ระดับ ตนประเมินว่าอยู่ในระดับแค่ 0-1


กำลังโหลดความคิดเห็น