xs
xsm
sm
md
lg

"มันจบแล้วครับนาย" ไม่มีหรอก? แต่คนกลับกลอกกลมกลิ้งมีอยู่จริง ชื่อ "หนู-อนุทิน"! ** เกมการเมืองตุลาอาถรรพ์ พรรคลุง รุกสอย “อิ๊งค์” ตั้ง หมอเลี้ยบ-เต้น-ยุบเพื่อไทย แค้นต้องชำระ หรือจะยิ่งแค้นหนัก ทำอะไรไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุทิน ชาญวีรกูล - เนวิน ชิดชอบ- ทักษิณ ชินวัตร
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ "มันจบแล้วครับนาย" ไม่มีหรอก? แต่คนกลับกลอกกลมกลิ้งมีอยู่จริง ชื่อ "หนู-อนุทิน"!

วันก่อนตีหน้าเหรอหรา ไขสือบอก "ไร้สาระ" กับกระแสที่ถูกถามว่าไปกับ "เนวิน ชิดชอบ" เจ้าของพรรคตัวจริง มุดเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ไปหา"ทักษิณ ชินวัตร" ใช่หรือไม่ !?

ชั่วข้ามคืน "เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลันลิ้นตวัดพลิกเป็น "ยอมรับ" ว่าตัวเองเป็นคนชวน “เนวิน” ไปดินเนอร์กับ “ทักษิณ”จริง ซึ่งตัวเองเป็นแขกประจำไปกินข้าวกับทักษิณ ก็แค่นั้น

แถมปิดทางให้ถามต่อ "จบนะ ไม่ต้องถามอะไรต่อ เพราะการกินข้าวเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องภายใน เบิร์ธเดย์บอย” เสี่ยหนู ให้ถ้อยคำกับนักข่าวโดยที่ยังบอก ทักษิณใจดี ให้เสื้อแจ๊กเก็ตหนึ่งตัวกับเนวิน เป็นของขวัญวันเกิด

ถามว่าทำไมคนจึงสนใจการพบกันระหว่าง ทักษิณกับเนวิน!? ก็เพราะ สถานะความสัมพันธ์ก่อนนี้ ที่รับรู้กันว่า มีเรื่องโกรธแค้นกัน จนต้องสะบั้นความเป็นนายเป็นบ่าว พร้อมๆ กับวลี "มันจบแล้วครับนาย" ของเนวิน

มาวันนี้ “เสี่ยหนู” บอกว่า ไม่ได้โกรธอะไรกันเลย ไอ้เรื่องที่บอกว่าโกรธ มันจบแล้วครับนาย ใครก็ไม่รู้ไปพูด ผมอยู่มาตั้ง 10 กว่าปี ไม่เคยได้ยินคำนี้ ใครกล้าพูดหรือ!?

"ถามจริงกับคนที่เป็นเจ้านายเรา มันจบแล้วครับนาย มันไม่มีหรอก ก็พูดมาไม่รู้กี่ที ก็ยังเอาคำนี้ มันไม่มีอะไรหรอก"

เรียกว่า ไม่มีแค้นเคืองระหว่าง "อดีตนาย-บ่าว" คู่นี้ มีแต่กินข้าวแฮปปี้ๆ ทั้ง ทักษิณและเนวิน ซึ่ง อนุทิน รับความดีความชอบไป ในฐานะคนชักชวน

“อนุทิน” น่าจะคำนวณเป็นมั่นเหมาะ ภาคภูมิใจกับบทบาทของนักการเมืองที่สามารถลื่นไหล ลากเลื้อย สรรหาคำมาอธิบายกระแสที่ตอนแรกบอก "ไร้สาระ" กลับมามีสาระด้วยการปิดตำนานวลีเด็ด "มันจบแล้วครับนาย" ด้วยตัวเอง

คำ "มันจบแล้วครับนาย" ไม่มีอยู่จริง ไม่มีหรอก ซึ่งออกจากปาก “อนุทิน” ที่มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าพรรค และรองนายกรัฐมนตรี พ่วงด้วย มท.1 น่าเชื่อมั้ยล่ะ!?

สำหรับ “อนุทิน” หล่อมาก จากนี้ไปทักษิณที่อนุทิน เรียก “เจ้านาย” กับ เนวิน ชิดชอบ จะทำอะไรด้วยกันอย่างเปิดเผย ก็คงไม่ต้องตกเป็นเป้า เป็นประเด็น

แถมลีลาชั้นเชิงของ “อนุทิน” ในคราครั้งนี้น่าจะนำไปเทียบกับ "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เมื่อวันก่อน เจอคำถามเดียวกัน
นายกฯอุ๊งอิ๊งค์ ตอบแบบทื่อๆ เพียงเลี่ยงๆ ให้พ้นตัว ตามประสาพรรษาการเมืองยังไม่สูงว่า ไม่ได้อยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า ขอไปถามพ่อก่อน "เนวิน" ดอดคุยจริงหรือไม่

ระหว่าง “อนุทิน” ที่เนวินอยากให้เป็นนายกฯ กับ “นายกฯอุ๊งอิ๊งค์” ให้รู้กันไปว่า อนุทิน "โชว์เหนือ" กว่า ถ้าจะถูกดันเป็นนายกรัฐมนตรี "คนละครึ่ง" ก็จะเหมาะสมด้วยประการฉะนี้

เอาที่สบายใจกันเลย ในสายตาของ “อนุทิน-เนวิน-ทักษิณ” ประชาชนที่กินข้าว กลับกลายเป็นกินหญ้า ก็แล้วแต่จะคิด

นักการเมืองจะพูดอะไรก็ได้ เล่นการเมืองดูถูกเหยียดหยามคนยังไงก็ได้ เพราะเชื่อว่า จับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน ถึงจะไล่ทัน ก็แล้วไงล่ะ!

ประกอบกับคำพูดที่ว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร” จะเล่นละครบทไหน ก็หลอกคนดูได้

ต้องไม่ลืมสิว่า คนสมัยนี้โลกโซเชียลฯ และการค้นหาความจริงแตกต่างจากสมัยก่อน ทำให้ฉลาดและรู้ทัน

ใครทำอะไร พูดอะไร คลิปลับ-ไม่ลับ จะลับ-ลวง-พรางแค่ไหน ชาวโซเชียลฯ ตามสืบแป๊บเดียว เดี๋ยวรู้เรื่อง

ละครการเมืองฉากนี้ จึงถูกดูออก "มันจบแล้วครับนาย" ไม่มีหรอก แต่กลับกลอกกลมกลิ้ งยิ่งกว่าน้ำบนใบบอน ก็ "หนู" อนุทิน ชาญวีรกูล นี่แหละ!

ไพบูลย์ นิติตะวัน -แพทองธาร ชินวัตร -ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
++ เกมการเมืองตุลาอาถรรพ์ พรรคลุง รุกสอย “อิ๊งค์” ตั้ง หมอเลี้ยบ-เต้น-ยุบเพื่อไทย แค้นต้องชำระ หรือจะยิ่งแค้นหนัก ทำอะไรไม่ได้

เดือนตุลาฯ ปลายฝน ต้นหนาว บรรยากาศดี แต่การเมืองร้อน

“ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาตอกย้ำอีกรอบว่า ให้จับตาวันที่ 10 ตุลาคมนี้ จะมีเรื่องใหญ่ ที่นำไปสู่การล่มสลายของพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งก็คือ “พรรคเพื่อไทย” แต่จากเรื่องอะไรนั้น ยังขออุบไว้ก่อน

คำพูดของ “ไพบูลย์” ทำให้คนส่วนใหญ่มองว่า น่าจะเป็นเรื่องยุบพรรค เพราะที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียน อยู่ที่ กกต. เกี่ยวกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ครอบงำพรรค และ เรื่องที่ “นายกฯอิงค์” แพทองธาร ชินวัตร ถูกร้องเรียนเรื่องมาตรฐานจริยธรรม หลายกรรม หลายวาระ

ล่าสุด “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ยื่นถอดถอน “นายกฯอิงค์” ในประเด็น ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพิ่มอีก 1 เรื่อง จากกรณี ตั้ง “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และ “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

เพราะทั้งสองคนนี้เคยถูกศาลมีคำสั่งลงโทษ “จำคุก” มาก่อน

จึงถูกนำไปเทียบเคียงกับกรณีของ “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณี ตั้งทนายถุงขนม “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เพราะถือว่านายกรัฐมนตรี มีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

เรื่องร้องเรียนทั้งหลายทั้งปวง เหล่านี้ อาจมีความคืบหน้าในชั้น กกต. ไม่ต้องถึงขั้นกกต.มีมติชี้มูลความผิดแล้วส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรอก แค่รับเรื่องไว้พิจารณา และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ก็เป็นประเด็นร้อนแล้ว

อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านี้ “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บอกไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวล โดยเฉพาะกรณีตั้ง “เต้น ณัฐวุฒิ” เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่าไม่เข้าข่ายความผิดอะไร ก่อนตั้งก็ได้ตรวจสอบข้อกฎหมายดีแล้ว

ซึ่งการที่ต้องระดมคนจากทุกภาคส่วนเข้ามา ก็เพื่อให้มาช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ ที่กำลังมีวิกฤติในหลายเรื่อง จึงไม่อยากให้เอาเรื่องเหล่านี้ ไปทำให้การเดินของบ้านเมืองต้องสะดุดหยุดลง

ต้องติดตามว่า วันที่ 10 ตุลาคมนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้น ปฏิบัติการถอนแค้นของพลพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นผลหรือไม่ หรือจะต้องแค้นหนัก เพราะสิ่งที่ทำไป ไม่ระคายผิวฝ่ายที่ถืออำนาจรัฐแม้แต่น้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น