เมืองไทย 360 องศา
จาก “ข่าวไร้สาระ” ตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคยกล่าวในเชิงปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า เขาและ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ได้เข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพัก “จันทร์ส่องหล้า” เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ล่าสุด นายอนุทิน ก็ได้ยอมรับแล้วว่า เป็นเรื่องจริง แต่อ้างว่าเป็นการพูดคุย อวยพรวันเกิดของ นายเนวิน ไม่มีเรื่องการเมือง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ยอมรับว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่า ตนเป็นคนชวนนายเนวิน ไปรับประทานอาหารมื้อเย็น ที่บ้านของนายทักษิณจริง เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของนายเนวิน ครบรอบ 66 ปี (เบิร์ธเดย์บอย) ก่อนจะบ่ายเบี่ยง ขอพูดเรื่องงาน เพราะการทานข้าวเป็นเรื่องภายใน เป็นเรื่องส่วนตัว
ถามว่าในวันเกิด นายทักษิณได้มอบอะไรให้เป็นของขวัญแก่นายเนวินหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ท่านเป็นคนใจดีให้เสื้อแจ๊กเก็ตมา 1 ตัว ตนยังไม่ได้เลย พร้อมยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างนายเนวิน และนายทักษิณ ว่าไม่ได้มีการโกรธอะไรกัน
“เรื่องคำว่า ‘มันจบแล้วครับนาย’ ใครก็ไม่รู้เป็นคนพูด ผมอยู่มาเป็นสิบกว่าปี ยังไม่เคยได้ยินเลย ก็ใส่กันไป กล้าพูดเหรอ ถามจริง กับคนที่เป็นเจ้านาย แล้วเราไปพูดคำว่า มันจบแล้วครับนาย มันไม่มีหรอกครับ พูดมาไม่รู้กี่ครั้งก็ยังเอาคำนี้กลับขึ้นมา” นายอนุทิน กล่าว
ถามว่า แสดงว่า บรรยากาศแฮปปี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องมั่นใจว่าแฮปปี้ เพราะคนที่ชวนคือตน ส่วนจะมีการพูดคุยถึงเรื่องตำแหน่ง หรือไม่ นายอนุทิน หันหน้าหนีก่อนกล่าวว่า ไม่เอาแล้ว เอาเรื่องอื่น พร้อมปฏิเสธว่า ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วจะไปพูดคุยได้อย่างไร เพราะคนแก้ไข คือพวกตน คนที่นั่งอยู่ในครม.และสภา
ส่วนกระแสข่าวนายกฯคนละครึ่ง นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องคนละครึ่ง หมดไปตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ตนตั้งใจมาทำงาน รับใช้สนองงานนายกฯแพทองธาร ให้ดีที่สุด ซึ่งนายกฯเรียกตนว่า “อาหนู” ทุกคำ จนตนต้องไปกราบขอท่านไม่ต้องเรียก อาหนูแล้ว เรียกไม่ได้แล้ว จนตอนนี้ท่านเรียก “ท่านรองฯ” ไว้ทุกคนเป็นอา คนจะเข้าใจความรู้สึกเอง ว่าเรามีหน้าที่ตอบสนองอะไรเขา
นายอนุทิน ยังยืนยันว่า กระแสข่าวนายกฯคนละครึ่ง ไม่ใช่ว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะนี่คือรัฐบาล การไปหุ้นกัน คนละครึ่ง คนละเสี้ยว เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ตนและพรรคภูมิใจไทย ตั้งใจทำงานเต็มที่ ให้กับรัฐบาลชุดนี้
ส่วนที่ นายเนวิน อวยพรให้ตนเป็นนายกฯ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า จะให้ท่านอวยพรว่า จะเป็นผู้จัดการฟุตบอลบุรีรัมย์ หรืออย่างไร ก่อนจะกล่าวต่อว่า คนอวยพรมาเป็น 10 ปี ยังไม่ได้เป็นนายกฯเลย
แม้ว่าก่อนหน้านั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะบ่ายเบี่ยงตอบคำถามเรื่องดังกล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อถูกถามเรื่องดังกล่าวโดย นายกฯกล่าวว่า “หือ ไม่อยู่ อิ๊งค์อยู่คนละบ้านกับพ่อนะ และวันนั้นก็ไปภารกิจอื่น” ก่อนนายกฯ หันมาย้อนถามสื่อมวลชนว่า ใครให้ข่าวคะ นักข่าวตอบว่า เป็นรายการดังทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง นายกฯ จึงกล่าวว่า “อ๋อ เหรอ”
เมื่อถามย้ำว่า นายกฯไม่ได้เจอนายเนวิน ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้เจอคะ เมื่อถามย้ำว่าแล้วมีการเจอกันจริงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “เดี๋ยวขอถามคุณพ่อก่อนนะคะ” พร้อมกับทำท่ายกโทรศัพท์มือถือขึ้น
ดังนั้น นาทีนี้ถือว่า “มีการพบกันจริง” หลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเข้าพบนายทักษิณด้วย ได้ออกมายอมรับแล้ว ส่วนที่บอกว่าไม่มีเรื่องการเมืองนั้น ก็ต้องมาวิเคราะห์กันว่าเป็นไปได้แค่ไหน
แน่นอนว่า หากพิจารณาจากคำพูดของนายอนุทิน แล้ว ทำให้มีข้อสันนิฐานได้ชัดเจนว่า เป็น “เรื่องการเมือง” แน่นอน โดยเฉพาะหากพิจารณากันถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในช่วงนี้เริ่มมีแรงกระแทกเข้ามาหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องข้อสงสัยในเรื่อง “วุฒิภาวะ” ของเธอ รวมไปถึงเรื่องความรู้ความสามารถ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน
เพราะจากหลายเหตุการณ์ทำให้มีเสียงวิจารณ์ในทางลบ ไม่เชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดก็เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างไปประชุมสุดยอดผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
โดยเฉพาะในช่วงการพบปะหารือกับประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซซเคียน (Masoud Pezeshkian) ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ กลับสร้างความแปลกใจให้กับคนไทยไม่น้อย ที่ได้เห็นภาพการพบปะกันของผู้นำทั้งสองประเทศ โดยฝ่าย น.ส.แพทองธาร ได้อ่านข้อความในไอแพด (iPad) แบบที่เรียกว่าก้มหน้าก้มตาอ่านอย่างเดียว ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนาอย่างประธานาธิบดีอิหร่านเลย
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมาย ทั้งในโลกโซเชียลฯ และในสังคมทั่วไป จนเสียภาพความเป็นผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ที่เธอก้มหน้าก้มตาอ่านไอแพด ในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา และการรับมือน้ำท่วมภาคเหนือ เรียกว่าอ่านแบบท่องจำ สะท้อนว่าไม่ได้ทำความเข้าใจกับเรื่องราวที่ต้องพูด หรือการสื่อสารออกไป
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่คาดว่าต้องมีการหารือกันในวงกินข้าวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ก็คือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หากสังเกตจากคำพูดของนายอนุทิน ที่กล่าวถึงเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญออกมา ทั้งที่ไม่มีใครถาม ซึ่งก็พอคาดเดาได้ เพราะก่อนหน้านั้น พรรคร่วมรัฐบาลยอมถอยการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในประเด็นลดระดับมาตรฐานจริยธรรมนักการเมือง ที่หลายคนมองว่า มีการเอื้อประโยชน์ให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร รวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อวกกลับมาที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่หลายคนเริ่มมีการตั้งคำถามว่า “ไปไหว” หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องความรู้ความสามารถ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้นำประเทศ ขณะเดียวกัน สำหรับตัวเธอแล้วเชื่อว่าต้องรู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน จนมีการประเมินกันว่า จะอยู่ได้จนถึงปลายปีนี้หรือไม่ ขณะที่บางคนบอกว่าอาจมีการเปลี่ยนตัวภายในกลางเดือนนี้ ด้วยซ้ำไป
ดังนั้น เมื่อมีข่าวเรื่องนายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายเนวิน ชิดชอบ เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องถูกโยงไปถึงเรื่องเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่มองไปที่นายอนุทิน ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด และต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างทางการเมืองในอนาคต ในแบบพันธมิตร โดยเฉพาะ “นายกฯ คนละครึ่ง” ถือว่านาทีนี้ ก็ยังมีความเป็นไปได้เหมือนกัน แม้ว่าตอนนี้ยังมองภาพไม่ชัดก็ตาม!!