xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ บินถกลาวแก้คอลเซ็นเตอร์ หมอกควัน ยาเสพติด แม่น้ำโขง เพื่อป้องกันอุทกภัยในอนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แพทองธาร” บินถกปัญหาสำคัญไทย-ลาว ร่วมกันจับมือแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมปัญหาหมอกควัน และยาเสพติดระหว่างชาติ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาแม่น้ำโขงเพื่อป้องกันอุทกภัยระหว่างกันในอนาคต

วันนี้ (8 ต.ค.) เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ ในการเดินทางเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ และวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับเกียรติเข้าร่วมการหารือเต็มคณะกับ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย โดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทย และ สปป.ลาว เป็นเพื่อนบ้านที่มีความเชื่อมโยงผูกพันและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐบาล สปป.ลาว ที่ถวายการต้อนรับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อย่างสมพระเกียรติ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และยินดีที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริใน สปป.ลาว มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมขอเชิญนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และภริยา เยือนไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งในปีหน้า ทั้งสองประเทศจะมีการจัดกิจกรรมครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเน้นการมีส่วนร่วมในระดับประชาชนและท้องถิ่นให้มากที่สุด

ด้าน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวว่า ไทย และ สปป.ลาว เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์และความร่วมมือครอบคลุมทุกมิติ โดยมีการหารือและแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในหลากหลายโอกาสอย่างสม่ำเสมอ การเดินทางเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการครั้งนี้ ยังจะได้ติดตามประเด็นความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดและมีความคืบหน้ามากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศ ได้หารือในประเด็นที่น่าสนใจร่วมกัน ที่เป็นปัญหาระหว่างกัน โดยการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและปัญหาข้ามแดนที่สำคัญ โดยทั้งสองประเทศจัดลำดับความสำคัญ (top priorities) 5 ด้าน ได้แก่ (1) ปัญหายาเสพติด (2) แก๊งคอลเซ็นเตอร์ Online Scams (3) การค้ามนุษย์ (4) หมอกควันข้ามแดน และ (5) การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า สำหรับ ปัญหายาเสพติด นั้น ทั้งหน่วยงานของไทย และ สปป.ลาว ได้ร่วมกันจัดทำกรอบแนวทางเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาตามชายแดน ซึ่งเป็นผลจากการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน กับนายกรัฐมนตรีนายสอนไซ ซึ่งวันนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้มีการจัดการประชุมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดของไทย กับเจ้าแขวงชายแดน และหน่วยงานในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศในต้นปีหน้า เพื่อติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินการตามกรอบแนวทางดังกล่าว

ส่วนปัญหาที่ไทยและลาวจะให้ความจริงจังและให้ความสำคัญในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรม online scams โดยที่ประชุมขอให้ไทย-สปป.ลาว เร่งรัดการจัดตั้งคณะทำงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ online scams ตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว และขอให้มีการประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาให้คืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ส่วนปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหา Online Scams เห็นควรให้ขยายผลเพื่อจับกุมและดำเนินคดีกับกลุ่มอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลัง ช่วยเหลือและส่งกลับผู้ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานแล้ว และให้ผู้แทนตำรวจระดับสูงของทั้ง 2 ประเทศ มีการหารือเพื่อนำไปสู่การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้อย่างเด็ดขาดโดยเร็วที่สุด

ส่วนประเด็นหมอกควันข้ามแดน ที่ประชุมยินดีที่ในเดือนนี้ กำลังจะมีการเปิดตัวแผนปฏิบัติการภายใต้ CLEAR Sky Strategy ระหว่างไทย สปป.ลาว และเมียนมา ซึ่งในระยะต่อไป ที่ประชุมขอให้มีการเชื่อมโยง Database และ Early Warning System เกี่ยวกับคุณภาพและสภาพภูมิอากาศของไทย สปป.ลาว และประเทศในภูมิภาคเข้าด้วยกัน

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า กรอบที่ 5 คือ การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี นายสอนไซ ที่ได้ส่งสารแสดงความเสียใจเหตุการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของไทย และฝ่ายไทยได้แสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจ สปป.ลาว ที่มีอุทกภัยในหลายแขวงด้วยเช่นกัน

โดยผู้นำทั้งสองยินดีที่จะมีการลงนาม MOU ด้านการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการระหว่างกันในวันนี้ และจะใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือต่างๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ ไทย และ สปป.ลาว จะเพิ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะสองฝั่งแม่น้ำโขง รวมทั้งความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ที่ ผ่านมายอดนักท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไทยพร้อมพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขในลาว ภายใต้แผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไทย-ลาว ระยะ 3 ปี (ค.ศ. 2022-2025) สำหรับความร่วมมือด้านแรงงานนั้น นายกรัฐมนตรียืนยัน ไทยต้องการให้แรงงานต่างชาติทุกคนได้เข้าถึงสิทธิและบริการต่างๆ ในระหว่างที่ทำงานในไทย ขอให้ไทยและ สปป.ลาว ร่วมกันส่งเสริมให้แรงงานลาวเข้ามาทำงานในไทยโดยผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง พร้อมฝากสปป.ลาว ดูแลคนไทย และการลงทุนของไทย ใน สปป.ลาว ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร กล่าวชื่นชมผู้นำในรัฐบาลของ สปป.ลาว ในฐานะประธานอาเซียน สำหรับบทบาทที่แข็งขันเกี่ยวกับเมียนมา ไทยในฐานะเพื่อนบ้านของเมียนมา และจะร่วมมือกับอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา โดยเฉพาะลาว จีน และอินเดีย เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์ในเมียนมาโดยเร็ว พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนในปีนี้

จากนั้น ผู้นำทั้งสองประเทศ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทย และ สปป.ลาว จำนวน 6 ฉบับ และการส่งมอบผลการศึกษาและรายละเอียดการออกแบบโครงการก่อสร้างสะพานข้ามน้ำโขงเชียงแมน-หลวงพระบาง ดังนี้

1. บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ 2. บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่นกับนครหลวงเวียงจันทน์ 3. บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือในการบริหารทรัพยากรบุคคล 4. บันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมการค้าภายใน กับ กรมมาตรฐานและวัดแทก 5. บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ 6. และหนังสือแสดงเจตจำนง ระหว่างกรมทางหลวง และ กรมขัวทาง (กรมทางหลวงของประเทศลาว)


กำลังโหลดความคิดเห็น