ก.คลัง ปรับเกณฑ์ใหม่ บังคับหน่วยงานรัฐ "เช่ารถหลวง" ประเภทรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ ความจุแบต 30 - 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง กําลังมอเตอร์สูงสุดไม่เกิน 150 กิโลวัตต์ อัตราเช่าไม่เกิน 19,200 บาท/คัน/เดือน ส่วนขนาดมากกว่า 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง กําลังมอเตอร์สูงสุด 150 กิโลวัตต์ ค่าเช่าไม่เกิน 21,700 บาท/คัน/เดือน หลังปีก่อนปรับค่าเช่ารถหลวงไฟฟ้าระบบไฮบริดมาใช้ในภาคราชการ ในอัตราไม่แตกต่างกัน
วันนี้ (4 ต.ค.2567) มีรายงานจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เวียนหนังสือแจ้งหน่วยงานราชการทั่วประเทศ ถึงการเช่ารถยนต์ ประเภทรถนั่งส่วนกลาง มาใช้ในราชการ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ประเภทแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV)
โดยให้ถือปฏิบัติ หลังจากได้ปรับปรุงอัตราค่าเช่ารถ BEV ซึ่งสํานักงบประมาณได้เปลี่ยนแปลง รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและราคาของรถ BEV ตามบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ฉบับธันวาคม 2566 (ฉบับที่ใช้ในปัจจุบัน)
เพื่อให้การกําหนดอัตรา ค่าเช่ารถ BEV สอดคล้องกับบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ของสํานักงบประมาณ ฉบับปัจจุบัน และเพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในการขอทําความตกลงกับกระทรวงการคลัง ให้ยกเลิกอัตราค่าเช่ารถนั่งส่วนกลาง รายการรถ BEV เดิม
และให้ใช้อัตราค่าเช่า รถยนต์ไฟฟ้า BEV ขนาดความจุของแบตเตอรี่ตั้งแต่ 30 - 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) และกําลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 150 กิโลวัตต์ ไม่เกิน 19,200 บาท/คัน/เดือน
ส่วนขนาดความจุของแบตเตอรี่มากกว่า 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) และกําลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 150 กิโลวัตต์ ไม่เกิน 21,700 บาท/คัน/เดือน
ทั้งนี้ หากส่วนราชการมีความประสงค์เช่ารถยนต์มาใช้ในราชการนอกเหนือจากที่กระทรวงการคลังกําหนดไว้ ตามบัญชีนี้ ให้ขอทําความตกลงกับกระทรวงการคลังต่อไป
ก่อนหน้านั้น กระทรวงการคลัง ได้กําหนดอัตราค่าเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการเพิ่มเติม ประเภทนั่งส่วนกลาง รายการรถยนต์ไฟฟ้า ประเภทผสม หรือ ไฮบริด (HEV) มาใช้ในภาคราชการ
รถยนต์ไฟฟ้า ประเภทผสมหรือไฮบริด (HEV)" (ปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน 2,000 ซีซี หรือ กำลังเครื่องยนต์สูงสุดไม่ต่ำกว่า 60 กิโลวัตต์ และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 114 กิโลวัตต์) อัตราค่าเช่า ไม่เกิน 21,900บาท/คัน/เดือน
"รถยนต์ไฟฟ้า ประเภทแบตเตอรี่ (BEV)" (ขนาดความจุของแบตเตอรี่ตั้งแต่ 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ขึ้นไป และกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 1550 กิโลวัตต์) อัตราค่าเช่า ไม่เกิน 19,900 บาท/คัน/เดือน
ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2564 ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการใช้ "รถยนต์อีวี" ในภาครัฐ กระทรวงการคลัง จึงได้กำหนดอัตราค่าเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ ให้สอดคล้องกับบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ฉบับปัจจุบัน
"กรณีจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์อีวี มาใช้ในราชการ ทดแทนรถยนต์เดิมที่หมดอายุการใช้งาน หรือที่จะต้องจัดซื้อจัดจ้างขึ้นใหม่ เพื่อรองรับภารกิจใหม่ หรือผู้ดำรงตำแหน่งใหม่".
มีรายงานว่า สำหรับประเด็น "การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการประจุไฟฟ้าของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในสถานที่ราชการ" สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบของทางราชการ
โดยที่ผ่านมา ครม.ในรัฐบาลยุค คสช. มีมติว่ากรณีที่เป็นการเช่ารถยนต์ส่วนกลาง การเบิกจ่ายค่าบริการประจุไฟฟ้า ถือเป็นค่าสาธารณูปโภคซึ่งเป็นดุลยพินิจของหัวหน้าส่วนราชการ เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. 2553
ส่วนกรณีที่เป็นรถยนต์ประจำตำแหน่ง ผู้ใช้รถประจำตำแหน่งเป็นผู้จ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวเอง ซึ่งเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523.