“นิกร” เผย “รัฐสภา” ตั้ง คกก.ศึกษาแนวทางการป้องกัน-ลดอุบัติเหตุท้องถนน ประเดิม 25 ต.ค. ประชุมนัดแรก นำเคสไฟไหม้รถบัสโรงเรียนเข้าเป็นวาระเร่งด่วน
วันนี้ (4 ต.ค.) นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาและกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา แถลงว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ลงนามในคำสั่งรัฐสภาที่ 42/2567 ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการ จากกรรมาธิการสามัญฝั่งวุฒิสภาที่ตั้งขึ้นใหม่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 67 และ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ผู้เป็นประธานคณะกรรมการ ได้มีคำสั่งให้มีการประชุมร่วมคณะกรรมการฯ ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 25 ต.ค. นี้
นายนิกร จำนง กล่าวว่า กรณีรถบัสทัศนศึกษานักเรียนมีอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมากและมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานรับผิดชอบหลายฝ่ายรวมทั้งฝ่ายรัฐสภาด้วย และโดยที่องค์ประกอบของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นใหม่นี้มีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องเกือบครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญคณะต่างๆ ของทั้ง 2 สภา เช่น กมธ.การคมนาคม กมธ.การศึกษา กมธ.การกฎหมายฯ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กรมป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัย อธิบดีกรมควบคมุโรค รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำหนดกรณีรถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเป็นวาระพิจารณาเร่งด่วนสำคัญในการประชุมในครั้งนี้ เพื่อสรุปเสนอแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ผลในการปฏิบัติ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนและประชาชนทั่วไปอันเป็นหน้าที่และอำนาจโดยตรงของคณะกรรมการต่อไป โดยประธานคณะกรรมการได้สั่งการไปให้ทุกหน่วยเตรียมแนวทาง มาตรการและข้อเสนอที่เห็นว่าจะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวเข้ามาพิจารณาในการประชุมตัวาระสำคัญที่สุด
นายนิกร กล่าวว่า ตนในฐานะประธานคณะอนุกมธ.พิจารณาศึกษาความปลอดภัยทางถนนและคมนาคม ใน กมธ.การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว ที่ได้เสนอความเห็นเป็นข้อสังเกตที่ผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมสภาไปยังรัฐบาลในขณะนั้น โดยเฉพาะกรณีความปลอดภัยทางถนนของเด็กนักนักเรียนในการเดินทางไปทัศนศึกษาดังกล่าวนี้กลับมานำเสนอในวาระการประชุมที่จะถึงนี้ เพื่อการปรับปรุงร่วมกันซึ่งมีอยู่หลายข้อเสนอแนะในรายงานหลายด้าน เช่น ด้านยานพาหนะปลอดภัย ด้านรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนที่ต้องควบคุมมาตรฐานของกฎหมายเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน และในประเด็นนี้มีการเสนอการควรควบคุมรับจ้างอย่างใกล้ชิดทั้งมาตรฐานของรถ การตรวจสอบมาตรฐานรถ ตลอดจนอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในรถ ประตูฉุกเฉินและการซักซ้อมการใช้งานของอุปกรณ์ ด้านการศึกษา เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกรมการขนส่งทางบกเร่ง พัฒนาระบบความปลอดภัยรถรับจ้างที่เกี่ยวกับการเดินทางของนักเรียน และที่สำคัญ เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายและกำกับดูแลการเดินทางไปทัศนศึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ต้องจัดสรรบประมาณการเดินทางทัศนศึกษาให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยมากกว่าความประหยัด ทั่งค่าเดินทางและค่าที่พักสำหรับนักเรียน นักศึกศึกษาและครูผู้ควบคุม
นายนิกร กล่าวว่า ในฐานะผู้ทำงานด้านความปลอดภัยทางถนนมากว่า 20 ปี ว่า กรณีการสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งนี้ ที่จริงแล้วมีกฎหมายและระเบียบปฏิบัติอยู่เกือบครบถ้วนแล้ว ปัญหาที่มีของความปลออดภัยของเด็กๆ และผู้คนทางถนนของเรา คือ ขาดการบังคับใช้ในภาคปฏิบัติ และการติดตามประเมินผลจากฝ่ายกำกับดูแลนโยบาย จำเป็นจะต้องนำเสนอให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นให้ได้ และเมื่อรัฐบาลชุดนี้ก็มีนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนแถลงไว้อย่างชัดเจน
“เชื่อว่า การประชุมพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันในครั้งนี้ จะเกิดเป็นคุณูปการขึ้นอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นแล้ว เราจะสูญเสียเด็กๆ และคุณครูผู้จากไปในกรณีนี้ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย โดยไม่มีอะไรที่ดีกว่าเกิดขึ้นมาเลย แล้วเราจะรอให้เกิดความสูญเสียซ้ำซากเช่นนี้กันอีกครั้งถึงจะพอ” นายนิกร กล่าว