วันนี้(4 ต.ค.)นายปกรณ์ จีนาคำ แม่ฮ่องสอน เขต 1 กล่าวว่าเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือว่า หลาย ๆ พื้นที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักรในการทำงาน โดยเฉพาะเครื่องจักรขนาดใหญ่ไม่เพียงพอ ในการเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ถึงแม้ว่าเราจะมีศูนย์เครื่องจักรขนาดใหญ่ของ ปภ. ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะของภาคเหนืออยู่ที่จังหวัดลำปาง แต่ตนคิดว่าคงยังไม่เพียงพอ เพราะไม่เคยเห็นรถเครื่องจักร ของ ปภ. ที่ศูนย์ลำปางเข้าไปจังหวัดแม่ฮ่องสอนเลยแม้แต่คันเดียว
นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวที่น่าเสียใจคือ มีกลุ่มผู้ประกอบการที่มีน้ำใจจากภาคกลางได้นำรถบรรทุก และรถเครื่องจักรขนาดใหญ่ อย่างเช่น รถแบคโฮ ไปช่วยพี่น้องภาคเหนือตอนบน แต่ปรากฏว่าขากลับถูกด่านชั่งน้ำหนักที่จังหวัดพะเยา จับแล้วก็ปรับ ดำเนินคดี ยังไม่ทราบว่า รถที่ขนเจ็ตสกี รถของหน่วยงานมูลนิธิต่างๆ รวมถึง รถทหาร นั้นโดนจับด้วยหรือไม่อย่างไร จึงขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการและตรวจสอบด้วย
นายปกรณ์ ยังฝากถึงกระทรวงศึกษาธิการว่า ขอให้ทบทวนนโยบายเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างลูกจ้างชั่วคราว มาเป็น สัญญาจ้างแบบจ้างเหมาบริการ ตามโครงการคืนครูให้นักเรียน ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2552 ของ กระทรวงศึกษา ซึ่ง ครู ที่เป็น ครูอัตราจ้าง นั้น ได้รับผลกระทบ คือจะไม่สามารถได้รับประกันสังคมเหมือนเดิม และ ไม่สามารถเก็บชั่วโมงการทำงาน เพื่อสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู ในกรณีเป็นพิเศษได้ รวมถึงจะไม่ได้รับสิทธิ์ การลาเหมือนเดิม ก็คือ ถ้าลา ก็จะไม่ได้รับค่าตอบแทน