”วิสุทธิ์“ บอกไม่รู้ตอนนี้ “พิศาล” อยู่ไหน วิปรัฐบาลไม่มีหน้าที่ตามจับใคร ยันไม่ได้ปกป้อง แต่ต้องยึดตามรธน. ระหว่างสมัยประชุม ห้ามจับกุมคุมขัง สส. เว้นแต่สภาฯ อนุญาต ข้องใจเจตนา “โรม” ชงกระทู้ปมตากใบเพื่ออะไรหวั่นทำสังคมแตกแยก
วันที่ 4 ต.ค. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึง กรณีศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กรณีไม่ไปขึ้นศาลพิจารณาคดีเหตุการณ์สลายการชุมนุม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปี 2547 ว่า เมื่อเดือนที่แล้วทราบว่าพล.อ.พิศาล ไปรักษาตัวอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่ทราบว่าไปที่ไหน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 บัญญัติไว้ชัดเจน ว่าช่วงของการประชุมสภา การจับกุมคุมขัง ประธานสภาฯ จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อให้สภาฯอนุมัติก่อน ถึงจะจับได้ แต่พล.อ.พิศาล ไปต่างประเทศก่อนหน้านี้แล้ว และไม่ได้อยู่ในสภาฯ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นพล.อ.พิศาล หรือใครก็แล้วแต่ ถ้าอยู่ในประเทศไทย ก็ไม่สามารถจับกุมคุมขังได้ ต้องขออนุญาตก่อน เว้นเสียแต่ว่าคนนั้น ถูกฟ้องแล้วไปมอบตัวแล้ว และประกันตัวออกมาแล้ว ศาลสามารถเรียกได้
“วันนี้ผมไม่ทราบท่านพิศาลไปอยู่ที่ไหน เขาไม่ได้บอกผม ผมมีหน้าที่เป็นวิป ก็ตามสส.มาลงคะแนน แต่เรื่องการดำเนินการทั้งหมด ผมคิดว่าอยู่ในอำนาจของศาลแล้วว่าจะพิจารณาอย่างไร ผมไม่ได้เอารัฐธรรมนูญมาอ้างเพื่อที่จะปกป้องท่านพิศาล ไม่ว่าใครไม่สามารถจะยิ่งใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ เพราะเป็นกฎหมายสูงสุดที่จะต้องยึดตามนี้ ดังนั้นถ้าใครทำนอกเหนือก็ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญ และตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่จะช่วยใคร เพราะบัญญัติไว้แบบนี้ ซึ่งพูดถึงหลักการไม่ใช่ท่านพิศาลเพียงคนเดียว หากอยู่ในระหว่างสมัยประชุมสภาฯ การจับกุมคุมขัง ต้องผ่านสภาฯก่อน” นายวิสุทธิ์ กล่าว
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เกี่ยวกับคดีตากใบเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ถ้ามองการอภิปราย ในฐานะคนนับถือศาสนาพุทธ ตนก็รับไม่ได้ เพราะต้องดูว่าพูดไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา และการออกหมายจับพล.อ.พิศาล ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม การที่เอามาปั่นในสภาฯ แล้วด่ากันอย่างนั้น มันดีหรือไม่ และก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ตากใบ ต้องดูว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง บางทีคนที่เกิดหลังเหตุการณ์ที่ผ่านมา 20 ปี ฟังแล้วอาจเกิดความแตกแยก
“วันนี้ควรพูดเรื่องแก้ปัญหาปากท้อง เรื่องน้ำท่วมก่อนดีหรือไม่ ในเมื่อศาลออกหมายจับแล้วก็ต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม เราไม่มีหน้าที่ไปจับใครและไม่ควรที่จะไปแทรกแซง เวลาอภิปราย ก็ไม่ควรทำถึงขั้นทำให้คนฟังสับสน จริงๆ ผมชื่นชมนายรังสิมันต์ แต่ก็ไม่ทราบว่าถามไปเพื่ออะไร เพื่อที่จะให้คะแนนเสียง หรือเกิดความแตกแยกในประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ไม่อยากให้เรื่องนี้ลุกลามบานปลายเพราะจะเกิดความเสียหายได้ อย่าไปกลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะเสียหาย เพราะเรื่องนี้ผ่านมานานแล้วไม่อยากรื้อฟื้น ซึ่งเป็นความเจ็บปวดของทุกฝ่าย ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น”นายวิสุทธิ์ กล่าว