“เทพไท” แนะเลิกโครงการดูงานของนักการเมือง-ขรก. มากกว่าเลิกทัศนศึกษาของเด็ก แฉผลาญงบแต่ละปีร่วมพันล้าน บอก “อย่าคิดรังแกเด็ก มันบาป”
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช กล่าวถึงประเด็นดรามา เรื่องควรจะยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียนหรือไม่ หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสนักเรียนโรงเรียนเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี จนนำมาเป็นประเด็นถกเถียงกัน จนเกิดความเห็นออกเป็น 2 ฝ่าย คือ
1. ฝ่ายที่เห็นควรว่ายกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน จะอ้างเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของนักเรียน และการประหยัดค่าใช้จ่าย 2. ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนให้มีโครงการศึกษาดูงานต่อไป ก็เห็นว่า เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน เป็นการส่งเสริมทักษะของนักเรียน และเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนที่พ่อแม่ไม่สามารถนำไปศึกษานอกสถานที่ได้
ส่วนตัวสนับสนุนให้มีโครงการทัศนศึกษาของนักเรียนต่อไป การยกกรณีตัวอย่างเหตุไฟไหม้รถบัสของนักเรียนมาศึกษาดูงานที่เกิดขึ้นนั้น เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากสภาพของรถบัส หรือปัญหาของการเดินทาง เปรียบเสมือนการขึ้นต้นไม้เพื่อเก็บผลไม้ เมื่อพลัดตกลงมา จะไปโค่นต้นไม้ทิ้ง ก็เห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ควรจะแก้ปัญหาต้นตอของปัญหาจริงๆ ไม่ใช่มาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ใครก็ตามที่มีแนวความคิดจะยกเลิกการทัศนศึกษาดูงานของนักเรียน ก็ควรไปยกเลิกโครงการศึกษาดูงานต่างประเทศของสส.หรือ สว. และข้าราชการผู้บริหารระดับสูงให้ได้เสียก่อน เพราะการศึกษาดูงานต่างประเทศของ สส.ผ่านคณะกรรมาธิการสามัญ จำนวน 35 คณะ งบประมาณเฉลี่ยคณะละ 8-10 ล้านบาท เป็นเงินงบประมาณ 350 ล้านบาท
ส่วนคณะกรรมาธิการสามัญของสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 21 คณะ งบประมาณเฉลี่ยคณะละ 8-10 ล้านบาท รวมงบประมาณ 210 ล้านบาท รวมแล้วใช้งบประมาณ 560 ล้านบาท ถ้ารวมกับงบประมาณศึกษาดูงานต่างประเทศของผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวง ทบวง กรม อีกจำนวนหลายร้อยล้าน รวมๆ แล้วงบประมาณนับ 1000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินอย่างมหาศาล น่าจะนำเงินเหล่านี้มาอุดหนุนโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน เพื่อปรับปรุงโครงการให้ได้รถบัสที่มีคุณภาพสูงในการเดินทาง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
“ถ้าจะยกเลิกโครงการทัศนศึกษาของนักเรียน ต้องไปยกเลิกโครงการทัศนศึกษาดูงานต่างประเทศของ สส., สว. และผู้บริหารระดับสูงของหน่วยราชการให้ได้เสียก่อนจะดีกว่า ถ้ายกเลิกไม่ได้อย่าคิดมารังแกเด็กเลย มันบาป” นายเทพไท กล่าว