รมว.ศธ.แถลงสะอื้นน้ำตาคลอ สั่งด่วนงดทัศนศึกษาทันที ถ้าจำเป็นให้ดูงานในจังหวัดแทน แบ่งเด็กเล็กและเด็กโต หากไปต้องเพิ่มครูหรือให้ผู้ปกครองเดินทางไปด้วย สั่งตรวจสภาพรถก่อน ขณะ ก.ศึกษาจะไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วัน
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.67 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ แถลงถึงเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ ทำให้มีครูและนักเรียนเสียชีวิต 23 รายว่า ตอนนี้นักเรียนที่บาดเจ็บดีขึ้นแล้ว ยังเหลือนักเรียนอีก 2 ราย ที่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ ส่วนครูที่บาดเจ็บ 3 รายกลับบ้านได้แล้วเช่นกัน
ส่วนนักเรียนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ปกครองก็มารับกลับไป 35 ราย และอีกบางส่วนกระทรวงคมนาคมได้จัดรถพาส่งกลับบ้าน โดยนายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายกฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเข้ามาช่วยเหลือ
“ ส่วนที่เห็นบางคนยิ้มแย้มนั้น สถานการณ์ขณธนั้นเจ็บปวดกันทุกคน แต่เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับน้องนักเรียนและครูที่ประสบเหตุซึ่งกำลังขวัญเสียมาก เราจึงพยายามยิ้มแย้มดึงจิตเขากลับมา พร้อมหากิจกรรมให้ทำเขียนการณ์ตูน เล่นของเล่น ขอฝากโซเชียลให้เข้าใจ ว่าทำไมยิ้มแย้ม ซึ่งความจริงปวดร้าวกันจะตาย” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว พร้อมกับกลั้นสะอื้นน้ำตาคลอและนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว ในส่วนของสพฐ.จะดูแลในส่วนสิทธิประโยชน์ของครูที่เสียชีวิต ก็จะพิจารณาในเรื่องเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ปรับขึ้นมาประมาณ 3 ขั้น รวมทั้งเรื่องการประกันภัย พร้อมสั่งการให้สพฐ.เป็นเจ้าภาพรับบริจาคเงินที่ประชาชนอยากจะช่วยเยียวยา เป็นค่าปลงศพ จัดตั้งทุนค่าดูแลบุพการีด้วย ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตว่าเด็กคนไหนคือใครมีการดำเนินการที่รวดเร็ว ซึ่งก.ศึกษาธิการได้จัดที่พักให้ผู้ปกครอง ยืนยันว่าเราพยายามดูแลเต็มที่ นอกจากนี้คุรุสภาจะพิจารณาการประกาศเกียรติคุณครูที่ดูแลเด็กๆ
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องทัศนศึกษาสั่งการให้งดการทัศนศึกษาทันที หากมีความจำเป็นให้ไปดูแลมาตรการความปลอดภัย โดยต้องแบ่งเด็กเล็กและเด็กโต เด็กเล็กคือ ที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้ หากไปต้องเพิ่มครูหรือให้ผู้ปกครองเดินทางไปด้วย พยายามหลีกเลี่ยง โดยเด็กเล็กอาจดูงานในจังหวัดแทนไม่ออกไปนอกจังหวัด เพราะการทัศนศึกษาก็มีความจำเป็นในการเรียนรู้ หากห้ามเลยจะเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้
“ เหมือนเขาว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เราปิดโลกไม่ได้ อยู่กับบ้านเฉยๆไม่เกิดประโยชน์ การทัศนศึกษาถ้าจำเป็นก็ต้องมาดู เช่น พิพิธภัณฑ์ ท้องฟ้าจำลอง ไม่มาเป็นก็ไม่รู้ สิ่งไหนจำเป็นก็ไป ซึ่งกำชับว่ารถต้องวิ่งใช้ความเร็วตามกฏหมาย และต่อไปเรื่องรถคุณครูต้องไม่ดูเอง กรมการขนส่งต้องเข้ามาช่วยดู เช่นการตรวจสอบสภาพรถ สภาพยาง และจะไปดูว่ารถที่ไปทัศนศึกษาอาจจะไม่เกิน 5 ปี เป็นต้น ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า พร้อมกำชับให้ไปดูในเรื่องยานพาหนะที่จะใช้ในการทัศนศึกษา โดยให้ประสานขนส่งเข้ามาตรวจสอบสภาพรถเป็นกรณีไป ว่ารถมีความพร้อมหรือไม่ ดูทั้งเรื่องยางและรถ สิ่งที่ต้องดำเนินการเลยคือการซ้อมเผชิญเหตุเพื่อป้องกัน ความจริง สพฐ.สั่งการไปแล้ว แต่ครั้งนี้แค่มาย้ำว่าต้องดำเนินการเพิ่มเติมไม่ให้เกิดขึ้นอีก
“สิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก อาจเป็นอุบัติเหตุหรือคาดไม่ถึง ขอให้ช่วยกัน เราจะไม่โทษใครผิดใครถูก อย่าซ้ำเติมกับบุคคล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอาจจะมีการสูญเสียเพิ่มเติมอีก ขอให้ทุกคนช่วยกันให้กำลังใจ ฟื้นฟูให้เด็กและครูเข็มแข็ง ส่วนเรื่องคดีให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับผู้ป่วยทุกคนจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของ รร.วัดเขาพระยาสังฆาราม ไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ส่วนเรื่องเด็กและครูที่เสียชีวิตนั้น ก.ศึกษาธิการ จะขอพระราชทานเพลิงศพในการดำนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการคำสั่งงดทัศนศึกษามีกรอบเวลานานเท่าไหร่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ถ้าไม่จำเป็นให้งดก็งดยาวเลย แต่ถ้าจำเป็นเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาก็ไปต้องมีมาตราการการเดินทางว่าจะเดินทางอย่างไร อย่าให้เด็กช้ำเหนื่อยมาก โดยผอ.โรงเรียนต้องดูเรื่องความปลอดภัย ส่วนเขตการศึกษาก็ต้องเข้าไปกำกับ ซึ่งตนสั่งในภาพรวมทั้งหมด รวมถึงคุณครูไปเองด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตรวจสอบเบื้องต้นสาเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง อย่าเพิ่งรื้อฟื้น ตอนนี้เราเสียใจกันทั้งหมด ตนเชื่อว่าทุกคนทำเต็มความสามารถ ปราถนาดี ทั้งผอ.โรงเรียน ครู นักการภารโรง อย่าซ้ำเติมกันไม่โทษว่าใครผิดใครถูกเพราะอาจจะสูญเสียเพิ่มเติม แต่เมื่อผิดพลาดเราก็มาแก้ไข เราต้องเข้มแข็งดูแลฟื้นฟูเด็กและครูที่ตกใจ แต่จากนี้ไปใครผิดถูกก็เป็นหน้าที่ของตำรวจทั้งเรื่องสภาพรถต่างๆ
“ถ้าไม่จำเป็นสั่งยาวเลย ไม่จำเป็นไม่ต้องไป ถ้าจำเป็นต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซ้อมแผน สำรวจเส้นทางก่อนดำเนินการ ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว เมื่อถามว่าการงดทัศนศึกษารวมถึงการงดเข้าค่ายลูกเสือด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ลูกเสือเข้าค่ายเป็นเรื่องจำเป็น
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ขอบคุณสื่อที่ไม่เผยแพร่ภาพเด็ก เสนอข่าวตรงไปตรงมาไม่สร้างมิติเชิงลให้สังคม ขอบคุณทุกภาพส่วน ซึ่งก.ศึกษาธิการแสดงความเสียใจและไว้อาลัยโดยการไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วัน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำบุญให้ผู้เสียชีวิต และผู้ที่รักษาที่รพ.อีก 2 คนให้ปลอดภัย
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า ในอนาคตก.ศึกษาจะให้การศึกษานักเรียนเรื่องแผนเผชิญเหตุ มาตรการการเอาตัวรอด ไม่ใช่เฉพาะแค่ในรถ จะซักซ้อมการเกิดเหตุในโรงเรียน กรณีมีคนร้ายเข้ามาจะหลบหนีอย่างไร ไฟไหม้ น้ำท่วมอพยพขึ้นที่สูงอย่างไร
