ป.ป.ช.ภาค 4 รวบอดีตหัวหน้าส่วนการคลัง อบต.พระซอง จ.นครพนม ทุจริตปลอมเอกสารเบิกค่าอาหารกลางวันศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เสียหาย 300,000 บาท
วันนี้ (2 ต.ค.67) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการ เปิดเผยว่า วานนี้(1ต.ค.)ได้มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 และงานสืบสวน สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม ทำการจับกุมนางศิวานันท์ วงศ์คำจันทร์ หรือนางศิรดา วงศ์คำจันทร์ หรือนางนพรัตน์ ดวงลาปา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ.76/2563 ลงวันที่ 6 ก.ค.64 ซึ่งต้องหาว่าเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของ ผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 ซึ่งสามารถดำเนินการจับตัวได้ในพื้นที่ ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม
โดยนางศิวานันท์ หรือนางศิรดา วงศ์คำจันทร์ หรือนางนพรัตน์ ดวงลาปา บุคคลตามหมายจับ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนการคลัง องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)พระซอง อ.นาแก จ.นครพนม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 อบต.พระซอง (ปัจจุบันยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลพระของ) ได้จัดซื้อวัสดุคอมพิวเตอร์ เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท หักภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% ยอดเงินที่เบิกจริง 5,940 บาท โดยอบต.พระซอง ได้จัดทำฎีกาเบิกเงินตามงบประมาณรายจ่าย ปีงบประมาณ 2551 ประเภทค่าวัสดุ คอมพิวเตอร์ เพื่อเบิกเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานาแก เป็นค่าวัสดุคอมพิวเตอร์ 5,940 บาท โดยไม่มีการขีดคร่อมหรือขีดฆ่าคำว่าผู้ถือออก โดยมีอดีตนายกอบต.พระซอง อดีตปลัดอบต.พระซอง และนางศิวานันท์ฯ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามในการสั่งจ่ายเช็ค ร่วมกัน ลงนามในการสั่งจ่ายเช็คฉบับดังกล่าว ต่อมานางศิวานันท์ฯ ได้แก้ไขต้นขั้วเช็ค และเพิ่มข้อความว่า “เงินอุดหนุน อาหารกลางวัน” กับเติมตัวเลข “30” ลงหน้าจำนวนเงิน 5,940 บาท เป็น 305,940 บาท แต่ตัวเช็คที่นำไปเบิกเงินสด จากธนาคารระบุจ่ายร้านค้าเอกชนเป็นค่าวัสดุคอมพิวเตอร์เพียงรายการเดียว โดยได้นำเช็คฉบับดังกล่าวไปมอบให้ เพื่อนของตนซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับร้านค้าเอกชนหรือการจัดทำอาหารกลางวันเป็นผู้นำเช็คไปเบิกเงินธนาคารแล้ว นำเงินไปมอบให้นางศิวานันท์ฯ จำนวน 305,940 บาท โดยนางศิวานันท์ฯ ได้นำเงินจำนวน 5,940 บาท ไปจ่ายค่า วัสดุคอมพิวเตอร์ และเบียดบังเงินจำนวน 300,000 บาท ไปเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือของผู้อื่น และไม่มีเอกสารเกี่ยวกับ การเบิกจ่ายเงินค่าอาหารกลางวันตั้งแต่ขั้นตอนการขออนุมัติจัดทำโครงการที่เสนอต่อผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ อนุมัติและไม่มีเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างทุกขั้นตอน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การ บริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งไม่มีเอกสารประกอบฎีกา แต่นางศิวานันท์ฯ ได้ร่วมกับ อดีตนายกอบต.พระซอง อดีตปลัดอบต.พระซอง ร้านขวัญใจพาณิชย์ และเพื่อนของตนซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลพระซอง ร่วมกัน ปลอมเอกสารหรือทำเอกสารเท็จเบิกค่าอาหารกลางวันของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดอบต.พระซองจำนวน 6 ศูนย์ โดยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเงินจำนวน 300,000 บาทไปเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือของผู้อื่น โดยร่วมกระทำความผิดในลักษณะแบ่งงานกันทำตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละบุคคล การกระทำดังกล่าวจึงเป็นเหตุ ให้เกิดความเสียหายแก่อบต.พระซอง
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ทำ การสืบสวนจนทราบว่านางศิวานันท์ หรือนางศิรดา วงศ์คำจันทร์ หรือนางนพรัตน์ ดวงลาปา ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ.76/2563 ลงวันที่ 6 ก.ค.64 ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม จึงได้วางแผนลงพื้นที่สืบสวนและติดตาม บุคคลตามหมายจับรายดังกล่าว โดยประสานงานสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม และงานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรนาแก เพื่อวางแผนและร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยวันที่ 1 ต.ค.67 เวลา 01.30 น. ได้พบนางศิวานันท์ฯ อยู่ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ.76/2563 ลงวันที่ 6 ก.ค.64 ให้นางศิวานันท์ฯ ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว นางศิวานันท์ฯ รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน กับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิ แจ้งพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด และแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบดีแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัว ไปที่สถานีตำรวจภูธรนาแก เพื่อบันทึกการจับกุม และจักได้นำตัวส่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป