ถึงคิวเรียกดารา-อินฟลูฯ โยง"แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ขบวนยาวเหยียด "แน็ก-กามิน" -พิงกี้-ใบเตย ตัวตึงโซเชียลเพียบ! ** “เด็จพี่”รุกหนัก “ลุงป้อม” ทำเอา“เฉลิม-พิศาล”พลอยหนาวไปด้วย

ข่าวปนคน คนปนข่าว

 
++ ถึงคิวเรียกดารา-อินฟลูฯ โยง"แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ขบวนยาวเหยียด "แน็ก-กามิน" -พิงกี้-ใบเตย ตัวตึงโซเชียลเพียบ!

ผลจาก "แม่ตั๊ก" กรกนก สุวรรณบุตร กับ "ป๋าเบียร์" กานต์ เรืองอร่าม เจ้าของธุรกิจอาหารเสริม และห้างเพชรทองเคทูเอ็น ถูกดำเนินคดีในพฤติกรรมไลฟ์สดขายทอง คนที่เคยร่วมงาน หรือถูกว่าจ้างให้มาช่วยโฆษณา-ไลฟ์สด ก็กำลังร้อนๆ หนาวๆกันเป็นแถบ 
เพราะข้อหาที่ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ถูกแจ้งนั้น มีตั้งแต่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ บิดเบือนนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสินค้า โฆษณาที่มีข้อความอันเป็นเท็จ 

 


ต้องยอมรับว่า การตลาดของ “แม่ตั๊กและสามี” เน้นสร้างกระแสผ่านโซเชียลฯ ใครเด่น ใครดัง ใครมีแสงในโซเชียลฯเป็นต้องว่าจ้างมาเพิ่มแสง เพิ่มความแรง ในการไลฟ์สดขายทอง

กวาดสายตาแล้วนับนิ้วดูจำนวนเหล่าดารา-อินฟลูเอ็นเซอร์ และคนดังทั้งหลายที่โยง “แม่ตั๊กกับป๋าเบียร์” มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

ขุ่นแม่"ลีน่าจัง" นั้นรู้กันไปแล้ว ยังมี "แน็ก ชาลี-กามิน" สมัยยังเป็นคู่จิ้น รับงานคู่ก็มา

ขบวนดารานักแสดงก็อย่างเช่น พิ้งกี้ สาวิกา, แพท ณปภา, ไอซ์ ปรีชญา, โม อมีนา-แอนนา วรินทร, เปิ้ล ไอริณ ,แก้มบุ๋ม ปรียาดา ,ชาล็อต ออสติน , อุ้ม ทวีพร...

นักร้องก็มีอย่าง ใบเตย อาร์สยาม , เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น, จ๊ะ นงผณี ,แพรวพราว แสงทอง

ตลก ก็มี บอล เชิญยิ้ม และ แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ยังกวาดต้อนบรรดาคนดัง-ตัวตึง อินฟลูเอนเซอร์ ขาประจำโซเชียลฯ อย่าง แจ็กแปปโฮ, นารา เครปกะเทย, เก่ง ลายพราง ,ลิลลี่ เหงียน, หนูรัตน์-ครูไพบูลย์, ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์, เนสตี้ สไปร์ทซี่, เจ๊แมน เตี๋ยวกะเทย , เจ๊แขก แหกปาก, เจ๊นุช บางเตย, กระทั่ง เจ๊กบ บางลำภู แม่ค้าอาหารตามสั่ง ก็ยังมี

ข่าวว่า ตำรวจ ปคบ. เตรียมเรียก ดารา อินฟลูเอ็นเซอร์คนดัง ที่มีภาพและคลิปโยงร่วมไลฟ์สดขายทองออนไลน์เข้าสอบปากคำ
งานนี้เพื่อพิสูจน์ทราบได้ร่วมกันเจตนาโฆษณาสินค้าที่มีข้อความอันเป็นเท็จ "ไม่ตรงปก" หรือไม่ !!

บันเทิงล่ะทีนี้ ต่อไปใครรับงานอะไรเช็กให้ละเอียดหน่อยก็ดี หากรับไม่เลือก สุ่มสี่สุ่มห้า ระวังจะได้ข้อหาตามมาภายหลังได้นะจ๊ะ






++ “เด็จพี่”รุกหนัก “ลุงป้อม” ทำเอา“เฉลิม-พิศาล”พลอยหนาวไปด้วย

ช่วง1 เดือนที่ผ่านมา “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ลงสมัครสส. เพราะเจอโทษจำคุก ได้ออกมาเคลื่อนไหวแบบจัดหนัก “ลุงป้อม” ตั้งแต่เรื่องคลิปเสียง ตามาด้วยเรื่องโดดร่ม ไม่เข้าประชุมสภา ลาลูกเดียว บางสมัยประชุม ลาแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

วันก่อนก็เพิ่งไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอข้อมูลว่า วัน ว. เวลา น. ที่ “ลุงป้อม” ยื่นใบลากิจ บอกว่าเดินทางไปต่างประเทศนั้น ได้ไปจริงหรือเปล่า

ซึ่งข้อมูลก็ไม่รู้ว่าทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะกล้าให้หรือเปล่า แม้ “เด็จพี่” จะยกเอาพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ 2540 มาอ้าง แต่มันก็เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มี พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 คุ้มครองอยู่

เมื่อโดนรุกหนักเรื่องโดดร่ม ไม่ไปประชุมสภา ล่าสุด “ลุงป้อม” ก็ประกาศว่า จะไม่รับเงินเดือน และเงินเพิ่มของสส. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67 ไปจนสิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง สส. แถมเงินเดือน เงินเพิ่มของสส.ทั้งหมดที่ได้รับตั้งแต่เป็น สส. มาถึงวันที่ 30 ก.ย.67 ก็จะคืนให้ด้วย

จะได้ตัดปัญหาว่าอยู่ไปก็ผลาญภาษีประชาชนเปล่าๆ

ว่าไปแล้ว การจะอยู่หรือไปในตำแหน่งส.ส.ของ “ลุงป้อม” ในตอนนี้ คงไม่มีผลในทางการเมืองมากนัก เพราะไม่ได้มีบทบาทอะไรในรัฐบาล ยิ่งบทบาทฝ่ายค้านยิ่งไม่มีใหญ่

แต่มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ของคนระดับ “พี่ใหญ่ บูรพาพยัคฆ์” จะมาถูกคนอย่าง “เด็จพี่” กดดันให้ออกจากสภาฯ มันน่าแค้นไหมล่ะ

ความจริงแล้ว ตามวิถีการเมือง พรรคเพื่อไทยเอง ก็ยังไปไม่สุดกับกรณีของ “ลุงป้อม” เพราะถ้าจะไปให้สุดจริงๆ ก็สามารถใช้ช่องทางตาม มาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบ เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพความเป็น สส.ของ “ลุงป้อม” สิ้นสุดลงหรือไม่

แต่อย่างว่า พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีความจำเป็นต้องเล่นใหญ่ไปถึงขนาดนั้น

เพราะถ้าจะเอาเป็นเอาตายอย่างที่ว่าจริง เรื่องมันก็จะย้อนกลับมาที่พรรคเพื่อไทยได้ เพราะมี สส.ระดับผู้อาวุโสของพรรคที่ “โดดร่ม” เป็นอาชีพอยู่เหมือนกัน อย่างเช่น “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองหัวหน้าพรรค หรือแม้แต่ “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” สส.บัญชีรายชื่อ

ในรายของ “ร.ต.อ.เฉลิม” นั้น แม้ล่าสุดจะมีมีปัญหากับพรรคเพื่อไทย เพราะไปขัดใจนายใหญ่แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า แม้อยู่ไปก็จะรำคาญใจ แต่ถ้าขับออกไป ก็เท่ากับไปเติมเสียงเติมเสียงให้กับพรรคพลังประชารัฐที่เป็นฝ่ายค้าน วันดีคืนดี “ร.ต.อ.เฉลิม” อาจจะมาเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯแพทองธาร ก็เป็นได้

ส่วน “พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” นั้นคืออดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กำลังตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดี สลายการชุมนุมในเหตุการณ์ “ตากใบ” ตายกว่า 100 ศพ มรดกบาปในยุคที่ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้
แม้รัฐธรรมนูญ จะเปิดโอกาสให้กระบวนการยุติธรรม นำตัว สส.รายนี้ไปดำเนินคดีได้ แต่ในทางปฏิบัติก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการ อย่างจริงจัง

อีกทั้งแทบไม่มีใครพบว่า “พล.อ.พิศาล” ได้มาปฏิบัติหน้าที่ สส.ในสภาหรือไม่ ซึ่งเป็นอีกคนที่มีความเสี่ยงว่า น่าจะหลุดจากเก้าอี้ ด้วยเหตุผลเดียวกัน

การที่พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาตรวจสอบการ “ขาด-ลา-มาสาย” ของส.ส.นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะทุกวันนี้ ส.ส.ได้รับเอกสิทธิ์ อภิสิทธิ์ และความสะดวกสบายเกินมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งจะได้รับแล้ว ตั้งแต่เงินเดือนหลักแสน การเบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน อาหารฟรีสามมื้อ ที่จอดรถ การศึกษาดูงานต่างจังหวัด และต่างประเทศ ยังไม่นับบรรดาข้าราชการที่ทำหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่

ดังนั้น เมื่อคนของพรรคเพื่อไทย ออกมาตรวจสอบคนอื่น ก็ควรออกมากวาดบ้านตัวเองด้วย