เมืองไทย 360 องศา
เริ่มเป็นจริงเป็นจังกันแล้วสำหรับโครงการ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่มีการลงทุน “บ่อนการพนัน” รวมอยู่ในนั้นด้วย โดยล่าสุดมีการตั้งคณะกรรมการที่มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ขึ้นมาดำเนินการแล้ว โดยเตรียมผุด “บ่อนคลองเตย” ซึ่งเป็น 1 ใน 8 บ่อนเป้าหมายทั่วประเทศ
สำหรับคณะกรรมการดังกล่าวที่ได้รับแต่งตั้ง เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมา มีชื่อว่า คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) โดยให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งนอกเหนือจาก นายสุริยะ ที่เป็นประธานแล้ว ยังมีกรรมการคนอื่นๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 22 คน ดังนี้
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รองประธานคณะกรรมการ คนที่ 1 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รองประธานคณะกรรมการคนที่ 2 เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรรมการ ปลัดกระทรวงคมนาคม กรรมการ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านขนส่ง กรรมการ นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการท่าเรือแห่งประเทศไทย กรรมการ พลตำรวจตรีอุกฤษฏ์ ศรีเสือขาม ที่ปรึกษาประธานกรรมการการท่าเรือประเทศไทย กรรมการ นายโชติชัย เจริญงาม ที่ปรึกษาประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กรรมการ นายปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาประธานกรรมการท่าเรือแห่งประเทศไทย กรรมการ อธิบดีกรมธนารักษ์ กรรมการ
อธิบดีกรมศุลกากร กรรมการ อธิบดีกรมเจ้าท่า กรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรรมการ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กรรมการ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กรรมการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กรรมการ ผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กรรมการ ผู้แทนกรุงเทพมหานคร (กทม.) กรรมการ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ กรรมการ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กรรมการ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม กรรมการ
โดยคณะกรรมการชุดนี้ กำหนดให้มีอำนาจหน้าที่ เช่น ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ตามผลการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 โดยคำนึงถึงความเหมาะสมในทุกมิติ และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ปัญหาชุมชนแออัด ปัญหาการจราจร และปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง และจัดทำแผนใช้ประโยชน์ท่าเรือกรุงเทพ ให้เหมาะสมกับสภาพทางกายภาพของเมือง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศในภาพรวมอย่างยั่งยืนเป็นต้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในการแถลงข่าวเนื่องในการเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการที่กระทรวงคมนาคม ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่มี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีนโยบายปรับปรุงพื้นที่ท่าเรือคลองเตยให้มีประสิทธิภาพเอื้อต่อการขนส่งทางน้ำ และระบบโลจิสติกส์ โดยท่าเรือคลองเตย มีเนื้อที่ทั้งหมด 2,353 ไร่ จึงให้เน้นถึงการบริหารท่าเรือสำหรับ สินค้าถ่ายลำ (Transshipment) แต่ในบางพื้นที่ไม่สามารถทำให้เกิดรายได้หรือมูลค่าได้ จึงมีการแบ่งพื้นที่และเซกชันว่าจะบริหารพื้นที่ท่าเรือคลองเตยอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์ ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) มีแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) อยู่แล้ว
โดย นางมนพร ยอมรับว่า เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น เป็นนโยบายรัฐบาล ซึ่งหลายคนอาจมองว่าการย้ายท่าเรือคลองเตย ไปเพื่อเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือไม่ ต้องบอกว่าตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ซึ่งท่าเรือคลองเตยเป็นหนึ่งในเป้าหมาย แต่จะไม่ได้ใช้พื้นที่ทั้งหมดทำ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
“ขณะนี้กฎหมายเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยังไม่ได้ผ่านเป็นกฎหมายจากรัฐสภาแต่อย่างใด และเนื่องจากนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นหนึ่งในนโยบายที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะแถลงต่อที่ประชุมสภาฯ ดังนั้น หลังการแถลงนโยบายแล้วก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมร่วมกันก่อน เพราะไม่ได้มีแค่กระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้อง มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท้ายที่สุดนายกฯ แพทองธาร จะต้องพิจารณาตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องนี้อย่างโปร่งใส และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกหน่วยงาน” นางมนพร กล่าว
อย่างไรก็ดี การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่อง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือที่เรียกว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” เริ่มเดินมาตั้งแต่ยุคที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เคยมีข้อสั่งการเป็นหนังสือของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ที่ นร.0505/ว(ล) 7421 ลงวันที่ 4 เม.ย.67 เรื่อง การพัฒนาพื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 เม.ย.67
และหากจำกันได้ นโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็น 1 ใน 14 วิสัยทัศน์ “เร่งด่วน” ของรัฐบาล ที่ประกาศโดย นายทักษิณ ชินวัตร ที่ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในรัฐบาล เรียกว่า เป็นครอบครองนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และต่อมาก็มีการนำนโยบายดังกล่าวแถลงต่อรัฐสภา
ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการผลักดันให้เกิดขึ้น และที่ซ่อนอยู่ในนั้นก็คือ “บ่อนการพนัน” ที่ถูกกฎหมาย อ้างว่าเพื่อสร้างเม็ดเงิน กระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างรายได้มหาศาล โดยก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎรเคยมีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาศึกษาสนับสนุน และรายงานข้อสรุปเสนอต่อรัฐบาลได้พิจารณา จนในที่สุดก็นำไปสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นจริงเป็นจัง และเป็นเรื่อง “เร่งด่วน” ในเวลานี้
ขณะเดียวกันเรื่อง “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” หรือ การเปิดบ่อนถูกกฎหมาย แม้จะอ้างว่านำขึ้นมา “บนดิน” สร้างรายได้เข้ารัฐก็ตาม แต่เรื่อง “บ่อน” ก็เป็นเรื่องของ “อบายมุข” เป็นแหล่งการพนัน ได้ไม่คุ้มเสีย จนมีการตั้งคำถามว่าการพัฒนาโดยไม่มีบ่อนการพนันแบบนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งการเปิดบ่อนถูกกฎหมายดังกล่าวหลายคนยังเชื่อว่าภายในประเทศก็ยังมี “บ่อนใต้ดิน” เหมือนเดิม มีเจ้าหน้าที่ทุจริต รับส่วยอยู่เช่นเดิม แต่สิ่งที่ได้ก็คือ “มีบ่อนการพนันเพิ่มขึ้นมา” เท่านั้นเอง
ดังนั้น จากความเคลื่อนไหวข้างต้นถือว่า เรื่อง “บ่อนการพนัน” รับรองว่ารัฐบาลเดินหน้าเต็มตัวแล้ว ส่วนจะมีการเปิดเผยให้ชัดเจนให้สังคมได้รับทราบอย่างจริงจังเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอจังหวะ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เสี่ยงต่อการถูกต่อต้านสูงมาก หากเหตุผลไม่เนียนพอ โอกาสพังทั้งขบวนเหมือนกัน !!