“นายกฯอิ๊งค์” ลั่นไม่พร้อมมีเรื่อง บอก “สนธิ” อย่าเพิ่งลงถนนไล่ โอดทำงานได้เดือนเดียว บอกคุยกันก่อนได้ เป็นนายกฯ พร้อมคุยทุกภาคส่วนเพื่อประเทศสงบสุข วอนแนะนำว่าจะให้คุยแบบไหน พูดขำๆ ถ้าเปลี่ยนนามสกุลตั้งแต่ตอนแต่งงาน คงไม่ถูกไล่ใช่ไหม
เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม) ถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า จะระดมมวลชนลงถนนอีกครั้งเพื่อขับไล่รัฐบาล หากบริหารประเทศไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ตรงนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์การเมืองในปีหน้าอย่างไรหรือไม่ว่า "ตนเพิ่งทำงานได้เดือนเดียวเองจะไล่แล้วเหรอ จะไล่แล้วเหรอคะ อย่าเพิ่งไล่เลยค่ะ"
เมื่อถามว่าจาก 3 ข้อ ที่นายสนธิประกาศมานั้น ได้ประเมินหรือไม่ว่าต้องการอะไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่ได้มีโอกาสคุยกับนายสนธิเลย
เมื่อถามว่า พร้อมคุยใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อ๋อพร้อมอยู่แล้วค่ะ วันนี้เราเป็นรัฐบาล เป็นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพูดคุยกับทุกภาคส่วนอยู่แล้ว และอีกอย่างหนึ่งคือการทำให้ประเทศชาติสงบสุขเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าประเทศสงบสุขคนไทยมีความสุข ต่างประเทศก็จะมาลงทุนด้วย ฉะนั้นอันนี้ก็สำคัญ
เมื่อถามว่าที่บอกว่าพร้อมพูดคุยนั้นจะเป็นลักษณะไหน จะเป็นการเดินสายไปคุยหรือการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “แนะนำหน่อยค่ะจะทำอย่างไรดี แนะนำหน่อยค่ะให้ประเทศชาติสงบสุข ช่วยกันด้วย ยังไงดี ได้หมด พร้อม เพราะว่าไม่พร้อมมีเรื่องอยู่แล้ว และไม่คิดที่จะไปสู้อะไรที่มันนอกเหนือจากนี้ จริงๆ แล้วตัวของดิฉันและรัฐบาลโฟกัสในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะเชื่อจริงๆว่าถ้าเศรษฐกิจดีคนไทยมีฐานะที่รวยขึ้นสบายขึ้น ทุกอย่างก็จะดีขึ้น และเราไม่ได้อยากจะมีเรื่องหรืออะไร เพราะเรารู้สึกว่าถ้าประเทศชาติมันดีพร้อมเดินต่อ เศรษฐกิจมันไปนั่นแหละคือสิ่งที่มันรอด อยากให้เป็น”
เมื่อถามว่าการลงถนนขับไล่รัฐบาลมองว่าเป็นการเมืองแบบเก่า ในขณะที่การเมืองวันนี้ เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์แล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ได้คิดเรื่องการลงถนนเลย คิดว่าถ้าจริงๆ ต้องขนาดถึงการลงถนนกันจริงมาคุยกันก่อนก็ได้ ว่าปัญหาคืออะไร และคิดว่าทุกอย่างมันน่าจะคุยกันได้ เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้ความเกลียดชัง หรือความรุนแรงเข้าหา คิดว่าทุกท่านคุยกันได้อยู่แล้ว จริงๆวันนี้ก็เป็นตัวอย่าง เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มาจากหลายพรรค เราก็คุยกันได้
เมื่อถามว่าเป็นเพราะตระกูลชินวัตรมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเปล่า จึงมีการคิดจะลงถนน เพราะนายกฯ ก็เพิ่งจะมา เป็นนายกรัฐมนตรีได้เดือนเดียว และเมื่อถึงสิ้นปีนี้ก็ไม่กี่เดือนเอง น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า งั้นถ้าสมมุติว่าปี 2019 ที่แต่งงานไปถ้าเปลี่ยนนามสกุลอาจจะไม่มีปัญหาใช่ไหม ไม่ทราบเหมือนกันอันนี้ แต่ก็ไม่อยากให้มีเรื่อง ขอบพระคุณทุกท่านมาก ไปแล้วค่ะ จากนั้นนายกฯได้เดินออกจากโพเดียมให้สัมภาษณ์