‘หน.ปชน.’ ชี้ พักแก้มาตรฐานจริยธรรม เหตุหากฝ่ายรัฐบาลไม่เห็นด้วย อาจทำ 6 แพ็กเกจที่เหลือสะดุด เผย หาแนวร่วมหนุนอีก 6 ชุด ยังไม่มีสัญญาณไม่เห็นด้วย คาดดำเนินการได้ช่วง ต.ค.
วันที่ 1 ต.ค.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 7 แพ็กเกจของพรรค ปชน. ที่มีการพักเรื่องมาตรฐานจริยธรรมไป ว่า เรื่องนี้เป็นระบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่เห็นได้ชัดว่า หากจะแก้ไขต้องรับความเห็นตรงกันจากทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นจากฝั่งสว. ฝั่งรัฐบาล หรือฝ่าย แต่สิ่งที่พรรค ปชน.ยืนยันตอนนี้คือเรายืนยันว่ามาตรฐานจริยธรรมมีปัญหาที่เราต้องไปแก้ แต่ตอนนี้ที่พักไว้ก่อนเพียงแค่หากฝ่ายรัฐบาลไม่เห็นด้วย อาจทำให้การเดินหน้าทั้ง 7 แพ็กเกจ อาจจะถูกตีตกไปเลย เราจึงพักประเด็นจริยธรรมไว้ แต่ยังเหลืออีก 6 แพ็กเกจที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เชื่อว่าหากรัฐบาลเห็นตรงกัน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เห็นด้วยกับอีก 6 แพ็กเกจ รวมถึงยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้สองทางควบคู่ไปด้วยกันคือการแก้ไขทั้งฉบับและการแก้ไขรายมาตรา ซึ่งทางพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะได้มีการหารือร่วมกันถึงการผลักดันอีก 6 แพ็กเกจที่เหลือ
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การแก้ไขเรื่องมาตรฐานจริยธรรมนั้น เราแก้ในเชิงระบบไม่ได้แก้ไขมาตรฐานจริยธรรมนักการเมืองเพียงอย่างเดียว และยืนยันว่านักการเมืองควรมีมาตรฐานจริยธรรม เพียงแค่กลไกมาตรฐานจริยธรรมควรเป็นกลไกที่เราตรวจสอบกันภายในองค์กร ไม่ควรถูกผูกขาดจากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทั้งกำหนดกติกาและบังคับใช้เอง ซึ่งอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือ กลั่นแกล้งทางการเมืองในเหตุการณ์ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า จะต้องแสวงหาแนวร่วมเพิ่ม เช่น พรรคภูมิใจไทย (ภท.) หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ว่าพรรคใดก็ตาม หากเห็นประโยชน์ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนในอีก 6 แพ็คเกจที่เหลือของพรรค ปชน. ที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกันทั้งหน้าบ้าน หลังบ้านอยู่แล้ว ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ แต่ยืนยันว่ายังไม่เห็นสัญญาณว่าไม่เห็น แต่อย่างที่ทุกคนเห็นตามหน้าสื่อ เช่น เรื่องมาตรฐานจริยธรรม ที่ก่อนหน้าทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยมาโดยตลอด แต่ท้ายที่สุดก็มีการเปลี่ยนข้อคิดเห็นบ้าง จึงอยากให้ติดตามการประชุม ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก็พูดคุยมาตลอดอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถพูดแทนพรรคอื่นได้ โดย 6 แพ็คเกจนี้ คาดว่าน่าจะดำเนินการได้ในช่วงตุลาคม