วันนี้(29 ก.ย.)ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการ “เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมส่งเสริมสหกรณ์” ครบรอบ 52 ปี ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยมี นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบุคลากรทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กว่า 600 คน เข้าร่วม ณ อาคาร 1 ห้องปรินซ์บอลรูม โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ
โดย ศ.ดร.นฤมล ได้มอบนโยบายเพื่อการพัฒนาสหกรณ์ ว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ถือว่า มีความสำคัญต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างมาก ซึ่งวันนี้ตอนเข้างานมาก็ได้เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมผ่านบูณแสดงผลงานต่าง ๆ ที่ต้องทำกันมานาน ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ปีเดียว ตนเชื่อว่า เป็นการทำงานด้วยจิตสาธารณะที่อยากจะช่วยพี่น้องเกษตรกร เราก็จะได้นำนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ลงไปประสานกับเกษตรกรทั่วประเทศ เพื่อจะทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไปช่วยกันขับเคลื่อนพัฒนา แก้ไขปัญหาให้ภาคการเกษตรที่บ้างเรื่องยังไม่สามารถแก้ไขได้ลุล่วง จึงเป็นปัญหาที่เราต้องร่วมกันแก้ไม่ใช่เฉพาะกรมส่งเสริมสหกรณ์ แต่หมายความรวมถึงกรมอื่น ๆ ในกระทรวงเกษตรฯด้วย ที่ต้องมาช่วยกันทำให้เกษตรกรมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับกระทรวงอื่น ๆ และภาคเอกชนด้วย
“อาจารย์เคยดูแลการตลาดต่างประเทศ รับมอบหมายจากท่านเศรษฐา ทวีสิน โดยได้ดูแลตลาดประเทศจีนและรัสเซียเป็นหลัก รวมถึง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น โดยรัฐบาลทั้งชุดที่แล้วและชุดนี้ให้ความสำคัญกับสินค้าทางการเกษตรเป็นอย่างมาก โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาไปแล้วว่า จะปฎิรูปและยกระดับภาคเกษตรให้ทันสมัย ด้วยแนวคิด "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้"ตอบโจทย์ที่เราอยากจะให้ภาคการผลิตอย่างกระทรวงเกษตรฯ ทำงานร่วมกับภาคที่ดูแลเรื่องการตลาด อย่าง กระทรวงพาณิชย์ หรือ ผู้แทนการค้า จะได้รู้ถึงความต้องการทั้งในและนอกประเทศเป็นสินค้ากลุ่มไหน เพื่อที่กระทรวงเกษตรฯจะได้ไปสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด ได้คุณภาพ และยังได้ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสินค้าล้นตลาดที่จะทำให้ราคาตกต่ำได้“ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ทำงานกันอย่างหนัก ในการดูแลสมาชิกทั้งในและนอกภาคการเกษตรให้มีความเข้มแข็งและมั่นคงทางการเงิน ทางรัฐบาลมุ่งเน้นให้มีการนำเทคโนโลยีด้านการเกษตร เช่น เกษตรแม่นยำ หรือเกษตรอัจฉริยะ มาใช้พัฒนาอาชีพด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง ดึงจุดเด่นของประเทศไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของโลกด้านความมั่นคงทางอาหาร เร่งเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและราคาพืชผลการเกษตร ที่ถือเป็นเทรนด์ของโลกในยุคนี้ที่เราต้องก้าวตาม
“สุดท้ายสิ่งที่อยากจะให้มากที่สุดคือ ร้านค้าสหกรณ์ อยากจะให้มีจำนวนมาก ๆ เหมือนอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ก็หวังว่า พวกเราจะช่วยกันส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาร้านค้าสหกรณ์เพิ่มขึ้น จะได้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรทั้งทางตรงหรือช่องทางออนไลน์ก็ได้ เพื่อที่จะผลักดันให้เกษตรกรใช้เป็นช่องทางในการส่งสินค้าขาย ไปยังตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น“ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567 ให้แก่ผู้แทนสหกรณ์ จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ สาขาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม ประเภทร่วมใจแก้จน ระดับดีเด่น 4 ผลงาน ดังนี้ ผลงาน “วิถีกสิกรสู่วิถีกสิกรรมอย่างยั่งยืน สหกรณ์พัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงแม่สอง จำกัด” จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตาก ผลงาน “ยางพารา พลิกวิกฤตแก้จน คนกันทรอม” จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ ผลงาน “เกษตรผสมผสานบ้านนาพูนร่วมใจ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน” ผลงาน “น้ำ - ข้าว เขาสะเอียบ Soft Power เมืองช่อแฮ” จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดแพร่ และประเภทสัมฤทธิ์ผลประชาชนแบบมีส่วนร่วม ระดับดี คือ ผลงาน “รวมใจพัฒนาหุบกะพง ขยายผลศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี อีกทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการการจัดผลงานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ อีกด้วย
