เลขาฯ กกต.คาดมีนายก อบจ.ลาออกก่อนครบวาระอีกเพียบ เตือนคนที่อยู่ในตำแหน่ง ช่วง 180 วันก่อนครบวาระ ระวังใช้งบช่วยภัยพิบัติเสี่ยงถูกร้องเอื้อประโยชน์ให้ได้รับเลือกตั้ง คาดวันเลือกตั้งใหม่หลังครบวาระ 26 ม.ค.หรือ 2 ก.พ. 68 ย้ำทำประชามติพร้อมเลือก อบจ.ไม่เหมาะ เหตุติดเงื่อนไขกฎหมาย ไม่ประหยัดงบจริง
วันนี้(28 ก.ย.) ที่จ.สมุทรสงคราม นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์กรณีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารจังหวัด (อบจ.) ว่า ณ วันนี้มีที่เลือกไปแล้ว 3 จังหวัด ซึ่งเกิดจากการลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ และคาดว่าน่าจะมีการทยอยลาออกก่อนหมดวาระในวันที่ 19 ธ.ค.2567 เพิ่มอีก ซึ่งเท่ากับว่าบางจังหวัดจะทำให้มีการเลือก 2 ครั้ง คือมีการเลือกนายกอบจ.ก่อน แล้วเลือกสมาชิกอบจ.อีกครั้งหนึ่ง หากนายกอบจ.อยู่ครบวาระก็จะได้จัดเลือกพร้อมกันได้
"วันนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีนายกอบจ.ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระอีกกี่จังหวัด เพราะการลาออกนั้นอยู่เหนือการควบคุม แต่เราก็พอมีข่าวอยู่บ้างว่าน่าจะมีการลาออกอีกหลายจังหวัด ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการจัดการเลือกนายกอบจ.หรือเลือกสมาชิกอบจ.แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเลือกพร้อมกัน หรือเลือกแยก เราก็พร้อมอยู่แล้ว แต่อาจจะกระทบกับงบประมาณ ซึ่งโดยรวมเลือกใหญ่ๆ ก็คือหลังหมดวาระ 19 ธ.ค.67 แต่เลือกวันไหน มีตารางอยู่แล้วว่าใน 45 วัน เราจะทำอะไรบ้าง "
เมื่อถามถึงแผนการป้องกันปัญหาการจัดกิจกรรมของผู้สมัคร เป็นเหตุให้ต้องจัดเลือก ใหม่เหมือนที่เกิดขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี นายแสวง กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทั่วไป หรือเลือกแทนตำแหน่งที่ว่าง กกต.มีมาตรการป้องกันเหตุที่จะทำให้เกิดการเลือกที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย แต่ผู้สมัครเองอาจหวังผลชนะ เลยมีการทำเลยไปจากกฎหมาย ซึ่งเรื่องแบบนี้นับวันจะน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่น หรือระดับชาติ แต่ก็ไม่ได้วางใจในเรื่องนี้ และมีมาตรการดูแลอยู่ โดยดูเป็นรายจังหวัด บางจังหวัดอาจจะไม่มีการแข่งขัน เพราะมีผู้สมัครคนเดียว
เมื่อถามว่า ขณะนี้เข้าเกณฑ์ระยะเวลาที่อบจ.จะไม่สามารถใช้งบประมาณในกิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อการหาเสียงหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เงื่อนเวลา 180 วันก่อนครบวาระ หากทำตามโครงการงบประมาณประจำปีก็ยังสามารถทำได้ เพราะก็ถือว่ายังเป็นนายกอบจ.อยู่ เขาต้องดูแลประชาชน แต่ถ้าเป็นการทำเกินจากนั้นก็ต้องดูว่า คืออะไร จูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปออกเสียงหรือไม่ ผิดปกติหรือไม่ ก็ต้องมาดูเป็นรายประเด็นไป คิดว่าอาจจะต้องระวัง บางครั้งเขาอาจจะทำถูก แต่ด้วยความไม่แน่ใจ บางครั้งเลยลาออก เพื่อให้ไม่อยู่ใน 180 วันก็มี แต่การลาออกไม่ได้มีแค่เหตุผลเดียว เป็นเหตุผลทางการเมืองในพื้นที่ก็มี อันนั้นทำให้เราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าจะมีนายกอบจ.ที่ไหนลออกอีก
เมื่อถามว่า อาจมีการใช้เรื่องการช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติ เพื่อเอื้อประโยชน์หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า จริงๆ เรื่องน้ำท่วมใครก็ช่วยได้ แต่ต้องดูว่าเมื่ออยู่ในช่วง ที่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้ง ต้องอยู่ในข้อกฎหมายเรื่องการหาเสียง แต่สำหรับคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้วก็ต้องมาดูว่าการช่วยเหลือนั้น อยู่ในแผนงานงบประมาณหรือไม่
"เรื่องการช่วยเหลือน้ำท่วมคงไม่ได้อยู่ในแผนงานการใช้งบประมาณของอบจ. แต่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นแบบกระทันหัน ก็จะดูว่าการช่วยเหลือนั้นสมควรแก่เหตุหรือไม่ เพราะเขาเองก็มีหน้าที่ในการช่วยเหลือ ดังนั้นข้อเท็จจริงแบบนี้เราสามารถแยกดูได้ ถ้าถามว่าเสี่ยงจะมีการ ร้องหรือไม่ผมคิดว่ามีการร้องเรียนแน่นอน แต่เราให้ความเป็นธรรมได้"
นายแสวง ยังกล่าวถึงการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า กกต. มีหน้าที่ทำประชามติ ในเรื่องใด ตามความเห็นชอบของ ครม. โดย กกต. จะมีปฏิทินการทำงาน หากมีการเสนอการทำประชามติ พร้อมการเลือก อบจ. สามารถทำได้ตามทฤษฎีและการบริหาร แต่ในทางกฎหมายอาจมีปัญหาที่ผู้มีสิทธิ์เลือกมีลักษณะคล้ายกันมาก และในบางจังหวัดมีการเลือกนายก อบจ. ไปแล้ว คาดว่างบประมาณอาจจะใช้เป็น 2 เท่า และขณะนี้ความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายประชามติยังไม่แน่ชัด จึงเห็นว่าการทำอย่างใดอย่างหนึ่งจะเป็นแนวทางที่ดีกว่า เช่นกันเลือก อบจ. อย่างเดียว คนละวันกับการทำประชามติ
ทั้งนี้มีรายงานว่ากรณีการเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ.กรณีครบวาระในวันที่ 19 ธ.ค 67 ซึ่งจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วันนั้นคาดว่าวันเลือกตั้งอาจกำหนดเป็นวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค 68 หรือวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.68