วันนี้(27 ก.ย.)ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐคาซัคสถานเข้าร่วมการประชุมผลักดันความร่วมมือด้านการเกษตรกับ Mr. Epmek Kenzhehahanuly (นายเออร์เมก เคนเซฮานุลี) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงเกษตรสาธาธารณรัฐคาซัคสถาน เพื่อส่งเสริมการค้าด้านเกษตร
ศ.ดร.นฤมล ยังได้หารือถึงการถ่ายทอดเทศโนโลยีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการเกษตรในสาขาต่าง ๆ โดยการแลกเปลี่ยนนักวิชาการ การวิจัยร่วมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาตลาด การส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า และการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารและความปลอดภัยทางอาหารด้วย
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เดินหน้าเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการเกษตรกับคาซัคสถาน ในด้านต่าง ๆ ทั้งมิติวิชาการและการค้า ซึ่งคาซัคสถานถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียกลางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีความร่วมมือด้วยอย่างเป็นทางการ แม้ว่าที่ผ่านมาการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับคาซัดสถานจะมีปริมาณไม่มากนัก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ แต่คาซัคสถานเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีประชากรประมาณ 20 ล้านคน มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 450,000 บาทต่อปี และเป็นประเทศที่มีฐานเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียกลาง”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว
ศ.ดร.นฤมล ระบุต่อว่า คาซัคสถานมีนโยบายที่จะเป็นศูนย์กลางในการขนส่งของกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (EAEU) จึงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องเกษตรกรของทั้งสองฝ่าย ในส่วนของการค้าสินค้าเกษตรและอาหาร เนื่องจากคาซัคสถานเป็น EAEU ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับระบบของสหภาพยุโรป ทำให้การส่งออกสินค้าดังกล่าวจากไทยจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มประเทศดังกล่าว
“เราจึงได้มีการหารือถึงการเสริมสร้างความร่วมมือและแนวทางในการส่งออกสินค้าในรูปแบบทวิภาคีกับคาซัคสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกสินค้าประมงแปรรูปและสินค้าฮาลาล จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานในเรื่องดังกล่าว โดยกระทรวงเกษตรฯได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรระหว่างไทยและคาซัคสถาน ครั้งที่ 1 เพื่อให้เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อมูลนโยบายเกษตรที่สำคัญ การผลักดันโครงการความร่วมมือด้านวิชาการเกษตร รวมทั้งการหารือถึงแนวทางการขยายการค้าสินค้าเกษตรและอาหารระหว่างกัน”ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้าย