เปิดหนังสือ "มท.หนู" เซ็นคำสั่งให้ "เอกพจน์ ปานแย้ม" พ้นตำแหน่ง นายกเทศมนตรีคลองหลวง กรณีทุจริต "จัดซื้อถุงยังชีพโควิด-19 โดยมิชอบ" ตั้งแต่ ปี 2564 หลัง ผู้ว่าฯปทุมธานี ทำหนังสือเสนอ มท.1 ตามมติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พบมีมูลความผิดทางอาญา ปิดช่องอดีตนัดร้องดังหลุดตำแหน่ง หลังชนะเลือกตั้งท่วมท้น เมื่อ 28 มีนาคม 2564 กว่า 1.5 หมื่นคะแนน
วันนี้ (26 ก.ย. 67) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย มีหนังสือคำสั่งที่ 2046/2567 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย
ได้มีคำสั่งให้ นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง กรณีทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019
หนังสือ 3 หน้าบรรยายว่า ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงตามความเห็นและหลักฐานของผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน
ในเรื่องที่มีการกล่าวหา นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี กับพวกเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
กรณีการจัดซื้อถุงยังชีพโดยมิชอบและโดยทุจริตเพื่อเอื้ออำนวยให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้มีสิทธิเข้าเป็นคู่สัญญากับเทศบาลเมืองคลองหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2564 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติว่าการกระทำของนายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีตีเมืองคลองหลวง มีมูลความผิดทางอาญา และมีมูลความผิด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ปรากฏตามความเห็นและหลักฐานของผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
ที่รายงานมาว่า นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวงได้อนุมัติจัดซื้อถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อปี พ.ศ. 2564
ออกประกาศรับลงทะเบียนผู้ได้รับความเดือดร้อน ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 และประกาศรับลงทะเบียน (เพิ่มเติม) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564
แต่ในวันที่ 23 มิถุนายน 2564 นายเอกพจน์ ปานแย้ม ได้ยื่นญัตติต่อสภาเทศบาลเมืองคลองหลวง ขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมจำนวน 11,000,000 บาท เพื่อจัดซื้อถุงยังชีพ จำนวน 20,000 ชุด ชุดละ 550 บาท
การที่นายเอกพจน์ ปานแย้ม ขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมเพื่อซื้อถุงยังชีพ 20,000 ชุด ก่อนมีการสำรวจและรับลงทะเบียน โดยมีการตกลงจำนวนถุงยังชีพที่จะซื้อไว้ล่วงหน้าแล้วระหว่างนายเอกพจน์ ปานแย้ม กับเจ้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนมีการดำเนินการจัดซื้อตามขั้นตอนของกฎหมาย
จนกระทั่งภายหลังบริษัทเอกชนได้ส่งมอบพัสดุถุงยังชีพต่อเทศบาลเมืองคลองหลวงแล้ว นายเอกพจน์ ปานแย้ม ก็ไม่สามารถแจกจ่ายถุงยังชีพให้แก่ประชาชนตามวัตถุประสงค์ของการจัดซื้อได้
เนื่องจากมีการซื้อเกินกว่าจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนขอรับถุงยังชีพ อันเป็นการบริหารราชการที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการได้รับความช่วยเหลือด้านดำรงชีพที่แท้จริงของประชาชน และเกินความต้องการของประชาชน
ส่งผลโดยตรงทำให้ไม่สามารถแจกถุงยังชีพได้ครบตามจำนวนที่จัดซื้อ อันกระทำไปโดยมีมูลเหตุจูงใจเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบ และมีลักษณะเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเป็นเหตุให้เทศบาลเมืองคลองหลวงได้รับความเสียหาย
จึงให้นายเอกพจน์ ปานแย้ม พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ในวาระการดำรงตำแหน่ง อันเป็นผลจากการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564
มีรายงานว่า ตอนท้ายของหนังสือ ระบุว่า อนึ่งการโต้แย้งคำสั่งนี้ ให้ทำการฟ้องร้องเป็นหนังสือยื่นศาลปกครอง หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองที่มีเขตอำนาจ ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำสั่ง ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
ทั้งนี้ นายเอกพจน์ ปานแย้ม ได้รับเลือกเป็นนายกเทศบาลเมืองคลองหลวง ด้วยคะแนน 15,240 คะแนน.