วันนี้(26 ก.ย.)นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา เขต 3 กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำว่า ชีวิตเกษตรกร ชาวนาชาวไร่ นอกจากปัญหาหนี้สินแล้ว การทำมาหาเลี้ยงชีวิตในแต่ละปีก็มีสิ่งเข้ามาสร้างปัญหาอีกมากมาย มีน้ำท่วมมีฝนแล้ง แมลงกัดกิน ท้าทายชีวิตโดยตลอด ปีไหนผลผลิตดี ราคาก็เป็นสิ่งที่มาท้าทายอีก โดยเฉพาะในปีนี้ นอกจากจะเจอภัยน้ำท่วมหนักในรอบ 100 ปี ราคาข้าวโพดก็มาตกต่ำซ้ำเติมเข้าไปอีก โดยราคาที่รับซื้อขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 5.70 สตางค์ ขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 6 บาท ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน ค่ารถเกี่ยว รถไถ ก็รวมเฉลี่ยแล้ว ไร่ละเกือบ 5,000 บาท ขณะที่ผลผลิตต่อไร่จะมีรายได้ไม่เกิน 4,800 บาท ทำให้พี่น้องเกษตรกรเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
“สาเหตุใหญ่มาจากเราปล่อยให้มีการนำเข้าจากต่างประเทศมากเกินไป จึงส่งผลกระทบต่อผลผลิตภายในประเทศ ตนขอให้กระทรวงพาณิชย์ได้โปรดชดเชยเยียวยา และรีบหามาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน”นายจีรเดช กล่าว
นายจีรเดช ยังกล่าวต่อว่า ตนอยากฝากถึงกรมส่งเสริมการเกษตร เนื่องจากมีพี่น้องเกษตรกรชาวนา ชาวไร่ จำนวนมาก ที่ไม่ได้ไปขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยเฉพาะผู้ปลูกข้าวโพดที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติอยู่ในขณะนี้ ทำให้ไม่ได้รับเงินชดเชย เยียวยาจากรัฐบาล ซึ่งตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ข้าวโพดเสียหายจะได้รับไร่ละ 1,900 บาท ส่วนนาไร่ละ 1,300 บาท เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดส่วนใหญ่ไม่มีใครไปลงทะเบียน เพราะที่ผ่านมาหลายปีไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น เมื่อน้ำป่าไหลหลากสร้างความเสียหาย จึงไม่สามารถขอรับเงินเยียวยาจากรัฐบาลได้
“ภัยพิบัติในปีนี้นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนที่อยู่อาศัยแล้ว พืชสวนไร่นาก็ถูกทำลายแทบหมดเนื้อหมดตัว ผมขอฝากให้รัฐบาลช่วยหาแนวทางแก้ไขระเบียบหลักเกณฑ์เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรที่กำลังทุกข์ร้อนจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ได้รับเงินเยียวยาเฉกเช่นเดียวกับผู้ขึ้นทะเบียนไว้ด้วย”นายจีรเดช กล่าว