xs
xsm
sm
md
lg

“พรรคส้ม”ยื่นแก้รธน.เพื่อ “ธนาธร” พอโดนไล่บี้ เลยโยนขี้ “ไอติม” ** ทีเด็ด “เด็จพี่” จับโป๊ะ “ลุงป้อม” ลาสภาฯเป็นฉากบังหน้า ทำตัวเหมือน “เหยี่ยว” โฉบรถมาเซ็นชื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - พริษฐ์ วัชรสินธุ -พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ “พรรคส้ม”ยื่นแก้รธน.เพื่อ “ธนาธร” พอโดนไล่บี้ เลยโยนขี้ “ไอติม”

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา มีการ “หักกันเอง” ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล

จากกรณีที่ประชุมสส.พรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล มีมติไม่หนุน ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ของพรรคเพื่อไทย ที่มุ่งแก้ปัญหาจริยธรรมของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และเปิดช่องให้ “ทักษิณ ชินวัตร”กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ เพื่อตัดปัญหาเรื่องครอบงำพรรค

ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องรีบประชุมด่วน และสุดท้ายก็ยอมตีธงถอย แต่ยังไม่ชัดว่าถอยเข้ากลีบเมฆ หรือถอยชั่วคราว

และในวันเดียวกันนั้น พรรคประชาชน ก็ดอดเข้ายื่น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต่อประธานรัฐสภา เช่นกัน

เสนอแก้ 10 มาตรา เนื้อหาสาระเกี่ยวกับ 4 ประเด็นหลัก...คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ... มาตรฐานจริยธรรม...การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และ สุดท้ายกระบวนการร้องเรียน ป.ป.ช.

เรียกว่าเสนอแก้แบบ “สุดซอย” ไม่แพ้ของพรรคเพื่อไทย ...หั่นปมจริยธรรม ทั้งนักการเมือง-ตุลาการศาลรธน. ตัดอำนาจ ป.ป.ช.สอบจริยธรรม เพิ่มช่องทางสอบป.ป.ช. พร้อมคลายโทษประหารชีวิตทางการเมือง

ยกตัวอย่างเช่น แก้ไข ม.160 ว่าด้วยคุณสมบัติของรัฐมนตรี ก็ให้ตัด (4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และ (5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ออกไป

แก้ ม.168 ว่าด้วยการให้ครม.ที่พ้นจากตำแหน่ง ให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ โดยได้ตัดถ้อยคำที่โยงกับ ม.160 (4) และ (5) ออกไป

แก้ม.201 ว่าด้วยคุณสมบัติของตุลาการศาลรธน. โดยตัด (4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทิ้งไป

แก้ ม.202 ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของตุลาการศาลรธน. โดยตัด (10) มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ออกไป

แก้ ม.219 ที่ให้ศาลรธน. และองค์กรอิสระร่วมกันกำหนดมาตรฐานจริยธรรมใช้บังคับ ที่ครอบคลุมให้ใช้กับ สส.- สว. และครม. แก้เป็น “ให้ศาลรธน.และองค์กรอิสระ ต่างมีอำนาจกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรรมที่ใช้บังคับกับผู้ดำรงตำแหน่ง และหัวหน้างานหน่วยธุรการขององค์กรตนเอง”

ในส่วนของป.ป.ช.เสนอแก้ ม.234 หน้าที่และอำนาจของ ป.ป.ช. ให้ตัดถ้อยคำใน (1) ที่กำหนดให้ป.ป.ช. มีอำนาจไต่สวนและมีความเห็นกรณีฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ออกไป และตัด (4) ว่าด้วยหน้าที่และอำนาจอื่นที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย ออก

แก้ ม.235 ว่าด้วยการตรวจสอบ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดรธน. ที่กำหนดขั้นตอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยได้ตัด (1) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกา เพื่อวินิจฉัย

นอกจากนี้ ยังแก้ไขในส่วนของบทกำหนดโทษ ที่ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ที่ถูกพิพากษา จากเดิมที่กำหนดเวลา 10 ปี เป็น 5 ปี และ ตัดการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งออก ทำให้บทลงโทษดังกล่าวเหลือเพียงการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 5 ปี เท่านั้น และยังได้แก้บทลงโทษของผู้ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ที่รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดโทษ ตัดสิทธิลงเลือกตั้ง สส. สว. สมาชิกท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดชีวิต และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แก้ไขระยะเวลาเป็นไม่เกิน 5 ปี

ตรงนี้ชัดเจนแบบไม่ต้องอ้อมค้อม เหนียมอายว่าแก้เพื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา10ปี จากที่ศาลรธน.สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณี “ธนาธร” ในฐานะหัวหน้าพรรค ปล่อยเงินกู้ให้พรรค

“ธนาธร” ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 ถ้าลดโทษจาก 10 ปี เหลือ 5 ปี ...เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า หรืออีกประมาณ 5 เดือน “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ” และกรรมการบริหารพรรคชุดนั้น ก็กลับมาโลดแล่นบนเวทีการเมืองได้แล้ว
หลังจาก เว็บไซต์ของรัฐสภา ได้เผยแพร่รายละเอียดของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของ “พรรคสีส้ม”ออกไป ก็มีเสียงวิพากวิจารณ์ตามมาอื้ออึง ไม่ต่างจากที่เคยถล่มพรรคเพื่อไทย

ทำให้ “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ต้องออกมาแถลงข่าวชี้แจง ยืนยันว่า ทั้งหมดทั้งมวล ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของพรรคประชาชน แต่ทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนจริงๆ...

เมื่อถามว่าใครเป็นคนต้นคิด ต้นเรื่อง ที่ดอดนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ ไปยื่นต่อประธานรัฐสภา “ณัฐวุฒิ” โบ้ยให้ไปถาม “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ คนรุ่นใหม่ของพรรค ที่พยายามทำอะไรต่อมิอะไร หวังจะให้เจ้าของพรรคเห็นฝีไม้ลายมือ แต่ก็ถูกมองข้ามไปเสียทุกที ทุกเรื่อง

ว่าไปแล้ว “พรรคสีส้ม” เป็นฝ่ายค้าน อยู่แบบโดดเดี่ยว หัวเดียวกระเทียมลีบ โอกาสที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้จะผ่านวาระ 1 ขั้นรับหลักการ แทบไม่มี ... ก็ขนาด “เพื่อไทย” ที่เป็นฝ่ายรัฐบาล 320 เสียง เมื่อถูกพรรคภูมิใจไทยหักเอา ยังต้องยอมถอย
เชื่อเถอะ ถึงจะรู้ว่าไปไม่รอด แต่พรรคประชาชนก็จะยังคงเดินหน้า อย่างน้อยก็ได้ใช้เวทีสภา ถล่มศาลรัฐธรรมนูญ ถล่ม ป.ป.ช. เพื่อเอาใจ “ติ่งส้ม” ถือเสียว่าดีกว่าอยู่เปล่าๆ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
++ ทีเด็ด “เด็จพี่” จับโป๊ะ “ลุงป้อม” ลาสภาฯเป็นฉากบังหน้า ทำตัวเหมือน “เหยี่ยว” โฉบรถมาเซ็นชื่อ

ลุงจะทำเป็นเล่นไปเชียว จากความเคลื่อนไหวของ“เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ตอนนี้ลงจากโรงลิเก มาขึ้นเวทีคอนเสิร์ต เป็น“นักร้อง” ล่าสุดต้องบอกจัดว่าเด็ด!

“เด็จพี่” เปิดตัวแซะ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาสักระยะแล้ว ด้วยการขยี้ซ้ำ “คลิปเสียงหลุด” จนมาถึงจับโป๊ะการทำหน้าที่สส.ของลุง

เมื่อวานนี้(25ก.ย.) “เด็จพี่” เข้ายื่นหนังสือพร้อมหลักฐานให้ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาฯ เพื่อสอบจริยธรรม “พล.อ.ประวิตร” กรณีโดดร่ม ไม่มาประชุมสภาฯ เรียบโร้ย

“เด็จพี่” จะเด็ดลุงด้วยข้อมูลวัน "ลา- มา -ขาด" ในการเข้าประชุมสภาฯ ที่ได้มาจากสำนักเลขาธิการสภาฯ ตั้งแต่ วันที่ 3 ก.ค.66 จนถึงปัจจุบัน พบว่า “พล.อ.ประวิตร” ลงชื่อมาประชุมโดยใช้บัตรลงทะเบียน 11 ครั้ง ลาป่วย 1 ครั้ง ลากิจ 83 ครั้ง

รวมวันขาดประชุมโดยน่าจะใช้การลาเป็นฉากบังหน้ารวม 84 ครั้ง จากวันประชุมทั้งหมด 95 ครั้ง

“เด็จพี่” พบว่า จุดสำคัญมีอยู่หนึ่งสมัยประชุมที่ลุงลาทั้งสมัยประชุมครบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยอ้างเหตุผล “ติดภารกิจ” ซึ่งการลาแบบนี้ น่าจะถือเป็นการลาที่น่าจะมีเจตนาพิเศษ น่าจะเป็นการจงใจขาดประชุมโดยใช้ “การลาเป็นฉากบังหน้า” และน่าจะมีการใช้อำนาจแทรกแซงเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อดำเนินการอย่างเป็นระบบ เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดไว้ว่า ส.ส.จะขาดประชุมได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของจำนวนวันประชุมในสมัยประชุม และข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของส.ส.ที่ว่า ส.ส.ต้องอุทิศเวลาให้กับการประชุม ต้องไม่ขาดการประชุมโดยไม่จำเป็น เว้นแต่เจ็บป่วย หรือมีเหตุสุดวิสัย

“เด็จพี่” ชี้ชัดๆ ข้อมูลระบุว่าในวันที่ พล.อ.ประวิตร แจ้งลาติดภารกิจ ไม่เข้าประชุมสภาฯ บางวันก็ไปนั่งเชียร์วอลเลย์บอลผ่านออนไลน์ เปิดบ้านป่ารอยต่อให้คนไปอวยพรวันเกิด แบบนี้เขาเรียกว่าเหตุสุดวิสัย หรือไม่ !?

การขาดประชุมโดยใช้การลา น่าจะเป็นฉากบังหน้า ลาติดต่อกันทั้งสมัยประชุม ถือได้ว่า พล.อ.ประวิตร ขาดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.แล้ว จึงหวังว่า กรรมการจริยธรรมฯ จะตรวจสอบเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมา ไม่ช่วยเหลือให้พ้นผิดจนเสียเกียรติภูมิของสภาฯ
ยิ่งในวันที่ลงชื่อมาประชุม ยิ่งน่าสงสัย เพราะจากการตรวจสอบกับเพื่อนส.ส.หลายคน รวมถึงคนระดับประธานวิปรัฐบาล พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เคยเห็น พล.อ.ประวิตร มาอยู่ในห้องประชุมเลย แต่กลับมีคนเห็นลับๆ ล่อๆ ที่ห้องหลังบัลลังก์ประธานสภาฯ ในบางครั้ง

การมาประชุมสภาของ “พล.อ.ประวิตร”เป็นเหมือน “เหยี่ยว” คือ โฉบรถมาเซ็นชื่อ ชนิดที่ไม่ต้องลงจากรถจริงหรือไม่ แถมมีคนเอาบัตรประจำตัว ส.ส.ไปสแกนให้จริงหรือไม่ !?

“เด็จพี่”จะไม่หยุดแค่นี้ ฟังว่าจะไปยื่นเรื่องให้ป.ป.ช. ช่วยตรวจสอบ ค้นหาความจริงเรื่องนี้ด้วย

สรุปว่า ทีเด็ดของ “เด็จพี่” เห็นว่า ถ้าลุงลาแบบนี้ ลาโดยใช้วิธีพิเศษ ที่น่าจะไม่เป็นวิธีการปกติทางกฎหมาย ลุงก็ลาออกเถอะ ลาออกจากความเป็นส.ส. แล้วเลื่อนคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในลำดับถัดไปให้มาทำหน้าที่ เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติสง่างาม

งานนี้ น่าสนใจติดตามผลงานของ“เด็จพี่” จะทำอะไรลุงได้หรือไม่...และ "ลุงป้อม" จะสวนอย่างไร หรือจะงัดวิชาก้นหีบท่องคาถาไม่รู้ๆๆ ก็รอดูกันต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น