สส.พรรคส้ม เผย ฝ่ายโจทก์เตรียมยื่นศาลขอออกหมายจับ “พลเอก พิศาล” สส.พท. นับถอยหลังหนึ่งเดือน คดีตากใบหมดอายุความ ฝากนายกฯ กำชับ จนท.หลังมีข่าวฝ่ายความมั่นคงเตรียมรับสถานการณ์
วันนี้ (25 ก.ย.) นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงความคืบหน้าคดีตากใบหลังเหลือเวลา 1 เดือนก่อนคดีหมดอายุวันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยขอให้ประชาชนจับตาดูความคืบหน้าของความยุติธรรมในประเทศนี้ ว่า จะทำงานได้ดี และได้รับความร่วมมือหรือไม่
คดีตากใบ แบ่งออกเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่ราษฎร 48 คน ฟ้องต่อศาลจังหวัดนราธิวาส นัดคำให้การแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งจำเลยทั้ง 7 คน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่ได้เดินทางไปศาล ก่อนจะออกหมายจับจำเลย 6 คน และออกหมายเรียกพลเอก พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จำเลยที่หนึ่ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากฝั่งตำรวจว่าได้จับกุมจำเลย หรือ พลเอก พิศาล ตอบรับหมายเรียกหรือไม่
ล่าสุด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงต่อสื่อ ว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือส่งกลับที่ศาลจังหวัดนราธิวาส เกี่ยวกับมาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญ การดำเนินคดีของศาลสามารถทำได้เลย ตราบใดที่ไม่เป็นการขัดขวางของการประชุมสภา ซึ่งศาลนัดครั้งต่อไป คือ วันอังคารที่ 15 ต.ค. 67 ซึ่งไม่น่าจะเป็นการขัดขวางการประชุมสภา นอกจากนี้ ฝ่ายโจทก์กำลังจะทำหนังสือถึงศาลนราธิวาส เพื่อขอให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ พลเอก พิศาล จำเลยที่หนึ่งในคดีนี้ด้วย
อีกสำนวนเป็นสำนวนที่อัยการสูงสุดได้มีการแถลงว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 67 อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง 8 ผู้ต้องหา โดยเห็นแย้งกับพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป โดยมีรายงานว่า ฝ่ายความมั่นคงเตรียมรับมือกับสถานการณ์หลังคดีตากใบหมดอายุความ สำนวนนี้จึงเป็นสำนวนที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะมีอีกหลายขั้นตอน จึงฝาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กอ.รมน.กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะดูทรงแล้วการเตรียมรับมือหลังหมดอายุความเป็นการตั้งสมมติฐาน ว่า คดีนี้ต้องนำจำเลยเข้าสู่การพิจารณาของศาล ก่อนคดีจะหมดอายุความให้ได้
นายรอมฎอน ยังได้ติดตามการส่งหมายข้ามเขตของศาลจังหวัดนราธิวาส พบว่า มีผู้การตำรวจประมาณ 4-5 คน ได้มีการติดตามจำเลยที่เป็นอดีตข้าราชการระดับสูงหรือไม่ ประกอบด้วย ผู้การนนทบุรี ผู้การนครศรีธรรมราช ผู้การสงขลา ผู้การสุราษฎร์ธานี ผู้การสมุทรสงคราม และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
โดยในวันที่ 9 ต.ค.นี้ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน จะเชิญเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการติดตามคดีตากใบมาชี้แจงต่อที่ประชุม ตนเองในฐานะ สส.เตรียมที่จะตั้งกระทู้เรื่องนี้ ฝากรัฐบาลและนายกฯ เตรียมตอบคำถาม
นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) อัยการจะสั่งฟ้องนักเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 9 คน ที่ถูกดำเนินคดีจากกรณีการจัดกิจกรรมชุมนุมชุดมลายู (Melayu Raya 2022) ณ หาดวาสุกรี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยคดีนี้เป็นคดีสัญลักษณ์ เป็นการชี้ขาดว่าประเทศนี้จะเปิดโอกาสให้ประชาชนคนธรรมดาที่ไม่ติดอาวุธใช้การเคลื่อนไหวโดยสันติวิธี มีปากมีเสียงและมีพื้นที่ทางการเมืองมาน้อยขนาดไหน ซึ่งคดีนี้จะส่งสัญญาณไม่บวกก็ลบต่อกระบวนการพูดคุยสันติภาพ
ส่วนความคืบหน้าของการพูดคุยสันติภาพ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังไม่ชัดเจนเรื่องการแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุขชุดใหม่ ตอนนี้ยังเคว้งอยู่ ตนเองจึงมีความเป็นห่วง ยิ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ที่มีการปล้นปืนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา วินาทีแบบนี้ต้องการความชัดเจนของรัฐบาล ทั้งทิศทางการแก้ไขปัญหา และทิศทางทางการเมือง
นายรอมฎอน เร่งให้นายกฯ และนายภูมิธรรม มีความชัดเจนเรื่องการแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุขโดยเร็ว ไม่เช่นนั้น ความรุนแรงจะกลับมา หากปล่อยให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการรับมืออย่างเดียว สถานการณ์จะยิ่งบานปลาย
โดยปลายสัปดาห์นี้คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ จะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อศึกษาดูงานพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง โดยหนึ่งในเรื่องที่จะมีการพูดคุย คือ การนัดหมายผู้ที่จะทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวก เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วย