“จิรายุ” เผย นายกฯ เชิญ รมต.คุม ศปช.ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด วันนี้ กำชับ จนท.ต้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้ไว
วันนี้ (25 ก.ย.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ที่อำนวยการ สั่งการในศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยหารือร่วมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
นายจิรายุ เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รับนโยบายของนายกรัฐมนตรี และได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งปฏิบัติการในส่วนที่มีเหตุการณ์สำคัญ และขอให้อำนวยความสะดวก จัดทำบัญชี และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ทันทีตามแนวทางที่กำหนด โดยไม่ต้องรอระยะเวลา โดยให้จังหวัดทยอยส่งข้อมูลมายัง ปภ. โดยเร็วตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด สำหรับเอกสารที่ใช้ยื่นเป็นหลักฐานในการขอรับเงินช่วยเหลือ ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมด้วยหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีเป็นบ้านพักอาศัยที่มีทะเบียนบ้าน) สัญญาเช่าบ้านหรือหนังสือรับรองการเช่าจาก อปท. (กรณีเป็นบ้านเช่า) หากเป็นกรณีอื่น อาทิ บ้านพักอาศัยประจำ แต่หากไม่มีทะเบียนบ้านจะต้องให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมกับผู้นำชุมชน ตรวจสอบข้อเท็จจริงและลงนามรับรอง โดยขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้เปิดให้ทำบัตรประชาชนและออกทะเบียนบ้านใหม่ โดยผู้ประสบภัยไม่ต้องแจ้งความโรงพักแล้ว สามารถไปดำเนินการได้ที่อำเภออำเภอ สำนักงานเทศบาลหรือรถโมบายเคลื่อนที่ของกรมการปกครอง
ส่วนกรณีประชาชนที่ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคาร สามารถไปลงทะเบียนพร้อมเพย์ได้ทุกธนาคาร โดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ทางด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ดำเนินการระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ประชาชนทุกคนจะต้องได้รับการแจ้งเตือนภัย ซึ่งทาง ดีอี ได้มีการประชุมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) ได้มีการแจ้งเตือนภัย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อส่งต่อไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ รวมถึงส่งไปยังกรมประชาสัมพันธ์ ทำให้ 4 ตำบล ในอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง และจังหวัดอื่นๆ ที่ต้องเตรียมการรับมือ ได้รับทราบข้อมูลซึ่งเป็นการเตือนภัยในระดับ 3 เป็นการแจ้งให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนทั้งแบบ SMS รายการประกาศผ่านวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ จะส่งถึงประชาชนโดยตรง