ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ สุดซอยไปเลยเพ่! ทัวร์ลง "ทวี สอดส่อง" ยกตรรกะ แก้รธน.ปมจริยธรรมเปรียบเด็กทำผิดยังได้เป็นผู้พิพากษา
เริ่มส่อเค้าจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก “เพื่อไทย-ประชาชน” สองพรรคใหญ่ พักศึกมาแตะมือเพื่อผลประโยชน์ร่วม เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็น“จริยธรรม” และอำนาจขององค์กรอิสระ
เหตุและผลถูกยกมาเอ่ยอ้างถึงความเร่งรีบต้องแก้ แต่คนที่เรียกทัวร์มาจอดลานหน้าบ้านได้บานเบอะ คือ
"พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุลฉันใด "ตรรกะ" ของ พ.ต.อ.ทวี ก็โดนชาวโซเชียลฯ ก่นประณามประมาณนั้น
บางคนก็อนาถใจ คนที่มีตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คิดอธิบายมาได้อย่างไร ?
ข่าวว่า “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า สส.หรือฝ่ายบริหารที่มาจากประชาชน มีบทบาทน้อยเพราะถูกตรวจสอบเยอะ จึงคิดว่าองค์กรอิสระที่มีอำนาจมากเกินไป ควรจะอยู่ในจุดสมดุล
ส่วนในประเด็นคุณสมบัติทาง "จริยธรรม" มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ไม่มีนิยามที่ชัดเจน ยกตัวอย่าง แม้แต่ศาลเองผู้ที่กระทำความผิดตอนที่เป็นเด็กก่อนอายุ 18 ปี มีประวัติอาชญากร ยังให้เป็นผู้พิพากษาได้เลย
แน่นอน ตรรกะเช่นนี้มีคนเข้ามาแสดงความเห็นแย้ง พ.ต.อ.ทวี แบบทัวร์ลง
อย่างเช่น สส. - สว.หรือ รัฐมนตรี ถือเป็นผู้แทนของประชาชนกว่า 60 ล้าน ย่อมต้องมีคุณสมบัติที่ดีพร้อมไม่ใช่หรือ? ไปเทียบอะไรกับเด็กที่ทำผิดแต่ยังได้เป็นผู้พิพากษา
การเป็นนักการเมือง รัฐมนตรีนี่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของคนทั้งประเทศ หากไม่สุจริต จริยธรรมไม่ได้ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ พ.ต.อ. เอาอะไรคิด
เด็กนิสัยไม่ดี..แก้ได้ ผู้ใหญ่สันดานไม่ดี..แก้ไม่ได้ รัฐมนตรี ต้องมีนิสัย และสันดานดีเท่านั้น
มาตรฐานจริยธรรม ก็ควรเป็นมาตรฐานที่แยกแยะดีชั่วได้ ต้องคัดกรองคนที่ไม่ดีออกไป เพราะต้องใช้จริยธรรมที่สูงกว่างานทั่วไป จะใช้มาตรฐานเดียวกันไม่ได้ มิเช่นนั้น รปภ. คงไม่ได้ขับเครื่องบิน
ถาม พ.ต.อ.ทวี มีเด็กกี่คนที่ทำผิดแล้วเป็นผู้พิพากษา นักการเมืองทำผิดตอนเด็ก หรือทำผิดตอนโตล่ะ อย่ามั่วเอามารวมกัน ถ้ากลัวจริยธรรมขนาดนั้น แนะนำเลิกเล่นการเมือง ลาออกเถอะ!
เป็นนักการเมือง ต้องมีจริยธรรม คุณธรรมเต็มร้อย ถ้าไม่อยากมี ก็ลาออกไปทำงานบริษัทชินวัตรโน่น
สรุปว่า ทั้งหมดทั้งมวลนักการเมือง แก้รธน.ประเด็นจริยธรรมก็เพื่อตนเอง !
งานนี้ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กไว้น่าสนใจเช่นกัน
อดีตกกต. จั่วหัวว่า ระวังการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องจริยธรรม จะเป็นเหตุของการสิ้นสุดรัฐบาล!!
เพราะ การแก้รัฐธรรมนูญต้องเริ่มจากประโยชน์ส่วนรวม แต่ข้อเสนอที่เร่งรีบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ประสานเสียงทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ว่าต้องการแก้ในประเด็นจริยธรรม และอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ในการวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว อาจต้องคิดทบทวนให้ดี จะเป็นเหมือนการแก้แบบ "สุดซอย" อีกหรือไม่ !?
เนื่องเพราะเพื่อไทย เคยโดนวินิจฉัยประเด็นความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี กระเด็นจากเก้าอี้ไปแล้ว กลัวว่าหากไม่รีบแก้ นายกฯ คนปัจจุบันอาจจะโดนซ้ำรอย
ขณะที่ “ก้าวไกล”โดนยุบพรรค ด้วยเหตุมีพฤติกรรมล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และ ลามต่อยังส.ส. 44 คน ว่าอาจเข้าข่ายละเมิดจริยธรรมขั้นร้ายแรงในมาตรฐานจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ โดยขณะนี้เรื่องอยู่ที่ ป.ป.ช.
การประสานเสียงแก้รัฐธรรมนูญ ของ 2 พรรค จึงดูเหมือนเริ่มจากประโยชน์ส่วนบุคคล หรือของพรรคเป็นหลักหรือไม่ !?
นิรโทษกรรมสุดซอยเคยมีมาแล้ว และจบด้วยการสิ้นสุดรัฐบาล การแก้รัฐธรรมนูญเรื่องจริยธรรมแบบสุดซอยกำลังจะเกิดขึ้น หวังว่าคงไม่นำไปสู่การสิ้นสุดของรัฐบาล
งานนี้ตัวใครตัวมัน...สุดซอยไปเลยเพ่!?
++ “ลุงป้อม” โดนรุกหนักเรื่องโดดร่ม ประธานวิปรัฐบาลถึงกับออกปากไล่ อยู่ไปก็เปลืองเงินภาษีประชาชน
ไม่เพียงแค่พรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถูกเตะโด่งไปเป็นฝ่ายค้าน ตัว“ลุงป้อม”เองก็โดนรุกหนัก ทั้งเรื่องทวงคืนบ้านป่าฯ ที่อยู่ในค่ายทหาร เรื่อง“คลิปเสียง” ที่หลุดออกมา ว่าอยากเป็นเบอร์ 1 เรื่องเงินๆ ทองๆ และเรื่องแทรกแซงการโยกย้ายข้าราชการมหาดไทย ทำเอาลุงต้องอมเลือด
ล่าสุดยังถูก “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับ “ประธานวันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่สส.ของ “ลุงป้อม” ว่าโดดร่มบ่อยมาก แทบไม่เคยเห็นเข้าประชุมสภา โหวต“นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ก็ไม่ไป โหวต “นายกฯอุ๊งอิ๊ง” ก็ไม่ไป การพิจารณากฎหมาย ก็ไม่ไป ถือว่าเข้าข่ายผิดข้อบังคับ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสส.
“เด็จพี่”เอาตัวเลขมาอ้างอิงประกอบคำร้องว่า “ลุงป้อม” ไม่ได้ไปลงมติในการประชุมสภาฯ 13 ครั้ง จากทั้งหมด 16 ครั้ง พร้อมยกข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ที่กำหนดว่า สส.จะต้องอุทิศเวลามาประชุม และต้องไม่ขาดประชุมโดยไม่จำเป็น เว้นแต่เจ็บป่วยหรือมีเหตุสุดวิสัย ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(12) สมาชิกภาพ สส. สิ้นสุดลง เมื่อขาดประชุมเกิน 1 ใน 4 ของจำนวนวันประชุม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากประธานสภาฯ
เรียกว่ากะให้ “ลุงป้อม” ต้องสิ้นสภาพ ส.ส.ออกจากสภาฯไปเลย ถ้าผลการตรวจสอบพบว่า วันที่หายตัวไปนั้น ไม่ได้ยื่นใบลา!!
เรื่องนี้ “ประธานวันนอร์” บอกว่า ยังไม่ได้เช็กว่า สมัยประชุมที่แล้วกับสมัยประชุมนี้ “ลุงป้อม” มาประชุมกี่ครั้ง และที่ไม่ได้มานั้น ได้ส่งใบลาครบหรือไม่ แต่เรื่องอย่างนี้ตรวจสอบกันได้ เพราะมีการเซ็นชื่อทุกครั้งที่มีการประชุม
แต่หากขาดโดยไม่ลา และไม่มีเหตุผลพอ ก็เสนอให้พ้นจากสมาชิกภาพได้ แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับใบลา และเหตุผล เพราะมีบางคนที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ส่งใบลาพร้อมใบรับรองแพทย์มาตลอดสมัยการประชุมก็มี เพียงแต่ใบลานั้น ไม่ได้มาถึงประธานสภาฯ เพราะ มีเลขาธิการสภาฯ คอยดูแลอยู่ ประธานฯไม่ต้องเซ็นอนุญาตให้ลา ยกเว้นผู้ที่มาเซ็นชื่อเข้าประชุมไม่ทัน และขออนุญาตเพิ่มชื่อ กรณีเช่นนี้ประธานฯ ก็ต้องเป็นผู้อนุญาต และดูเหตุผล
เอาเป็นว่า เรื่องนี้ “ประธานวันนอร์” ขอเวลาตรวจสอบก่อน !!
ขณะที่ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาล จากพรรคเพื่อไทย คนนี้ออกตัวแรง เพราะเห็นว่า “ลุงป้อม” ขนแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.หนองคาย ไปแจกถุงยังชีพให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม และวันที่ไปนั้นก็เป็นวันพฤหัสบดี (19 ก.ย.)ที่มีการประชุมสภาผู้แทนฯ
ประธานวิปรัฐบาล บอกว่าที่ผ่านๆมา ตนเองมาประชุม ก็ไม่เคยเห็น “พล.อ.ประวิตร” ไม่รู้ว่ามีการลงชื่อเข้าร่วมการประชุม ด้วยหรือไม่ หากไม่ได้ลงชื่อเข้าร่วมการประชุม ก็ไม่สมควรที่จะเป็น สส. เพราะสส.มีหน้าที่มาประชุมสภาฯ มีหน้าที่ออกกฎหมาย ควบคุมการทำงานของรัฐบาล ดังนั้นควรทำงานให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชน
...ฝากถึงประชาชนในพื้นที่ หากทุกวันพุธ และพฤหัสบดี ถ้าพบสส.ไปลงพื้นที่ แสดงว่า สส.คนนั้น ละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ ที่รัฐสภา ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ และไม่ควรอยู่ในสภาฯนี้ต่อไป ขอให้พิจารณาตัวเองด้วย หากไม่มีเวลามาประชุม ก็ลาออกไป แต่ถ้ายังอยากเป็นสส. แต่ไม่มาประชุม ถือว่าเป็นคนที่น่ารังเกียจ รับเงินภาษีของประชาชนแล้วไม่มาประชุม ก็ไม่ควรเป็นผู้แทน
ประธานวิปรัฐบาล ออกมาร่วมขยี้แรงๆ ให้เจ้านายเห็น
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า มุกนี้ของ “เด็จพี่” จะทำอะไร “ลุงป้อม” ได้หรือไม่
แต่อย่าลืมว่า ชายชาติทหารอย่าง “ลุงป้อม” ถ้าจะโดดร่มแบบไม่ให้เสี่ยงกับการโหม่พสุธา ก็ต้องให้ความสำคัญกับระบบ “เซฟตี้” เป็นอันดับแรก