xs
xsm
sm
md
lg

คืบหน้า! ห้ามผู้เข้าดำรงตำแหน่ง “ผู้ใหญ่บ้าน” กรณีถูกคำพิพากษาถึงที่สุด หลังผ่านรับฟังความเห็น ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คืบหน้า “ร่างแก้ไข กม.ลักษณะปกครองท้องที่” ฉบับมหาดไทย เพิ่ม 3 กฎหมาย และขยับ 10 กฎหมาย จากบัญชี ข. ขึ้น บัญชี ก. ห้ามผู้เข้าดำรงตำหน่ง “ผู้ใหญ่บ้าน” ในกรณีที่เคยเป็น “ผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุด” หลังผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็น เข้าสู่การตรวจพิจารณาของกฤษฎีกา เผยคำถาม เน้นถามเห็นดด้วยหรือไม่ ที่กำหนดให้กฎหมาย และระบุฐานความผิด (เดิมไม่กำหนดฐานความผิด) ไว้ในบัญชี ก. และ ข.

วันนี้ (19 ก.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าต่อร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ

เพื่อเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ฉบับเดิม เกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ “ผู้ใหญ่บ้าน” ในกรณีที่เคยเป็น “ผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุด”

ว่ากระทำผิดตามที่กฎหมายกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 12(11) และมาตรา 23 และเพิ่มมาตรา 12(11/1))

“ไม่เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิดตามกฎหมาย และฐานความผิดตามที่กำหนดไว้ในบัญชี ก กฎหมายและฐานความผิด”

ล่าสุด พบว่า อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ภายหลัง ร่างฯ ฉบับนี้ ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็น เมื่อปลายเดือน ส.ค. และแล้วเสร็จเมื่อ ต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา

การรับฟังความคิดเห็นของร่าง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 13/2563 ลงวันที่ 2 กันยายน 2563 และศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 7-8/2565 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2565

พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 มาตรา 12(11) ที่บัญญัติคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน

ต้องไม่เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายยาเสพติดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 26 เนื่องจากไม่กำหนดฐานความผิดและระยะเวลาการจำกัดสิทธิไว้

ซึ่งคำถามส่วนใหญ่ 15 ข้อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่ร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม 13 กฎหมาย เป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านตามบทบัญญัติมาตรา 12(11)

เนื่องจาก พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ฯ มิได้กำหนดฐานความผิดและระยะเวลาการจำกัดสิทธิไว้อย่างชัดเจน

สมควรดำเนินการแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติมาตรา 12(11) มิให้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และมีความเหมาะสมกับการกระทำและความหนักเบาแห่งสภาพบังคับ ตลอดจนสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน

เห็นด้วยหร้อไม่กับการเพิ่มบัญชีท้ายร่างพระราชบัญญัติ เช่น กำหนดฐานความผิดหรือระยะเวลาการจำกัดสิทธิให้ชัดเจนยิ่งขึ้น กำหนดให้กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด และระบุฐานความผิด

กำหนดให้กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง และระบุฐานความผิด (เดิมไม่กำหนดฐานความผิด) ไว้ในบัญชี ก และเพิ่มระบุฐานความผิด (เดิมไม่กำหนดฐานความผิด) ไว้ในบัญชี ข

โดย ร่างฉบับนี้จะระบุฐานความผิดเพื่อการจำแนกประเภทการกระทำความผิดและความหนักเบาแห่งสภาพบังคับตามลักษณะและพฤติการณ์แห่งการกระทำ

พร้อมกำหนดระยะเวลาของการต้องห้ามเป็นผู้ใหญ่บ้านสำหรับความผิดบางประเภท เป็นเวลา 10 ปี และหากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวสามารถสมัครเพื่อเข้ารับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านได้

สำหรับกฎหมายฉบับนี้ ได้มีการเพิ่มเติมกฎหมายและฐานความผิด ซึ่งเป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม จากเดิมที่มีกฎหมาย 10 ฉบับ เพิ่มขึ้นเป็น 13 ฉบับ เพื่อคุณสมบัติบุคคลที่จะเป็นผู้นำหมู่บ้านอย่างเข้มงวด

สำหรับกฎหมายและฐานความผิดซึ่งเป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม “เดิม” ซึ่งมีกฎหมาย 10 ฉบับ ประกอบด้วย

กฎหมายว่าด้วยป่าไม้ กฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า กฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยศุลกากร

กฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนในฐานความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้

กฎหมายว่าด้วยที่ดินในฐานความผิดเกี่ยวกับที่สาธารณประโยชน์ กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง กฎหมายว่าด้วยการพนันในฐานความผิดเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก

ทั้งนี้ ได้ “เพิ่มเติม” กฎหมายและฐานความผิดซึ่งเป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม อีก 3 ฉบับ ประกอบด้วย

กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยการทวงถามหนี้

ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ฉบับเดิม ซึ่งกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านไว้เข้มงวด

เพื่อป้องกันมิให้บุคคลที่เคยกระทำผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้เข้าสู่ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หากบุคคลดังกล่าวมาเป็นผู้นำราษฎร อาจทำให้เกิดการต่อต้านขึ้นในชุมชน หมู่บ้าน ไม่ยอมรับบุคคลที่จะมาเป็นผู้นำ

นอกจากนี้ ผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมายและเป็นพนักงานฝ่ายปกครองที่มีหน้าที่นำนโยบายของรัฐบาลไปปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จภายในหมู่บ้าน

จึงต้องอาศัยคุณสมบัติผู้มีมาตรฐานสูง มีความประพฤติที่ดี ไม่เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือของราษฎรในหมู่บ้าน เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม จึงจำเป็นต้องพิจารณาคุณสมบัติบุคคลที่จะเป็นผู้นำหมู่บ้านอย่างเข้มงวด


กำลังโหลดความคิดเห็น