“ก่อแก้ว” โพสต์ร่ายยาว อ้างรัฐประหาร 19 กันยาฯ หวังหยุดยั้งกระแสความนิยม "ทักษิณ" พรากสารพัด 'โอกาส' ไปจากคนไทยตลอด 18 ปี ชี้ 'เพื่อไทย' มุ่งมั่นเดินหน้ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
วันนี้(19 ก.ย.) นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความเนื่องในวันครบรอบ 18 ปี ของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยระบุว่า การรัฐประการ 19 กันยายน 2549 เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล ผมเป็นวิศวกร จากครอบครัวยากจน ที่มุ่งหวังสร้างฐานะด้วยการประกอบธุรกิจส่วนตัว แต่ผิดหวังกับรัฐบาลทุกยุค จนกระทั่ง ปี 2544 ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้เห็นประเทศไทยฟื้นจากวิกฤติต้มยำกุ้ง เดินหน้าไปสู่การพัฒนาในหลายด้าน เช่น ปฏิรูประบบราชการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจขนานใหญ่ เกิดความหวัง ความสุข และความภาคภูมิใจแก่คนทั่วประเทศ รวมทั้งการชื่นชมและยอมรับจากนานาชาติ
รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่มาจากประชาชน สร้างรัฐบาลที่เข้มแข็ง และมีเอกภาพ ทำให้การบริหารประเทศและการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด ก่อให้เกิดเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ครั้งแรก
การรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.2549 เป็นการรัฐประหารที่ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อโค่นล้มและหยุดยั้งกระแสนิยม ดร.ทักษิณ ชินวัตร
การรัฐประหารครั้งนั้น ไม่เพียงทำลาย ดร.ทักษิณ พรรคไทยรักไทย เท่านั้น แต่ยังทำลายเศรษฐกิจและความหวังของคนไทยทั้งประเทศ
ผมไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร จุดยืนที่นำมาสู่การเข้าร่วมกับพี่และเพื่อนที่นำโดย คุณวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ร่วมกับคุณจักรภพ คุณจตุพร และคุณณัฐวุฒิ ด้วยการตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อว่า PTV เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะ ในการต่อต้านการยึดอำนาจ และสนับสนุนประชาธิปไตย
ที่ต่อมา ไปตั้งเวทีปราศรัยต่อต้านการยึดอำนาจ ณ ท้องสนามหลวง และได้หลอมรวมกลุ่มต่างๆ ที่มีจุดยืนเดียวกัน กลายเป็น "แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช)" มีประชาชนที่รักประชาธิปไตยเป็นแนวร่วมหลายล้านคน ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
จนถึงวันนี้ ผ่านไปแล้ว 18 ปี
บนถนนสายที่ผมตัดสินใจเดินมาเพียงชั่วข้ามคืน จากเดิมที่ทำธุรกิจส่วนตัว สู่ ประชาชนที่เคลื่อนไหวบนท้องถนน ร่วมกับคนทุกเพศทุกวัย ต้านการรัฐประหาร และหาหนทางนำประชาธิปไตยกลับสู่สังคมไทย
เส้นทางการต่อสู้ เพื่อทำให้ประชาธิปไตยทำให้โดนคดีมากมาย ติดคุกหลายรอบ สูญเสียเวลาและโอกาส แต่ยังโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่
การรัฐประหาร 2549 โดย คมช. เปลี่ยนแปลงการเมืองไทยและประชาชนไทย ไปแบบที่ไม่สามารถเรียกคืนทุกอย่างให้กลับคืนมาได้
การรัฐประหารซ้ำในปี 2557 โดย คสช. เป็นการซ้ำเติมปัญหาของประเทศอย่างหนักหน่วง
หลังการรัฐประหาร 2549 และ 2557 คมช.และ คสช. มีการจัดทำรัฐธรรม ปี 2550 และ ปี 2560 ที่ปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน มีความพยายามซุกซ่อนอำนาจของคณะรัฐประหารเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ ลดทอนสิทธิเสรีภาพและอำนาจของประชาชน เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศและการพัฒนาประชาธิปไตยของสังคมไทย ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดี ทำให้เกิดการไม่ยอมรับ และก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมที่รุนแรงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีนโยบายสำคัญ 1 ในนั้นคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เป็นประชาธิปไตยตามหลักสากล ที่มาจากประชาชน เป็นของประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้ผลักดันหลายเรื่องผ่านรัฐสภา เพื่อปูทาง นำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด
และเชื่อมั่นว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ภายใต้การบริหารประเทศของ ท่านนายกฯ แพทองธาร ซึ่งมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างประชาธิปไตยอย่างยิ่ง จะเดินหน้าไปสู่การมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน คืน ‘ประชาธิปไตยที่กินได้’ ให้คนไทยอีกครั้ง